BGG Announces Major New Investment at World’s Largest Astaxanthin Plant

          BGG เดินหน้าขยายโรงงานผลิตแอสตาแซนธินในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน โดยรวมกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่เพาะเลี้ยงสาหร่าย การสกัด การอบแห้ง บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการวิจัยให้อยู่ภายในพื้นที่ 20 กม. จากเดิมที่ห่วงโซ่การผลิตยาวถึง 2,000 กม. นอกจากนี้ BGG ยังเปิดห้องวิจัยแห่งใหม่ พร้อมเพิ่มทีมวิจัยมากกว่าสองเท่า มุ่งเน้นนวัตกรรมด้านสาหร่ายขนาดเล็กและคุณภาพของสารสกัด โดยร่วมมือกับสถาบันวิจัยจากทั้งในและต่างประเทศ

          การลงทุนนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดคาร์บอนฟุตพรินต์ พร้อมเปิดโรงงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: support@bggworld.com หรือ www.bggworld.com

Continue reading “BGG Announces Major New Investment at World’s Largest Astaxanthin Plant”

“THAIFEX – ANUGA ASIA 2025” เวทีการค้าอาหารระดับโลก กลับมาจัดยิ่งใหญ่ ครบวงจรที่สุดในเอเชีย 27-31 พ.ค. นี้ คาดขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 98,000 ล้าน

            กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ หอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ เยอรมนี ประกาศจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชีย “THAIFEX – ANUGA ASIA 2025” ในวันที่ 27-31 พฤษภาคม 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเวทีให้ผู้ประกอบการได้มาค้นหาสินค้าและนวัตกรรมอาหาร สร้างโอกาสทางธุรกิจ และเปิดมุมมองใหม่ทางธุรกิจ พร้อมทั้งตอกย้ำบทบาทไทยในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมอาหารโลก ภายใต้นโยบายครัวไทยสู่ครัวโลกของกระทรวงพาณิชย์ เปิดเจรจาธุรกิจทั้ง 5 วัน และเปิดให้ประชาชนเข้าชมและเลือกซื้อสินค้าในวันสุดท้าย

 

            นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีความได้เปรียบในด้านอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งจากความหลากหลายของวัตถุดิบ ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ และความสามารถของผู้ประกอบการไทยในการพัฒนาและปรับตัวได้อย่างสอดคล้องกับตลาดโลก จากจุดแข็งดังกล่าว รัฐบาลจึงเดินหน้านโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมทั้งส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านอาหารของภูมิภาค

            ในส่วนของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการผลักดันการค้าไทยสู่ตลาดโลก ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยกว่า 700 กิจกรรม โดยตั้งเป้าสร้างมูลค่าการค้ารวมกว่า 92,000 ล้านบาท และช่วยเหลือผู้ประกอบการกว่า 260,000 ราย โดยมีทูตพาณิชย์ 58 แห่งทั่วโลกทำงานเชิงรุก ติดตามสถานการณ์ทางการค้าอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ได้ยกระดับโครงการ Thai SELECT ที่มี 1,779 แห่งทั่วโลก โดยจะปรับเกณฑ์การรับรองเป็นระบบดาวผ่านสัญลักษณ์รูปดอกกล้วยไม้

            “งาน THAIFEX – ANUGA ASIA ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของกรมฯ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้แสดงศักยภาพ เจรจาธุรกิจ และเรียนรู้แนวโน้มอุตสาหกรรมระดับโลก ภายในงานจะมีทั้งการแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ควบคู่กับกิจกรรมให้ความรู้ เวิร์กชอป และการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลก” นางสาวสุนันทา กล่าว

 

