The trend of “Meat Alternative Ingredients.”

แนวโน้มของส่วนผสมอาหารสำหรับเนื้อสัตว์ทางเลือก

ตลาดเนื้อสัตว์ทางเลือกคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15.1 ในปี 2563 เป็น 17.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2570 การเติบโตของตลาดนี้ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของการแพ้โปรตีนจากสัตว์ ประโยชน์ทางโภชนาการของเนื้อสัตว์ทางเลือก จำนวนประชากรที่บริโภควีแกนเพิ่มมากขึ้น และการลงทุนในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ทางเลือก

โปรตีน เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดและสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ทางเนื้อสัตว์ทางเลือก โปรตีนมีความสำคัญต่อโครงสร้าง โดยสัมพันธ์กับการเติมน้ำและการละลาย, การทำให้เกิดอิมัลชันและการเกิดฟอง การยึดเกาะของกลิ่นรส ความหนืด การเกิดเจล เนื้อสัมผัส และการสร้างโด โปรตีนจากถั่วเหลืองเป็นโปรตีนที่ใช้กันทั่วไปในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทางเลือก ในปัจจุบันโปรตีนถั่วจากถั่วลันเตาเป็นที่นิยมมากขึ้นเนื่องจากไม่มีสารก่อภูมิแพ้เหมือนถั่วเหลืองและข้าวสาลี

คาร์โบไฮเดรต สามารถแบ่งออกเป็นสตาร์ชและแป้ง ใช้เพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัสและความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์ สารที่ช่วยในการยึดเกาะ เช่น เมทิลเซลลูโลส แซนแทนกัม คาราจีแนน

กลิ่นรส ถูกเติมลงในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทางเลือกในรูปแบบของเครื่องปรุงรสและเครื่องเทศ การสร้างสรรค์กลิ่นรสที่ “คล้ายเนื้อสัตว์” ในเนื้อสัตว์ทางเลือกนั้นเป็นสิ่งสำคัญและเป็นที่นิยม

ผู้บริโภคมีความต้องการผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทางเลือกที่มีเนื้อสัมผัสและกลิ่นรสที่ได้มาตรฐานสูง บริษัทผู้ผลิตอาหารที่กำลังมองหาวิธีการปรับปรุงคุณภาพทางประสาทสัมผัสของผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเนื้อสัตว์ในปัจจุบัน CJ TasteNrich® และ FlavourNrichTM ผลิตภัณฑ์จากเทคโนโลยีการหมักขั้นสูง สามารถใช้เป็นส่วนผสมที่ให้กลิ่นรสเนื้อสัตว์ที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อปรับปรุงคุณภาพทางประสาทสัมผัสของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทางเลือกได้

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cjbio.net

 

The trend of “Meat Alternative Ingredients.”

The market for meat alternatives is expected to grow at a CAGR of 15.1% from 2020 to reach $17.5 billion by 2027. The growth of this market is mainly attributed to the increasing incidence of intolerance for animal protein, nutritional benefits offered by meat alternatives, increasing vegan population, and venture investments in the meat alternatives industry.

The protein ingredient is one of the most important components for product identity and product differentiation of meat alternative products. Proteins have important structure-function relationships in hydration and solubility, emulsification and foaming, flavor binding, viscosity, gelation, texturization and dough formation. Soy proteins are historically the most common proteins used in meat alternative products but are facing growing pressure from pea proteins. Pea is popular as it has no allergenic shortcomings like soy or wheat.

Carbohydrate ingredients can be categorized as the starches or flours used to improve product texture and consistency or the binding ingredients or gums, like methylcellulose, xanthan gum, carrageenan.

Specific flavor ingredients are added to meat alternative products in the form of seasoning and spices. Creating the “meat-like” flavor in meat alternatives is important and on-trend.

Consumers are demanding meat alternative products, satisfying that their texture and flavor meet high standard. Food companies are looking at ways to improve the functionality and sensory profile of the current meat-free products. CJ TasteNrich® and FlavorNrichTM, fermented products can be considered as key ingredients which unique meaty flavor to improve the sensory profile of meat alternative products.

Find out more information: www.cjbio.net

 

Mintel เปิดตัวรายงานการวิจัยตลาดด้านอาหารและเครื่องดื่ม ในเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2564

Mintel ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยตลาดของผู้บริโภคในกลุ่มสินค้าต่างๆ ได้เปิดตัว Asia Pacific: The Food and Drink Landscape 2021 ซึ่งเป็นรายงานการวิจัยตลาดล่าสุด โดยเจาะข้อมูลเชิงลึกด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และแนวโน้มผู้บริโภคจากทั่วทั้งภูมิภาคในเอเชียแปซิฟิก

เนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้านการบริโภคอาหาร ทั้งการเปลี่ยนไปทำงานที่บ้านในระยะยาว ส่งผลให้ผู้บริโภคนั้นได้รับอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นเมื่อสามารถทำอาหารด้วยตนเองได้ รวมไปถึงการใช้บริการร้านอาหาร การจัดเลี้ยง รวมไปถึงร้านค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) งานวิจัยล่าสุดจากทีมนักวิเคราะห์อาหารและเครื่องดื่มที่เชี่ยวชาญของ Mintel ได้แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมและทัศนคติของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีแนวโน้มที่ส่งผลที่ดีต่อหลายภาคส่วน และเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจต่างๆ ในอนาคต โดยตัวอย่างผลการวิจัยที่สำคัญจาก APAC Food and Drink Landscape 2021 ของ Mintel ประกอบไปด้วย:

การเพิ่มขึ้นของพฤติกรรมการสนใจด้านสุขภาพทางเดินอาหาร

เมื่อประเมินจากโภชนาการอาหารจากนมพบว่า ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ย่อยง่าย ในขณะเดียวกันยังคงตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพที่ดีของพวกเขา ข้อมูลจาก Mintel เปิดเผยว่าร้อยละ 85 ของผู้บริโภคในประเทศไทย สนใจผลิตภัณฑ์จากนมที่ย่อยง่าย เช่น นมที่ปราศจากน้ำตาลแลคโตส ซึ่งบริษัทต่างๆ สามารถเจาะจงถึงคุณประโยชน์ที่มีผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้ โดยผลิตภัณฑ์นมที่ปราศจากแลคโตสที่เป็นมิตรกับระบบย่อยอาหารของผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้ เป็นต้น

อาหารและเครื่องดื่มเปลี่ยนแปลงตามแฟชั่นไปอย่างรวดเร็ว

การค้าปลีกและการสื่อสารแบบดิจิทัล สามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มเข้าสู่โลกแห่งการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ด้วยผลลัพธ์ที่น่าทึ่งและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ แสดงถึงวิธีการใหม่ในการบรรลุเป้าหมายในโลกออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูงขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน

ในโลกของการค้าปลีกและสังคมดิจิทัลนี้ เป้าหมายของแบรนด์คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยอาศัยปัจจัยต่างๆ เช่น ความสวยงาม ความแปลกใหม่ และ/หรือตอบสนองความต้องการของผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญและการกระตุ้นยอดขาย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ โดยหันมารับประทานอาหารและเครื่องดื่มเพื่อช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์มากขึ้น อีกทั้งผู้บริโภคชาวเอเชียได้เปลี่ยนลำดับความสำคัญสุขภาพ มากกว่าแค่ราคาของผลิตภัณฑ์หลังจากเกิดสถานการณ์โรคระบาดขึ้น โดยหันมาซื้ออาหารที่ตรงตามความคาดหวังในรสชาติ คุณภาพ และมีผลดีต่อสุขภาพมากขึ้น…

ท่านสามารถดาวน์โหลด Mintel’s Asia Pacific: The Food and Drink Landscape 2021 Report ได้ที่นี่

www.mintel.com/asia-pacific-food-drink-landscape/

 

Mintel launches 2021 APAC Food and Drink Landscape report.

Mintel, the experts in what consumers want and why, has launched Asia Pacific: The Food and Drink Landscape 2021, featuring the latest market research, product innovation insights, and consumer trends from across the region.

The pandemic has caused a seismic shift in calories consumed from foodservice and catering to retail and e-commerce. The long-term shift to home-based working is driving better quality food and drinks made available for home consumption. Latest research from Mintel’s expert food and drink analyst team paints a picture of changing consumer behaviors and attitudes due to COVID-19, trends shaping the sector, and future opportunities for brands.

Key findings from Mintel’s APAC Food and Drink Landscape 2021 include:

Rising interest in digestive health

Considering dairy’s nutrient-rich image, consumers across APAC are looking for products that are easy to digest while still addressing their health needs.

Mintel data shows that, in Thailand, 85% of consumers claim to be interested in digestion-friendly dairy milk, such as lactose-free varieties.

Brands can highlight the perceived health benefits of lactose-free dairy (e.g., digestion-friendly), which play an increasingly prominent role in this category’s strong growth.

Food and drink follow fast fashion

Digitalized retail and communications drives food and drink innovation into the realm of fast fashion with stunning, and fast-changing, results. Fashion is a new frontier for food and drink brands and represents a new way of achieving cut through in the increasingly competitive online world.

In this digitized retail and social world, the goal of the brands is to develop products attuned with the latest fashion trends. Factors such as aesthetics, novelty and/or covetability are vital for brand relevance and driving sales.

What’s more, those stressed-out consumers increasingly turn to indulgent desserts and beverages for emotional relief. And Asian consumers have shifted their value priorities beyond just price in the wake of the pandemic. They will seek value by buying food that meets their taste, quality and health expectations….

 

Mintel’s Asia Pacific: The Food and Drink Landscape 2021 Report is available for free download here: www.mintel.com/asia-pacific-food-drink-landscape/

 

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับบริษัท แฮนดท์มานน์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้านี้ทาง Handtmann Group ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการผลิตอาหารของประเทศไทยมายาวนานกว่า 20 ปีผ่านทางตัวแทนจำหน่าย ซึ่งทาง Handtmann Group ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเติบโตที่มีศักยภาพสูงของภาคอุตสาหกรรมการผลิตอาหารของประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนมาโดยตลอด จึงตัดสินใจเปิดบริษัทสาขาย่อยอย่างเป็นทางการขึ้นในประเทศไทยภายใต้ชื่อ บริษัท แฮนดท์มานน์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมุ่งหวังว่าจะพัฒนาเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลและช่วยเหลือ ในด้านการขาย การบริการ พร้อมศูนย์ฝึกอบรม (R&D and Training Center)

โดย บริษัท แฮนดท์มานน์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรและอะไหล่ให้กับแบรนด์สินค้า Handtmann, Inotec และ Verbufa แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติม
บริษัท แฮนดท์มานน์ (ประเทศไทย) จำกัด
เลขที่ 41/91 หมู่ที่ 6, ซอยพูลเจริญ ถนนเทพรัตน กม.16.5
ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
Tel. 0-2130-5384
E-mail: info.fp@handtmann.co.th