
Continue reading “10 Ways We Can Make the Food System More Sustainable”
ความยั่งยืน…เรื่องท้าทายของบรรจุภัณฑ์พลาสติก
Continue reading “Plastic Packaging still Confronting Sustainability Challenges”
โอกาสและความท้าทายของอาเซียน…ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานในยุคหลังวิกฤต COVID-19
![]()
คลังสินค้าก็เปรียบเสมือนบ้านของสินค้าทำหน้าที่เก็บและรักษาสินค้า บ้านก็มีกิจกรรมต่างๆ เกิดขึ้นในแต่ละวัน คลังสินค้าก็เช่นกันมีทั้งกิจกรรมหลักและกิจกรรมย่อยเที่เกิดขึ้น
การจัดการคลังสินค้าเป็นคำรวมระหว่าง “การจัดการ” คือการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้มีประสิทธิผล กับ “คลังสินค้า” คือสถานที่ที่เก็บรักษาสินค้าในปริมาณมากเพราะฉะนั้นการจัดการคลังสินค้าคือกระบวนการการบูรณาการทรัพยากรต่างๆเพื่อให้การดำเนินกิจกรรมคลังสินค้าเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ความสำคัญของการจัดการคลังสินค้า นอกจากจะเป็นที่จัดเก็บวัตถุดิบเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ยังช่วยรักษาความต้องการในตลาดและการกระบวนผลิตให้มีความสมดุลกัน เนื่องจากความต้องการในตลาดไม่แน่นอนแต่การผลิตมีความแน่นอน อีกทั้งยังทำหน้าที่รวบรวมสินค้าต่างชนิดจากโรงงานหลายๆ แห่ง เอามาไว้ที่เดียวกัน ก่อนจะส่งต่อให้ตรงกับความต้องการของตลาด
กิจกรรมหลักในงานคลังสินค้า
ในแต่ละคลังสินค้ามีความแตกต่างกันในระบบงานย่อยๆ แต่กิจกรรมหลักๆในคลังสินค้าก็ไม่แตกต่างกันโดยแบ่งได้ 4 กิจกรรมหลักๆดังนี้
กิจกรรมหลักในงานคลังสินค้า คนส่วนใหญ่อาจมองว่าเป็นงานที่ง่ายแค่เก็บสินค้าแต่ที่จริงแล้วมีรายละเอียดและกระบวนการทำงานที่ซับซ้อน ต้องมีความรับผิดชอบต่อสินค้าทุกชิ้นที่เก็บ ถ้าสูญหายหรือเสียหายก็คือค่าใช้จ่ายของบริษัทที่เพิ่มขึ้น
การบูรณาการระบบในคลังสินค้ายุคใหม่ ในปัจจุบัน เพื่อการจัดการและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เช่น การนำเทคโนโลยี RFID มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้า
องค์ประกอบของ RFID มีอยู่ 3 ส่วนด้วยกันได้แก่ ส่วนแรกคือทรานสปอนเดอร์หรือป้าย (TransponderหรือTag) จะประกอบด้วยเสาอากาศและไมโครชิปสำหรับบันทึกข้อมูล ส่วนที่สองคือ เครื่องอ่าน เขียน ข้อมูลภายในป้าย(Interrogator หรือTag) โดยอาศัยคลื่นความถี่วิทยุในการทำงาน ส่วนที่สาม คือระบบประยุกต์การใช้งาน ระบบฐานข้อมูล ซึ่งมีความแตกต่างกันในแต่ละองค์กรณ์
ลักษณะ RFID มีอยู่ 2 แบบคือ Active Tag เป็นชนิดที่มีแบตเตอรีอยู่ภายใน จึงสามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้ มีอายุการใช้งานตามอายุของแบตเตอรี่เป็นชนิดที่มีกำลังส่งสูง และสามารถทำงานได้ดีในบริเวณที่มีสัญญาณรบกวน และ Passive Tag เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมมากกว่า มีอายุการใช้งานไม่จำกัด เนื่องจากไม่ได้ใช้แบตเตอรี่ และอาศัยพลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากการเหนี่ยวนำคลื่นแม่เหล้กไฟฟ้า จะมีปัญหาเมื่อนำไปใช้งานในสถานที่มีสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี RFID ในปัจจุบันก็ได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการนำมาใช้ในการจัดการคลังสินค้าในปัจจุบัน และสามารถส่งเสริมประสิทธิภาพในคลังสินค้าได้อย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น การใช้ในการบันทึกแหล่งผลิตอาหาร จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง หากมีเหตุการณ์ที่มีสารปนเปื้อนในอาหาร จะทำให้เราทราบได้อย่างแน่ชัดว่ามาจากแหล่งผลิตใด ทำให้เราแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงหากมีการบันทึกข้อมูลยาภายในโรงพยาบาลอย่างชัดเจน จะทำให้การเลือกใช้ยาได้เหมาะสมตามข้อบ่งชี้และข้อห้ามของผู้ป่วย รวมทั้งสามารถดูอายุยาเพื่อป้องกันการใช้ยาหมดอายุ เป็นต้น