           สำหรับ THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 มีกระแสตอบรับที่ดีมาก ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ารวม 3,233 บริษัท 6,205 คูหา จากประเทศไทยและอีกกว่า 56 ประเทศทั่วโลก นำสินค้ามาจัดแสดงอย่างครบครัน ทั้งเครื่องดื่ม อาหารสำเร็จรูป เทคโนโลยีอาหาร อาหารแช่แข็ง ผักและผลไม้ เนื้อ ข้าว อาหารทะเล ขนมและของขบเคี้ยว โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน (trade visitor) ตลอดทั้ง 5 วัน กว่า 90,000 ราย จากทั่วโลก คาดการณ์มูลค่าการสั่งซื้อสินค้าทันทีและการสั่งซื้อสินค้าภายใน 1 ปี รวมกว่า 98,000 ล้านบาท

           “จากความร่วมมือของพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศอย่างหอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ เยอรมนี จะทำให้งาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 เป็นมากกว่างานแสดงสินค้า แต่จะเป็นศูนย์กลางความร่วมมือทางธุรกิจระดับภูมิภาค และเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ความมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต” นางสาวสุนันทา กล่าว

           ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า THAIFEX – ANUGA ASIA ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้ขยายตลาดอาหารและเครื่องดื่มสู่เวทีนานาชาติ โดยปัจจุบันประเทศไทยครองอันดับ 12 ของโลกด้านการส่งออกอาหาร และมีแนวโน้มว่าการส่งออกอาหารในปี 2568 จะมีมูลค่าถึง 1,750,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 จากปีก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ที่มุ่งผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการส่งออกอาหารของโลก

           THAIFEX – ANUGA ASIA ในฐานะงานแสดงสินค้าด้านอุตสาหกรรมอาหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของไทย ทั้งในกลุ่มผู้ประกอบการ SME สตาร์ตอัป และบริษัทขนาดใหญ่ ให้สามารถเชื่อมโยงกับผู้นำเข้า ผู้ซื้อ และพันธมิตรทางธุรกิจจากทั่วโลก โดยในปีนี้คาดว่าจะมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 1,184 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการ SME มากกว่า 500 ราย ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของไทยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายตลาดระหว่างประเทศ ทั้งยังมีผู้ประกอบการจากต่างประเทศเข้าร่วมอีกกว่า 2,000 ราย จากภูมิภาคต่างๆ อาทิ เอเชียตะวันออก อาเซียน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ลาตินอเมริกา และแอฟริกา

           สำหรับ THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 ปีนี้ เน้นการเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยเข้ากับเมกะเทรนด์ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ Plant-Based, Sustainable Products, Functional Foods และสินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นหมวดหมู่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดยุโรปและจีน ผู้ประกอบการจะมีโอกาสนำเสนอนวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสามารถต่อยอดสู่ตลาดสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

           “จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการ SME รายหนึ่งเข้าร่วมงานด้วยบูธขนาดเล็ก แต่สามารถคว้ารางวัล THAIFEX – ANUGA tasteInnovation Award จากงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 และได้นำตรารางวัลไปต่อยอดสร้างแบรนด์จนสามารถปิดดีลกับผู้ซื้อจากอินเดียได้สำเร็จ สะท้อนให้เห็นว่า THAIFEX – ANUGA ASIA ไม่เพียงเป็นเวทีการเจรจาธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจและโอกาสใหม่ๆ สำหรับผู้ประกอบการไทยในการก้าวสู่เวทีโลก” ดร.กฤษณะ กล่าว

           นายแมธเธียส คูเปอร์ กรรมการผู้จัดการและรองประธานภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โคโลญเมสเซ่ ย้ำถึงบทบาทเชิงกลยุทธ์ของงาน THAIFEX – ANUGA ASIA ในฐานะศูนย์กลางระดับภูมิภาคสำหรับการพบปะและเชื่อมโยงธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก โดยกล่าวว่า “จุดเด่นที่ทำให้ THAIFEX – ANUGA ASIA แตกต่าง คือความสามารถในการสะท้อนภาพพฤติกรรมผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการเป็นแรงผลักดันให้นวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในวงกว้าง”

