Allergens – Ongoing Challenges in the Global Food Industry

สารก่อภูมิแพ้ – ความท้าทายในอุตสาหกรรมอาหาร

โดย: ศรีประไพ ปาจรียานนท์
Sriprapai Pajareeyanon
Food Division Manager
British Standards Institution (BSI)

Full article TH-EN

การปนเปื้อนของสารก่อภูมิแพ้สามารถเกิดขึ้นในขั้นตอนใดก็ได้ของกระบวนการผลิตอาหาร ทั้งจากกระบวนการผลิตเบื้องต้น การขนส่ง การจัดเก็บ การผลิตและแปรรูป ไปจนถึงการบริการด้านอาหาร จากที่เคยกล่าวถึงในบทความเรื่อง “อาหารปลอม – มีอะไรบ้างที่เรายังไม่รู้?” การเติม หรือทนแทนสารอาหารที่มีราคาถูกกว่าเพื่อทำกำไรไม่ใช่เรื่องผิดปกติ โดยแค่อาหารปลอมก็สามารถทำลายความน่าเชื่อถือของสินค้าและแบรนด์จากลูกค้าและผู้บริโภคได้แล้ว แต่ยิ่งแย่ไปอีกเมื่ออาหารที่นำมาเติมทดแทนเป็นอาหารที่มีสารก่อภูมิแพ้ซึ่งอาจทำให้เกิดผลเสียที่ถึงแก่ชีวิต เช่น การพบถั่วลิสงในขมิ้นบดในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา และการพบถั่วอัลมอนด์ในผงปาปริก้าและขมิ้นในสหราชอาณาจักร เดนมาร์ก สวีเดน และนอร์เวย์ โดยในขณะที่ต้นตอของการปนเปื้อนไม่ได้ถูกชี้แจง แต่สงสัยกันว่าผงถั่วบดน่าจะถูกใส่มาเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้กับเครื่องเทศ ผลของการปนเปื้อนทำให้ผู้ผลิตมีการเรียกสินค้าหลายชนิดคืนทั้งในยุโรปและอเมริกาเหนือ
ความท้าทายในกระบวนการผลิตอาหารขั้นต้นมาจากความกดดันในการแข่งขันในตลาดโลกในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ โดยเกษตรกรเลือกปลูกพืชหมุนเวียน และเลือกใช้ระบบร่วมกันในการเก็บเกี่ยว เก็บรักษา และขนส่งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ซึ่งทำให้เกิดการปนเปื้อนกันของสินค้าเกษตร เช่น การปนเปื้อนของซีเรียลที่มีกลูเตนและผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลูเตน ขณะที่ในการเก็บรักษาสัตว์ทะเลเปลือกแข็งและกุ้งก็มีการเติมซัลไฟต์ลงไปเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ดูสดใหม่ ซึ่งทำให้การพิจารณาตัวแปร การชี้แจงหรือระบุสภาพวันที่ผลิตเป็นอะไรที่ยากมาก และยังมีความเป็นไปได้ว่าสารซัลไฟต์อาจปนเปื้อนเกินมาตรฐานที่กำหนด หรือมาตรฐานที่ยอมรับได้ในการผลิตด้วย

Allergen contamination can occur at any stage of the food supply chain from primary production, transport, storage, manufacturing through to food service. As discussed in ‘Food Fraud: What you don’t know’, the addition or substitution of cheaper adulterants for economic gain is lucrative and therefore not uncommon. Just on its own food fraud can damage customer and consumer confidence in your products and brand, but when the substitution involves an allergenic substance it can also have deadly consequences. Undeclared peanut was found in ground cumin in the US and Canada, while undeclared almond was found in both paprika and ground cumin in the UK, Denmark, Sweden and Norway. While the cause of the contamination has not been positively identified, it’s suspected that cheap ground nutshells were added to ‘bulk up’ the spices. This contamination resulted in multiple recalls across Europe and North America.

Primary production challenges arise from competitive global market pressures to produce high-quality products at the lowest possible price. Farmers using rotational cropping and the widespread sharing of harvesting, storage and transport equipment between crops often inadvertently contribute to cross-contamination between cereals which contain gluten and those that don’t. Crustacea and prawns have sulphite added postharvest to preserve their fresh appearance. Given the variables within the process, validation is often difficult and there is the possibility that concentrations of sulphites may exceed the regulatory or specified acceptable limits.

