เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ได้ร่วมจัดงานเสวนา “พลิกเกมธุรกิจ ปรับกลยุทธ์ ธุรกิจบริการไทย” และงานแถลงข่าวการจัดงาน Food & Hospitality Thailand 2025 ร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย และสมาคมสปาไทย เพื่อให้ข้อมูลภาพรวมสถานการณ์ แนวโน้มทิศทาง การพัฒนา และการปรับตัวของแต่ละกลุ่มธุรกิจ กลยุทธ์การจูงใจนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ซึ่งงานดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
โดยนายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotels Association) กล่าวถึงทิศทางธุรกิจโรงแรมไทยและโอกาสใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยการท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบจากหลายปัญหา และพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ผู้ประกอบการจึงต้องโฟกัสนักท่องเที่ยวในแต่ละช่วงเวลาให้มากขึ้น พร้อมทั้งเข้าใจในพฤติกรรม วัฒนธรรม รวมถึงหลักและข้อปฏิบัติทางศาสนาของนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม ซึ่งประเทศไทยยังคงมีเสน่ห์และบริการที่โดดเด่น โดยเฉพาะโรงแรมระดับ Luxury ขณะที่โรงแรมระดับรองควรเน้นสร้างประสบการณ์และการบริการที่อบอุ่นไม่แพ้กัน นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแบบ Wellness, Healthcare และ Medical Tourism เป็นโอกาสใหม่ที่มีมูลค่าสูง
ด้านนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ได้กล่าวถึงแนวทางการปรับตัวและพัฒนาร้านอาหารให้สามารถเติบโตได้ โดยมูลค่ารวมของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 669,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงหรือเท่ากับปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา จากการระมัดระวังในการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่อาหารยังคงเป็นสิ่งจำเป็นทำให้เห็นกลุ่มธุรกิจร้านอาหารไปต่อได้ ซึ่งการแข่งขันด้านราคาไม่ใช่คำตอบเดียว แต่ต้องกลับมามองแก่นสำคัญของธุรกิจร้านอาหาร คือ รสชาติ คุณภาพ และความปลอดภัย อีกสิ่งสำคัญของร้านอาหารยุคนี้ คือ การสื่อสารและการสร้างเรื่องราวผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างตัวตนให้ผู้บริโภครู้จัก ธุรกิจร้านอาหารยุคนี้ต้องสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้ารู้สึกและอยากบอกต่อ รวมถึงเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี เช่น การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
สำหรับโอกาสด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศไทยนั้น นายสุนัย วชิรวราการ นายกสมาคมสปาไทย กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ องค์ความรู้ บริการ และความเป็นไทยยังคงเป็น Soft Power ที่ขายได้ แต่สิ่งที่ทำให้การท่องเที่ยวกลุ่มนี้น่าสนใจมากขึ้น คือ บริการด้านการดูแลจิตใจ ฟื้นฟูความสุข และผ่อนคลายความเครียด เนื่องจากวันนี้คนทั่วโลกเผชิญกับความเครียด รวมถึงแรงกดดันจากสภาพแวดล้อมทางสังคม ธุรกิจ การทำงาน และการใช้ชีวิต ดังนั้น การท่องเที่ยวที่เยียวยาทั้งจิตใจและการพักผ่อนอย่างแท้จริงจึงได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวกลุ่มนี้ถูกมองเป็นกลุ่มรอง จึงถึงเวลาทบทนใหม่อีกครั้งถึงแนวทางในการทำให้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นหนึ่งในการท่องเที่ยวกระแสหลักและดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น
สำหรับความพร้อมของงาน Food & Hospitality Thailand 2025 นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า การจัดงานปีนี้ยังคงเผชิญความท้าทายจากภาพรวมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ซึ่งทำให้ไทยต้องปรับสมดุลใหม่ มุ่งเน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ รวมถึงยกระดับสินค้าและบริการสู่ความยั่งยืน ซึ่งงานในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เชื่อมโยงสู่ความเป็นเลิศในอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ” (Connecting Excellence in Food & Hospitality) โดยได้รับความร่วมมือจากกว่า 30 องค์กรภาครัฐ สมาคม และบริษัทชั้นนำ ที่มาร่วมจัดแสดงนวัตกรรม พร้อมทั้งกิจกรรมให้ความรู้ และนำเสนอทิศทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปต่อยอดได้จริง