           สำหรับงานปีนี้ได้รับการตอบรับจากผู้นำในอุตสาหกรรมที่กลับมาเข้าร่วมงานจากทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก ยุโรป อเมริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ขณะเดียวกันยังได้ต้อนรับผู้จัดแสดงสินค้ารายใหม่จากเอเชียกลาง แอฟริกา และยุโรปตะวันออก อาทิ สโลวีเนีย คีร์กีซสถาน และสโลวาเกีย โดยบูธแสดงสินค้าทั้งหมดถูกจองเต็มล่วงหน้า พร้อมรายชื่อผู้รอคิวเข้าร่วมงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความต้องการที่สูงเกินกว่าพื้นที่ที่มี และตอกย้ำความสำคัญของงานในฐานะแหล่งจัดหาสินค้าและเครื่องชี้วัดเทรนด์สำคัญของภูมิภาคนี้


Continue reading ““THAIFEX – ANUGA ASIA 2025” เวทีการค้าอาหารระดับโลก กลับมาจัดยิ่งใหญ่ ครบวงจรที่สุดในเอเชีย 27-31 พ.ค. นี้ คาดขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 98,000 ล้าน”

World of New Proteins at IFFA 2025: A Complete Innovation Hub for Alternative Protein

          IFFA 2025 marks a bold step forward with the introduction of the World of New Proteins — a dedicated hall (Hall 11.0) showcasing the latest in plant-based, fermented, and cell-based protein innovations. This new thematic zone offers an end-to-end look at the technologies, ingredients, and solutions driving the future of sustainable protein production.

          Whether you’re developing meat alternatives, scaling up plant-based production, or reformulating for cleaner labels, here’s how leading exhibitors are delivering a total solution:

Continue reading “World of New Proteins at IFFA 2025: A Complete Innovation Hub for Alternative Protein”

Endress+Hauser (Thailand) ร่วมกับ EHEDG Thailand มุ่งยกระดับความรู้ด้าน Hygienic Designในกระบวนการผลิตอาหาร

          เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา บริษัท เอ็นเดรส แอนด์ เฮาเซอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก EHEDG Thailand (European Hygienic Engineering & Design Group – Regional Section Thailand) คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้จัดงานสัมมนาเชิงวิชาการ Technology Sharing Day for Food & Beverage Industry” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการออกแบบและติดตั้งเครื่องมือวัดในกระบวนการผลิตอาหารและเครื่องดื่มให้สอดคล้องกับหลักสุขลักษณะ (Hygienic Design) ภายในงานมีการบรรยายหัวข้อที่หลากหลาย อาทิ

– การประยุกต์ใช้เครื่องมือวัดในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

– หลักการออกแบบและติดตั้งเครื่องมือวัดอย่างถูกสุขลักษณะ

– Workshop เชิงปฏิบัติเกี่ยวกับเซนเซอร์และอุปกรณ์ในสายการผลิต

          การสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก รศ.ดร. นวภัทรา หนูนาค และ รศ.ดร. ทวีพล ซื่อสัตย์ จาก EHEDG Thailand ร่วมบรรยาย พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญจาก Endress+Hauser ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมทั้งจากโรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำเป็นจำนวนมาก

บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าร่วม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความรู้ที่ได้จากการสัมมนาครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนากระบวนการผลิตที่ปลอดภัยและยั่งยืน

ท่านติดตามกิจกรรมต่างๆ จาก Endress+Hauser ได้ที่ www.th.endress.com

ร่วมเรียนรู้เครื่องมือวัดออนไลน์ได้ทุกที่กับเมทเล่อร์-โทเลโดตลอดเดือนกรกฎาคม

           เมทเล่อร์-โทเลโด พร้อมนำเสนอความรู้ นวัตกรรม และประสบการณ์ส่งตรงถึงมือทุกท่าน เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ท่านจะสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่กับซีรีส์สัมมนาพิเศษที่จะเจาะลึกกลุ่มเครื่องมือวัดออนไลน์ในกระบวนการผลิต ทั้งรูปแบบ Online และ On Tour พร้อมนำเครื่องมือวิเคราะห์ออนไลน์ อาทิ เซนเซอร์วัดค่าต่างๆ หรือทรานสมิตเตอร์ ไปจัดสัมมนาตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งข้อมูลสำคัญและเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ทุกท่านสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในกระบวนการควบคุมคุณภาพได้ดีขึ้น และแก้ไขปัญหาในกระบวนการผลิตได้อย่างตรงจุด