Edible Packaging

บรรจุภัณฑ์ที่บริโภคได้

โดย: ดร.ณัฐดนัย หาญการสุจริต
Nathdanai Harnkarnsujarit, Ph.D.
Department of Packaging and Materials Technology
Faculty of Agro-Industry, Kasetsart University

Full article TH-EN

บรรจุภัณฑ์ที่บริโภคได้เป็นวัสดุใช้ห่อหุ้มอาหารโดยสัมผัสกับอาหารได้โดยตรง ช่วยปกป้องอาหารจากปัจจัยภายนอกต่างๆ ช่วยอำนวยความสะดวกในการบริโภคอาหาร ใช้ในการแบ่งแยกสัดส่วนอาหารที่มีคุณลักษณะแตกต่างกัน โดยผลิตจากวัตถุดิบที่เป็นส่วนประกอบอาหาร จึงสามารถบริโภคพร้อมอาหารได้โดยตรง หรืออาจลอกออกก่อนการบริโภค ในกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่บริโภคได้นั้นจะประกอบไปด้วย การเตรียมสูตรวัตถุดิบ แล้วนำไปขึ้นรูปด้วยกระบวนการต่างๆ ให้เป็นบรรจุภัณฑ์ เช่น กรวยไอศกรีม ถ้วยใส่ขนม แผ่นฟิล์ม เป็นต้น

การใช้งานบรรจุภัณฑ์ที่บริโภคได้ในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปและยามีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มสภาพต้านทานการซึมผ่านของไอน้ำ แก๊สออกซิเจน และสารระเหย ทำให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการเก็บรักษายาวนานขึ้น โดยมีการผลิตใน 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ สารเคลือบผิวอาหาร เช่น ผักสด ผลไม้ เนื้อสัตว์ และอาหารแปรรูป ซึ่งสารเคลือบผิวนั้นมีลักษณะเป็นชั้นวัสดุบางๆ ที่เคลือบบนผิวอาหารโดยตรงด้วยวิธีการพ่นฝอย การจุ่ม การแช่ เป็นต้น แล้วนำไปทำแห้งเพื่อให้วัสดุเกาะเป็นชั้นที่ผิวอาหาร นอกจากนี้ มีการผลิตเป็นแผ่นฟิล์มสำหรับนำไปห่อหุ้ม หรือวางระหว่างผลิตภัณฑ์อาหารที่องค์ประกอบต่างกัน หรือนำไปขึ้นรูปเป็นเปลือกแคปซูลยา และซองบรรจุ เป็นต้น ฟิล์มและสารเคลือบบริโภคได้จึงลักษณะคล้ายคลึงกัน คือ เป็นชั้นบางที่ผลิตจากองค์ประกอบที่สามารถรับประทานได้ ใช้สำหรับห่อหุ้มอาหารเพื่อยืดอายุ หรือปรับปรุงคุณภาพอาหาร อย่างไรก็ดี เมื่อกล่าวถึง “ฟิล์มบริโภคได้” นิยมหมายถึง วัสดุที่ขึ้นรูปแยกส่วนออกจากชิ้นอาหาร ในขณะที่ “สารเคลือบบริโภคได้” คือ วัสดุที่ขึ้นรูปโดยตรงบนผิวอาหาร

Edible packaging made from food materials that can be safely used in direct contact with food products. It protects foods against extrinsic parameters those accelerate quality deteriorations and increased shelf-life of foods. The materials can also be placed to separate multi-component food products. The edible package can either be eaten with food itself or remove before food consumption. Several forms of edible packages are available in the markets such as ice cream cone, cup, film, etc.

The edible packaging has been used in the food and pharmaceutical products to retain quality, stability and increase shelf-life. It provides barrier against oxygen, humidity and volatile. There are 2 forms of edible packaging namely edible coating and film. The edible coating is a thin layer directly applied on food surface by spraying, dipping, panning, etc. Then the edible layer adheres on food surface after drying. Conversely, the edible film is a preformed material used for wrapping or placing between food components. The film can also be converted into pouch and capsule for several food and pharmaceutical applications. The terms “edible film” and “edible coating” are interchangeably used which refer to a thin layer of edible materials applied on foods to extend shelf-life or modify food qualities. The edible film, however, generally refers to a stand-alone packaging materials.