โดย บริษัท เบทเตอร์แพค จำกัด

Interroll เพิ่มการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชา
21 เมษายน 2563 เซนต์ แอนโตนิโน การแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์เพียงแค่คลิ๊กเมาท์
ด้วยระบบการเรียนการสอนแบบ E-learning ที่นำเสนอโดย Interroll Academy ผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหากา
“นอกจากเราจะให้ความมั่นใจต่อลู
Sant’Antonino, Switzerland. April 21, 2020. Exchange of information and experience at the click of a mouse: Interroll is expanding and deepening interactive contact with its customers with new online services. From now on, training events for customers can be easily booked and conducted via the Internet, meetings with experts can be organized, and short videos on important industry topics can be accessed.
An important cornerstone of the new offering is the Interroll Academy, which for many years has been the driving force behind the transfer of knowledge between employees, customers and partners. The integrated learning programs offered by the Group-wide training and collaboration center ensure a seamless combination of different learning methods, techniques and materials. In this way, what has been learned can be optimally deepened and applied. The Interroll Academy cooperates with leading organizations such as the Fraunhofer Institute for Material Flow and Logistics in Dortmund, Germany, and Krauthammer.
With the new e-learning offering by the Interroll Academy, users can access online training content from anywhere at any time. One example of the range of programs on offer is the user training course on the Interroll Layout designer, the popular planning software for the user-friendly design of complete material flow solutions.
Another possibility for a fast, targeted and worldwide exchange of know-how is the online booking of personal expert discussions, for example on technical or industry-specific issues. In addition, informative short videos—educational clips—provide interested parties with a quick introduction to topics that affect important industries such as the food or fashion industry.
“Our customers and partners rely on quality, speed and simplicity from Interroll. We consistently deliver on this promise in the digital world as well. By further expanding our channels for virtual interaction, they can now access our expertise even more easily and enter into a professional exchange with us,” explains Jens Karolyi, Senior Vice President Corporate Marketing & Culture of the Interroll Group.