           โดยงานสัมมนาออนไลน์ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 กับหัวข้อ ”เทคนิคการบำรุงรักษาและสอบเทียบ Conductivity และ TOC ออนไลน์ สู่มาตรฐาน USP” เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการวัดคุณภาพน้ำบริสุทธิ์ ซึ่งจะได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎีและหลักการวัดค่า เพื่อให้สามารถบำรุงรักษาและสอบเทียบเครื่องมือได้อย่างเข้าใจยิ่งขึ้น

 

 

           นอกจากนี้ยังมีงานสัมมนา On Tour ที่จัดครอบคลุมทั้ง 3 ภูมิภาค ได้แก่ จังหวัดระยอง ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 กับหัวข้อ “กลยุทธ์การลงทุนให้คุ้มค่าสำหรับเครื่องมือวิเคราะห์ออนไลน์ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง” มาร่วมปรับตัวให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงดึงศักยภาพของเครื่องมือที่มี และปลดล็อคไอเดียเพื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด

           จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 และจังหวัดขอนแก่น วันที่ 6 สิงหาคม 2568 ทุกท่านจะได้พบกับเนื้อหาที่ได้รับการตอบรับที่ดีเสมอ ในหัวข้อ “การใช้งานเครื่องมือวิเคราะห์ pH และ Conductivity แบบออนไลน์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด Season2” เพื่อเน้นย้ำถึงความเข้าใจในทฤษฎีพื้นฐาน ตลอดจนถึงการลองปฏิบัติจริง

 

           สามารถลงทะเบียนเพื่อสำรองที่นั่งสำหรับงานสัมมนา On Tour และ Online ที่สะดวกสำหรับทุกท่านได้ทางเว็บไซต์ www.mt.com/webinars LINE OA @mtth หรือโทร 02-723-0300 รวมถึงทุกช่องทางของนิตยสาร Food Focus Thailand

 

“Revolutionizing Safety & Efficiency: Key Measurement Solutions for Food & Pharma”

        บริษัท วีก้า อินสตรูเมนท์ จำกัด ได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “Revolutionizing Safety & Efficiency: Key Measurement Solutions for Food & Pharma” ในวันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมแคนทารี โคราช เพื่อยกระดับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตอัตโนมัติในอุตสาหกรรมอาหารและยาที่ต้องการความแม่นยำ ความปลอดภัย และสุขอนามัยสูงสุด

 

          งานนี้ได้รับเกียรติจาก คุณศิริชัย สุพะศิริ ที่มาแนะนำถึงหลักการของเทคโนโลยีในการวัดระดับสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและยา เพื่อยกระดับความปลอดภัยและประสิทธิภาพการผลิต โดยได้แนะนำถึงแนวทางการปรับกระบวนการผลิตและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเรดาร์ไร้สัมผัสให้เหมาะสมกับวัตถุดิบแต่ละประเภทที่ใช้ในอุตสาหกรรม เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูงสุด พร้อมด้วยการสาธิตใช้งานเครื่องมือวัดระดับและโปรแกรมทีติดตั้งเพื่อให้เห็นถึงข้อได้เปรียบของการประยุกต์ใช้ในสายการผลิตได้อย่างแท้จริง

 