Multiparameter Beverage Analysis

การวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม

โดย: บริษัท เมทเล่อร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จำกัด
Mettler-Toledo (Thailand) Limited

Full article TH-EN

ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแต่ละชนิดต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพหลายต่อหลายครั้ง ทั้งการวัดค่าความเป็นกรด ค่า pH และค่า Brix เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคว่าจะได้น้ำผลไม้และน้ำอัดลมที่มีคุณภาพมากที่สุด

การตรวจวัดค่าตัวแปรเหล่านี้สามารถทำได้แล้วด้วยเครื่องมืออัตโนมัติ1 เพียงชิ้นเดียว ซึ่งรวมทั้งกระบวนการนำก๊าซออกจากน้ำด้วย ที่บริษัท Ramseier Suisse AG ผู้ผลิตเครื่องดื่มในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ การใช้เครื่องมือดังกล่าวช่วยให้พวกเขาสามารถเร่งกระบวนการควบคุมคุณภาพสินค้าได้ถึง 10 นาที ต่อหนึ่งตัวอย่าง

Ramseier Suisse AG มีประวัติการผลิตเครื่องดื่มที่ยาวนานหลายทศวรรษ และยังเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่ม โดยผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ได้แก่ Ramseier Sinalco และ Elmer นอกจากนี้ยังรับผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์อื่นๆ อีกด้วย จากมาตรฐานด้านคุณภาพในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่เข้มงวด ทำให้บริษัทฯ ต้องทดสอบด้านการควบคุมคุณภาพหลายครั้ง ก่อนจะส่งสินค้าไปยังผู้บริโภค ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายนี้ การควบคุมคุณภาพจึงต้องมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้

Beverage products undergo multiple quality control tests, including acidity, pH and Brix measurements, to ensure that consumers get the most from their juices and sodas.

These measurements can now be done within a single autosampler system1 that also includes degassing. At Ramseier Suisse AG, a leading Swiss beverage producer, this has sped up the quality control workflow by around 10 minutes per sample.

Ramseier Suisse AG has several decades of experience in beverage production and holds a solid position in the Swiss beverage market thanks to selling their own brands, including Ramseier, Sinalco and Elmer, and producing a variety of other beverages under private labels. The strict quality standards in the industry require running several quality control tests on the products before they reach the consumer. With so many different products, efficient and reliable quality control is crucial.

Water from The Desert

By: Matthias Kreutz

Krones AG

Full article TH-EN

ในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2557 Guedila หนึ่งในผู้ผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดชั้นนำในประเทศแอลจีเรีย ได้ตัดสินใจลงทุนอัพเกรดสายผลิตน้ำดื่มบรรจุในขวด PET ถึงสองไลน์ ผ่านการนำเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงจากเยอรมนีเข้ามาประยุกต์ใช้งานเป็นครั้งแรก

 