18 พ.ค. 2563 – สถาบันอาหาร เผยแนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารในเอเชียเปลี่ยน ชี้โควิด-19 เป็นตัวเร่งสำคัญ ผู้บริโภคต้องการอาหารที่มีนวัตกรรมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายรูปแบบต่างๆ ส่วนอาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมรับประทาน อาหารที่มีอายุเก็บรักษานาน และอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพมีอัตราเติบโตสูง ผู้บริโภคเกิดพฤติกรรมการซื้ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้านมากขึ้น เกิดกิจกรรมการปรุงอาหารรับประทานเองมากขึ้น และนิยมซื้อทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็น New Normal แนะผู้ประกอบการแปรรูปอาหารของไทยต้องปรับกลยุทธ์ตอบโจทย์ตลาดให้ทัน สร้างช่องทางจำหน่ายแบบออนไลน์อย่างจริงจัง จับมือพันธมิตรด้านขนส่ง สร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้า คุณภาพและความปลอดภัย สถาบันอาหารพร้อมดำเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่ม SME ในระยะสั้นด้วยการมอบสิทธิประโยชน์ เพื่อบรรเทาภาระของผู้ประกอบการ เช่น ส่วนลดในการใช้บริการด้านต่างๆ ทั้งยังคงสนับสนุนผู้ประกอบการในเกือบทุกภาคทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการที่หลากหลาย

นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร หน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า ศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร (Food Intelligence Center) สถาบันอาหาร ได้จัดทำรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคและอุตสาหกรรมอาหารในเอเชียช่วงสถานการณ์โควิด-19 พบว่า ผู้บริโภคมีความต้องการอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ซึ่งจะเป็นโอกาสของแบรนด์ต่างๆ ในการสร้างสินค้านวัตกรรมที่จะช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของโรคในอนาคต เช่น ผู้บริโภคเวียดนาม นิยมรับประทานกระเทียมดำ เพื่อช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย หรือผู้บริโภคฟิลิปปินส์ นิยมรับประทานผลิตภัณฑ์จากมะรุมและน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์มากขึ้น ส่วนผู้บริโภคสิงคโปร์มีความต้องการวิตามินซีและวิตามินรวมมากขึ้น 3-5 เท่า สำหรับในญี่ปุ่น โรงงานแปรรูปอาหารต่างๆ หันมาเน้นช่องทางค้าปลีกเพื่อผู้บริโภคโดยตรงมากกว่าป้อนช่องทางธุรกิจบริการอาหารต่างๆ อาหารที่มีอายุเก็บรักษานานมียอดขายเติบโดมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และเครื่องดื่ม เป็นต้น
ที่เกาหลีใต้ บริษัท CJ CheilJedang บริษัทชั้นนำเกาหลีใต้ด้านอาหาร และเทคโนโลยีชีวภาพ ได้เผยแพร่ผลงานวิจัย “2020 HMR Trend” หลังเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ว่าชาวเกาหลีใต้เน้นการประหยัดระยะเวลาในการเตรียมอาหาร โดยรับประทานอาหารที่บ้านมากขึ้นราวร้อยละ 83 ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับปีก่อน มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอาหารพร้อมรับประทานที่เติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 46.4 เช่น สินค้าอาหารที่ใช้การทอดอย่างเดียว หรือที่ใช้ไมโครเวฟอุ่น รวมถึงสินค้า Meal Kit ที่ใช้วิธีปรุงแค่เทส่วนประกอบอาหารทั้งชุดลงไปในหม้อและต้มอย่างเดียว ขณะเดียวกันยังเกิดพฤติกรรมรับประทานอาหารมื้อดึกหรือมือที่ 4 เพิ่มมากขึ้น เรียกว่า “4th Meal” อาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ สินค้าไก่แช่แข็ง เช่น ไก่ทอด ไก่นักเก็ต นอกจากนี้ยังมีเกี๊ยวซ่าแช่แข็ง ไส้กรอก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวพร้อมรับประทาน ลูกชิ้น เบเกอรี่แช่แข็ง เป็นต้น โดยผู้บริโภคยังให้ความสำคัญเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ดีต่อสุขภาพแม้ว่าราคาจะสูงก็ตาม
ด้านบริษัทวิจัย Nielsen สำรวจความคิดเห็นผู้บริโภค 11 ประเทศในเอเชีย หลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 พบว่า ผู้บริโภคร้อยละ 86 ในจีน จะรับประทานอาหารที่บ้าน รองลงมาคือ ฮ่องกง ร้อยละ 77 และมาเลเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ ร้อยละ 62 โดยพบว่ามูลค่าค้าปลีกอาหารในเอเชียมีอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 20-25 ต่อสัปดาห์ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา
นางอนงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดอาหารในเอเชียมีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นตลาดที่บ่มเพาะสินค้านวัตกรรมมากขึ้น วิถีชีวิตผู้บริโภคที่กลายเป็นสังคมเมืองมากขึ้น ธุรกิจบริการจัดส่งอาหาร(Food Delivery) เติบโตขึ้น สถานการณ์โควิด-19 กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมให้เกิดการซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านและเกิดกิจกรรมการปรุงอาหารรับประทานเองมากขึ้น เช่น ในญี่ปุ่นและไทย พฤติกรรมนี้จะกลายเป็นเรื่องปกติของวิถีการใช้ชีวิตแบบใหม่(New Normal) โดยเป็นการสั่งซื้อผ่านออนไลน์มากขึ้นด้วย
“การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทำให้ธุรกิจการให้บริการอาหาร ธุรกิจค้าปลีก และผู้ผลิตอาหารจำเป็นต้องปรับตัว และเมื่อมีสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่ง ผู้ประกอบการ แปรรูปอาหารยิ่งต้องปรับกลยุทธ์ของตนอย่างรวดเร็ว จึงจะตอบสนองทันต่อความต้องการ การสร้างช่องทางจำหน่ายแบบออนไลน์อย่างจริงจังกลายเป็นโอกาสของธุรกิจขนาดเล็กที่เข้าถึงได้ง่ายเพราะต้นทุนไม่สูง และต้องหาพันธมิตรมาช่วยเรื่องการจัดส่งสินค้า แต่สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ ในสถานที่ผลิต และการให้ข้อมูลผู้บริโภคเพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของอาหาร เชื่อว่าทุกคนจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้หากพร้อมปรับตัว”
นางอนงค์ กล่าวว่าในส่วนของสถาบันอาหารได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มกลุ่ม SME ในระยะสั้นด้วยการมอบสิทธิประโยชน์ เพื่อบรรเทาภาระของผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เช่น ส่วนลดในการใช้บริการศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่วนลดในการใช้บริการห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ ส่วนลดในการใช้บริการตรวจสอบหรือรับรองระบบ และส่วนลดในการใช้บริการฝึกอบรมแก่บุคลากร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำหลักสูตรออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการในการเตรียมความพร้อมที่จะดำเนินธุรกิจหากสภาพการค้าเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนผู้ประกอบการในเกือบทุกภาคทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการต่างๆ อาทิ “โครงการสร้างความเข้มแข็ง เครือข่ายผลิตและแปรรูปผลไม้ เกษตรอินทรีย์เกษตรปลอดภัยครบวงจรด้วยระบบคุณภาพและนวัตกรรมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรภาคตะวันออก” ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี และสระแก้ว เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์สู่เชิงพาณิชย์ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และตรวจวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยอาหาร

“โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มศักยภาพสู่ตลาดสากลปี 2563” ดำเนินการเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ธุรกิจเพื่อต่อยอดเป็นการท่องเที่ยวเชิงอาหารโดยชุมชน เน้นการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านมาตรฐานบริการและสินค้าเพื่อลดจุดอ่อนสร้างจุดแข็ง และให้คำปรึกษาเชิงลึกพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ “โครงการ SME Regular Level ปี 2563” ดำเนินการตรวจวิเคราะห์ฉลากโภชนาการแบบไทยและต่างประเทศ ตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ(สินค้าปลอดภัย) หรือสอบเทียบเครื่องมือวัด “โครงการเตรียมความพร้อมอุตสาหกรรมอาหารสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในกระบวนการผลิต” “โครงการพัฒนาศักยภาพนวัตกรรมสู่ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป” ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส “โครงการการเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมสมุนไพรปี 2563” ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง พังงา กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา และสตูล “โครงการยกระดับและเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องเชิงสุขภาพ” ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี พังงา ชุมพร ภูเก็ต กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา และสตูล และโครงการพัฒนาช่องทางการตลาดเชิงลึกสำหรับผู้ประกอบการ SME ปี 2563 เป็นต้น
ทั้งนี้ผู้ประกอบการ SME หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการต่างๆ สามารถสอบถามรายละเอียด หรือขอรับบริการที่เกี่ยวข้องได้ที่สถาบันอาหาร โทร. 02 422 8688 หรือติดตามข่าวสารเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ www.nfi.or.th และทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ NFI SmartClub