นับตั้งแต่ต้นปี 2557 Guedila ได้เริ่มใช้สายผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด PET ที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงพร้อมกันถึง 2 ไลน์ ซึ่งหัวใจหลักของไลน์ใหม่ทั้งสองนี้ก็คือ เครื่องเป่าขึ้นรูปขวดและเครื่องบรรจุประสิทธิภาพสูง1 ที่มีวาล์วและและแคปเปอร์มากถึง 90 จุด ลำดับขั้นการทำงานของทั้งสองไลน์นี้เริ่มด้วยการส่งพรีฟอร์มเข้าสู่เครื่องพรีฟอร์มคิปเปอร์2 หลังจากนั้นก่อนจะถูกลำเลียงต่อไปยังเครื่องขึ้นรูป1 พรีฟอร์มจะถูกจัดเรียงให้เป็นระเบียบอย่างอัตโนมัติ3 และล้างด้วยระบบฉีดล้างพรีฟอร์มแรงดันสูง4 ที่มีการประยุกต์ใช้ Ionised air และแสงยูวีช่วยฆ่าเชื้อร่วมด้วย เพื่อความมั่นใจสูงสุดด้านความสะอาดและสุขลักษณะในการผลิตของ Guedila ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีมาตรฐานสูง ส่วนด้านประสิทธิภาพการบรรจุ ไลน์ใหม่ทั้งสองไลน์สามารถบรรจุน้ำดื่ม ขนาด 1.5 ลิตรและ 2.0 ลิตร ได้รวดเร็วถึง 36,000 และ 30,000 ขวดต่อชั่วโมง ตามลำดับ ซึ่งการผลิตน้ำดื่มขวดขนาด 2.0 ลิตรนั้น จะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอนเท่านั้น อีกทั้งยังมีราคาเทียบเท่ากับขวดขนาด 1.5 ลิตร ตลอดระยะเวลา 30 วันของการถือศีลอด ซึ่งเท่ากับว่าในช่วงเวลาดังกล่าวผู้บริโภคจะได้รับน้ำสะอาดเพื่อบริโภคฟรีถึง 3 ลิตรต่อการซื้อ 1 แพ็ค เลยทีเดียว ทั้งนี้ โรงงาน Guedila นั้นเดินการผลิตถึง 3 กะต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ เรียกได้ว่า 24/7 แบบไม่มีหยุด โดยนอกจากไลน์การผลิตใหม่ทั้งสองไลน์แล้ว Guedila ยังมีไลน์การผลิตอีกสองไลน์ที่ติดตั้งก่อนหน้านี้ในปี 2547 และ 2553 ทั้งหมดนี้สามารถรองรับการผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดได้หลากหลายขนาด ตั้งแต่ 0.33 ลิตร ไปจนถึง 2.0 ลิตร ในจำนวนประมาณ 3 ล้านขวดโดยเฉลี่ยต่อปี

 

In Algeria, Guedila ranks among the market leaders for bottled water. In the spring of 2014, the company invested in a technical upgrade, in the shape of two PET lines for still water, opting for a state-of-art technology for the first time.

 

Guedila has been operating the two identical lines since early 2014. Their heart is a blow-moulder/filler block1 with 90 filling valves and a capper. Both these lines begin with the preform feed, as these are poured into a preform-kipper2.  They are then orientated to perfection in the automatic roller sorter3. Guedila attaches major importance to ultra-rigorous standards of hygiene, which is why they use a prejet4. The rinser cleans the preforms using ionised air, UV light destroys harmful germs. Only then will the PET preforms be passed to the stretch blow-moulding machine1. Both lines fill 1.5-litre bottles at a rated speed of 36,000 bph, or the 2.0-litre size at 30,000 bottles an hour. These latter are produced specially for Ramadan, the Muslims’ month of fasting. For thirty days, the 2-litre bottle can then be purchased for the same price as the 1.5-litre size, which means: three litres free of charge in each pack. Guedila runs its production lines in three shifts, operating round the clock. Besides the new two lines, Guedila has two more lines, installed in 2004 and 2010. The company uses a total of seven different PET sizes ranging from 0.33 to 2.0 litres, and averages roughly three million fills of still water a day.

The New Wave of Ethnic Foods

By: www.foodprocessing.com

 Full article TH-EN

ปัจจุบันอาหารชาติพันธุ์ (Ethnic food) และอาหารต่างชาตินั้นดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะผู้บริโภคชาวมิลเลเนียนจำนวนมากซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากทั้งฝั่งทวีปเอเชียและยุโรป จึงสามารถพบเห็นอาหารท้องถิ่นต่างๆ ได้ทุกหนทุกแห่งแม้กระทั่งในซูเปอร์มาร์เก็ต ไม่ว่าจะเป็นในเป็นรูปแบบอาหารสด อาหารที่มีประโยชน์ และอาหารว่างแปลกๆ ใหม่ๆ เป็นต้น อาหารท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ก็ต่างได้รับการพัฒนาและสามารถซื้อหาได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีการท่องเที่ยวในต่างแดน การอพยพของผู้คน ตลอดจนอิทธิพลจากการค้าขายทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้น จึงขับเคลื่อนให้อาหารชาติพันธุ์นั้นได้รับความนิยม

 

ความหลากหลายในอาหารชาติพันธุ์มีมานานในสหรัฐอเมริกา แต่ทว่ามีความทันสมัยที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับความดั้งเดิมที่เป็นอยู่จึงทำให้เกิดความแปลกใหม่ของรสชาติในรูปแบบอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานมากมาย อาทิอาหารสไตล์คิวบา กรีซ เปรู เอธิโอเปีย อินเดีย โปแลนด์ มีการผสมผสานรสชาติจากวัตถุดิบอาหารท้องถิ่นในภูมิภาคนั้นๆ ได้แก่ ข้าวผัดสไตล์อินเดียกับเนื้อ ปลา และผัก สตูว์เนื้อคิวบา เคบับไก่สไตล์อิสราเอล สเต็กเนื้อเกาหลี ข้าวโพดและเนื้ออบหม้อดินเปรู เป็นต้น

Popular Ethnic Foods in U.S.

ข้อมูลจากเว็บไซต์สถิติของสหรัฐอเมริการะบุว่าผลิตภัณฑ์ค้าปลีกในกลุ่มอาหารชาติพันธุ์มีมูลค่ารวมเกือบ 11 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2013 จึงคาดว่าในปี 2018 จะมีมูลค่าพุ่งสูงถึง 12.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอาหารเม็กซิกันกับสเปนมีมูลค่าสูงที่สุด 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามมาด้วยอาหารจากเอเชียหรืออาหารอินเดียพื้นเมือง

 

 

From fresh, bright, healthful fare to the exotic, with Pacific, African and Asian influences, ethnic and international foods seem to be everywhere. Specialty and international food aisles are increasing in supermarkets as consumers, especially millennials, want more interesting fare. Foods of the world are more popular now because international travel, immigration and global trade have skyrocketed, driving great interest globally in ethnic cuisine.

Obviously ethnic foods have been in the U.S. for years, but there are more modern takes on traditional favorites and emerging cuisines from Cuba, Greece, Peru, Ethiopia, India, Poland and beyond – as well as more local and region-specific cuisines from within those lands. Soon, Biryani (Indian seasoned rice, meat, fish or vegetables), Ropa Vieja (Cuban meat stew), Harissa Pargiyot (Israeli chicken kababs), Bulgogi (Korean beef) and Pastel de choclo (Peruvian meat and corn casserole) could appear in the frozen section.

Popular Ethnic Foods in U.S.

In fact, U.S. retail sales of ethnic foods totaled nearly $11 billion in 2013, says statista.com, and the diverse category is primed to generate more than $12.5 billion by 2018. Most sales are generated by Mexican/Hispanic foods, with $1.6 billion followed by products with an Asian/Indian heritage.

4 Harmful Toxins Contaminated in Vegetables and Fruits Sold in The Market

4 สารพิษอันตรายที่ปนเปื้อนในพืชผักผลไม้ที่วางขายในท้องตลาด

Full article TH-EN

กระแสออแกนิกส์หรือเกษตรอินทรีย์กำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรง เนื่องจากปัจจุบันคนเรามีความเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีจากการบริโภคและจากสิ่งแวดล้อมมากกว่า 15,000 ชนิด ซึ่งก่อให้เกิด ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างยากที่จะคาดเดา ด้วยเหตุนี้ “ออแกนิกส์” จึงกลายมาเป็นทางเลือกใหม่ ที่ผู้คนทั่วโลกหันมาให้ ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์และอาหารการกิน ต่างๆ ที่มีกระบวนการผลิตจากธรรมชาติ หรือการผลิตแบบดั้งเดิม โดยไม่มีการฉายรังสี การใช้สารเคมี หรือใช้วัตถุเจือปนอาหารทางเคมีแต่อย่างใด

แม้ทั่วโลกจะให้ความสำคัญต่อเกษตรอินทรีย์ แต่ที่ผ่านมา กระทรวง-สาธารณสุข ได้เคยออกมาเปิดเผยตัวเลขว่าคนไทยป่วยจากพิษสารกำจัด- ศัตรูพืชปีละเกือบ 1,800 คน ซึ่งมีทั้งพิษแบบเฉียบพลัน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ และพิษเรื้อรัง เช่น โรคผิวหนัง มะเร็ง โรคระบบประสาท ที่สำคัญผลการตรวจเลือดเกษตรกรไทยยังอยู่ในเกณฑ์น่าเป็นห่วง และพบว่าเกษตรกรหลายล้านคนมีความเสี่ยงจะป่วย!
นอกจากนี้ ข้อมูลการสำรวจขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ยังพบว่าประเทศไทยมีการตรวจพบสารเคมีตกค้างในผัก และสารเคมีเป็นพิษอันตรายที่ทั่วโลกห้ามใช้ด้วย ซึ่งนอกจากเกษตรกร ซึ่งถือเป็นต้นน้ำของการผลิตที่เสี่ยงแล้ว ผู้บริโภคก็เสี่ยงต่ออันตราย ด้านสุขภาพด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ 4 สารพิษอันตรายที่ปนเปื้อนใน พืชผักผลไม้ที่วางขายในท้องตลาด

Organics or organic farming is a hot food trend today as people are at risk of exposure to the chemicals for more than 15,000 types from consumption and the environment, causing health and the environment impacts which are difficult to predict. The “organic” then becomes a new alternative choice. People all over the world turn their attention more and more especially on products and various food producing natural ways or traditional farming without the use of radiation, chemical, or any food additives.
Despite the global positive outlook on organic farming, the Ministry of Public Health revealed that each year, nearly 1,800 of Thai people get sick from toxic pesticides. These include acute toxicity, such as nausea, vomiting, dizziness, and chronic toxicity such as skin deceases, cancer, and neuropathy. Importantly, the results of blood tests of the Thai farmers are in concerning ratio and found that more than million people are vulnerable to these risks!
Reinforcing by the survey data of the Food and Agriculture Organization of the United Nations, yearly survey found chemical residues in vegetables and harmful toxic chemicals that globally banned. In addition to the farmers who are considered as upstream in the process are at risk, the consumers will also be exposed to health hazards, especially by four of those harmful toxins contaminated in vegetables and fruits selling in the market.

LGBT…Undeniable Niche Market

ตลาดสีรุ้ง … ตลาดเฉพาะกลุ่มที่ไม่ควรมองข้าม

Full article TH-EN

LGBT (Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender) หรือกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้บริโภคที่มีศักยภาพและน่าจับตามองมากที่สุดในขณะนี้ ทั้งนี้ จากการประมาณการของ LGBT Capital (บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินซึ่งให้บริการกลุ่ม LGBT เป็นหลัก) พบว่าปัจจุบันมีชาว LGBT อยู่ทั่ว โลกราว 450 ล้านคน แม้จะไม่มากเมื่อเทียบกับประชากรโลกจำนวน 7,300 ล้านคน แต่การที่กลุ่มผู้บริโภค LGBT มีกำลังซื้อมากถึง 3.7ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี จึงเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ผลิตสินค้าและบริการต่างเล็งเห็นศักยภาพของกลุ่มผู้บริโภคชาว LGBT และพยายามขยายตลาดสินค้าของตนไปยังกลุ่มดังกล่าวกันอย่างคึกคัก

Niche Market ที่มีศักยภาพสูง
ชาว LGBT ส่วนใหญ่มีระดับรายได้ค่อนข้างสูง จากข้อมูลของ Experian Information Solution Inc. พบว่ารายได้ต่อคนต่อปีของชาว LGBT (ชาย) ในสหรัฐฯ สูงกว่ารายได้ต่อคนต่อปีเฉลี่ยของประชากรชายทั่วไปราว 800 เหรียญสหรัฐ และรายได้ต่อปีของครอบครัว LGBT (ชาย-ชาย) โดยเฉลี่ยสูงกว่ารายได้ต่อปีของครอบครัวชาย-หญิงทั่วไปราว 13,400 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ชาว LGBT ส่วนใหญ่ไม่มีบุตร จึงไม่มีภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลและเก็บออมเพื่อบุตร ส่งผลให้ชาว LGBT หรือเรียกว่ากลุ่ม “DINK” (Double Income, No Kids) มีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยและมีกำลังซื้อสูง จึงทำให้ชาว LGBT เป็นกลุ่ม Niche Market ที่มีศักยภาพสูง

LGBT (Lesbian, Gay, Bisexual, and Transgender) or gender diverse people are among the greatest potential and most watched consumers. According to speculation by LGBT Capital (a financial consultant first whose consumers are essentially LGBT), there are approximately 450 million LGBT across the globe. The number may seem small compared to 7,300 million global population, but the group earns up to USD 3.7 trillion annually. This is why product and service providers believe in the potential of LGBT consumers, and eagerly try to expand their goods to penetrate this market.

High Potential Niche Market

LGBT are well-earning. Information from Experian Information Solution Inc. reveals that income per capita of male LGBT consumers in the US is USD 800 higher than the average income per capita of heterosexual male population. The average household income of LGBT family (male-male) is also USD 13,400 higher than heterosexual couple. Meanwhile, most of LGBT families have no children, so they do not have to save for child care, which makes them fall under the DINK (Double Income, No Kids) category. Having the high spending power is the reason why LGBT are a niche market with great potential.

Retail Strategy to Access Niche LGBT Market

ประยุกต์กลยุทธ์ค้าปลีก…เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม LGBT

Full article TH-EN

6 ประเด็นกลยุทธ์ค้าปลีก (Retail strategy) ที่สำคัญและน่าสนใจ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม LGBT (Lesbian, Gay, Bisexual, and Transgender) สำหรับผู้ประกอบการที่มีความสนใจในตลาดพิเศษกลุ่มนี้ ซึ่งแม้จะยังมีปริมาณไม่มากนัก แต่ส่วนมากจะมีกำลังในการซื้อพอสมควร ประกอบด้วย

1. ด้านทำเลที่ตั้ง
ธุรกิจจำเป็นต้องใกล้ชิดกับลูกค้า ควรหาทำเลที่ตั้งที่ลูกค้าเข้าถึงได้สะดวกโดยมองหากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และพื้นที่ที่สามารถอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและเหมาะสมกับประเภทของธุรกิจ โดยพิจารณาปัจจัยเกี่ยวกับความสะดวกในการเข้าถึง การเดินทาง ที่จอดรถ สาธารณูปโภคครบครัน ความปลอดภัย และการสนับสนุนจากภาครัฐ เป็นต้น โดยธุรกิจต้องนำมาใช้เป็นแนวทางและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับประเภทของธุรกิจและตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่ม LGBT ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย

2. ด้านความหลากหลายของประเภทสินค้า
จำเป็นต้องมีความชัดเจนในด้านความคิดสร้างสรรค์และความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์/สินค้า/บริการ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคและรสนิยมเฉพาะของกลุ่ม LGBT ให้ได้ จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลความต้องการบริโภคสินค้าของผู้บริโภคกลุ่มนี้เพื่อปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์/สินค้า/บริการ ของธุรกิจให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น พฤติกรรมที่ชอบความสวยงาม มีเอกลักษณ์ ประณีตและหรูหรา นิยมการใช้บริการและมีวิถีชีวิตที่เน้นความสะดวกสบาย ชอบความรวดเร็ว เทคโนโลยีลํ้าสมัย ชอบสินค้าและบริการที่มีความพิเศษ และแตกต่างจากสินค้าและบริการทั่วไป เป็นต้น

LGBT (Lesbian, Gay, Bisexual, and Transgender) market, despite that it is still small, the consumers in this group have high purchasing power. In this article, 6 crucial retail strategy to help business penetrate the LGBT market has been presented.

1. Location
Business should be close to its customers, hence finding the location that target customers can access easily, as well as providing convenience for the use of services are essential. Business should consider factors like easy access, transportation, car parking, infrastructure, safety, and government subsidies, for example, and apply the strengths and weaknesses to suit the business type and the demand of LGBT consumers.

2. Merchandise Assortments
Business must be bold to present its creativity and expertise in products/goods/services which provides solutions for customers and specific taste on the LGBT group. It also needs to analyze the demands of this particular group of customers to improve its products/goods/services to meet the customers needs such as the demands for good looking, unique, delicate, luxurious, or convenient, fast, modern services, as well as exclusive goods and services that are unique and different.

TeamLGBT

โดย: ชญาน์ทัต วงศ์มณี
Chayatat Vongmanee
Communications Director
Ogilvy Public Relations

Full article TH-EN

ประเด็นความหลากหลายทางเพศและกลุ่ม LGBT (Lesbian, Gay, Bisexual & Transgender) เคยเป็นพื้นที่ดำมืดที่แบรนด์ใดๆ ก็ไม่กล้าเปิดตัวสนับสนุน ทั้งๆ ที่คนกลุ่มนี้ก็คือผู้บริโภคเหมือนกัน แต่ในยุคปัจจุบัน การเคารพสิทธิมนุษยชนและความหลากหลายของมนุษย์เป็นประเด็นที่คนทั้งโลกให้ความสำคัญ และต้องการผลักดันให้สังคมดีขึ้น ในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารก็เช่นกัน มีหลายแบรนด์ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนความหลากหลายทางเพศอย่างกล้าหาญ
แน่นอนว่าการขับเคลื่อนของทุกแบรนด์ย่อมมีทั้งกลุ่มคนชื่นชมและต่อต้านอยู่เสมอ แต่มันคือก้าวย่างที่สำคัญที่องค์กรได้แสดงถึงการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนสังคมไปในทางที่ดีขึ้น นี่คือ 6 แบรนด์ด้านอาหารที่ยืนหยัดสนับสนุน LGBT อย่างชัดเจน

Sexual orientation and LGBT (Lesbian, Gay, Bisexual & Transgender) were used to be the dark issues that got no support from any brand. Although this group of people were considered as one of potential market segments. However, human diversity and respecting human rights nowadays have become the issues that gain priority from people around the world with the force to create a better society. Food industry also gets similar idea. Many brands have fearlessly stepped out to base their positions in supporting sexual orientation.
Definitely, the move of any brand is always welcomed by compliment as well as complaint from people, who share different perspectives. Nevertheless, it is an important step for companies to take part in social contribution and drive community to the better shift.

Ready Meal Market in Thailand

ตลาดอาหารพร้อมรับประทานในประเทศไทย

โดย: ศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร
สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม
Food Intelligence Center Thailand
National Food Institute, Ministry of Industry

Full article TH-EN

อาหารพร้อมรับประทาน (Ready meal) คือ อาหารปรุงสุกที่สามารถรับประทานได้ทันที หรือเพียงนำไปอุ่น อบ นึ่ง หรือเข้าเตาไมโครเวฟไม่กี่นาทีก็นำออกมารับประทานได้

ปัจจุบันอาหารพร้อมรับประทานได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เนื่องจากความกังวลต่อการรับประทานอาหารบรรจุกล่องที่ต้องใช้ไมโครเวฟอุ่นร้อนลดลงไป อีกทั้งยังสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะในสังคมเมืองซึ่งมีข้อจำกัดด้านเวลา จึงต้องการความรวดเร็วและสะดวกสบายเป็นหลัก อีกทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่นิยมอาศัยในคอนโดมิเนียมย่านใจกลางเมืองหรือใกล้สถานที่ทำงาน ซึ่งที่พักอาศัยประเภทนี้ไม่เหมาะกับการปรุงอาหาร หรือแม้แต่กลุ่มผู้บริโภคที่อาศัยอยู่ตัวคนเดียวหรือเป็นครอบครัวขนาดเล็ก ก็ไม่ค่อยปรุงอาหารรับประทานเองที่บ้านมากนัก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ตลาดอาหารพร้อมรับประทานในประเทศไทยเติบโตมากขึ้น โดยในปี 2558 ตลาดอาหารพร้อมรับประทานมีมูลค่า 6,725 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 4,085 ล้านบาท ในปี 2554 คิดเป็นอัตราขยายตัวที่สูงถึงร้อยละ 13.3 ต่อปี

Ready Meal is the cooked meal that is ready to eat by heating, baking, steaming or waving in the microwave for a few minutes before consumption.

Nowadays, ready meal is more acceptable among consumers than it previously did because less concern on the safety of microwavable packages. Moreover, it supports current lifestyle of new generation, especially the one living in metropolitan area with time constraint. Quick and convenience are their living preferences. New generation prefers to live in condominiums at the city center, which are closed to their working places. Cooking is not convenience when you are living in a room. And, even when you are living alone or having small family, cooking becomes an unusual activity at home. These are the factors that make ready meal market growing. In 2016, a market value of ready meal was 6,725 million baht, increasing from 4,085 million baht in 2011 with the high growth rate of 13.3 % a year.