          พร้อมกันนี้ คุณอังกูร รุจิพงศ์วาที ได้กล่าวถึงความท้าทายที่ต้องพบเจอในระบบการผลิตแบบอัตโนมัติ พร้อมแนวทางการลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนที่เป็นหนึ่งปัญหาสำคัญ ด้วยการออกแบบตามหลักสุขลักษณะ ทั้งยังกล่าวถึงมาตรฐานสุขอนามัยและความปลอดภัยในการเลือกใช้เครื่องมือวัดแรงดันอีกด้วย นอกจากนี้ ยังได้สาธิตการติดตั้งและใช้งานเทคโนโลยีเซนเซอร์วัดแรงดันเพื่อให้เหมาะสมกับกระบวนการผลิต เพื่อก้าวสู่การผลิตอัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันต่อไป

 

          คุณวิทวัส มิ่งมิตรไทยกูล ได้เสริมถึงประเด็นผลกระทบและความปลอดภัยจากกรณีปัญหาของการล้นถึงและปั๊มไหม้ที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิต พร้อมแนะนำแนวทางในการป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว ตลอดจนการเลือกใช้เทคโนโลยีวัดระดับในกระบวนการผลิตอัตโนมัติเพื่อเสริมความปลอดภัยในอุตสาหกรรมต่อไป

Continue reading ““Revolutionizing Safety & Efficiency: Key Measurement Solutions for Food & Pharma””

Arla Foods Ingredients and Brenntag Expand llaboration Into Southeast Asia

           Arla Foods Ingredients has extended its distribution partnership with the Brenntag Group to include Southeast Asia’s three largest food and nutrition markets.

 

           The expanded collaboration will see Brenntag distributing Arla Foods Ingredients’ extensive portfolio of protein ingredients in Vietnam, Thailand and Indonesia. It will cover a wide range of categories, including health foods, infant nutrition and sports nutrition, as well as solutions for functionality in dairy and bakery.

 

           Brenntag Group is the global market leader in chemicals and ingredients distribution. The new deals follow 2023’s extensive distribution agreement between Arla Foods Ingredients and Zhongbai Xingye Food Technology (Beijing) Co., Ltd, a Brenntag group company, to serve the Chinese market.

 

           Southeast Asia offers significant market potential. Research suggests that increasing prosperity in the region is driving demand for food and beverage products containing high-quality protein, which is currently not being fully met.1

 

           Alexander Leufgen, Head of Asia-Pacific at Arla Foods Ingredients, said: “Demand for high-quality whey and dairy ingredients is growing across Southeast Asia, especially in key segments like active nutrition and food functionality. Our goal is to improve and extend our offering to manufacturers across the region. By building on our existing arrangement with Brenntag we’ll be able to better tailor our products and services to meet their needs.”

 

           Kenneth Keh, Regional President, Nutrition Asia Pacific, Brenntag Specialties, said: “Our partnership with Arla Foods Ingredients in China has been immensely successful, and we are excited to expand it into Southeast Asia. With our combined strength we are confident that we can meet the demand for high-quality, innovative nutritional products in the growing markets of Indonesia, Thailand, and Vietnam.”

 

Continue reading “Arla Foods Ingredients and Brenntag Expand llaboration Into Southeast Asia”

SMC จับมือ Mitsubishi Electric ลงนาม MOU ร่วมกันยกระดับเทคโนโลยีการผลิตอาหารไทย ผลักดันสู่เป้าหมาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก”

          บริษัท เอส.เอ็ม.ซี. (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านระบบออโตเมชันในอุตสาหกรรมของไทย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เพื่อยกระดับการใช้เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมอาหารไทย โดยมีเป้าหมายในการสนับสนุนนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

          การลงนามในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และร่วมสนับสนุนแผนกลยุทธ์ รวมถึงเพิ่มโอกาสทางการตลาดในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีความเชี่ยวชาญ โดยมีวัตถุประสงค์หลักภายใต้ความร่วมมือนี้ ดังนี้

1. แลกเปลี่ยนข้อมูลและเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนการพัฒนาร่วมกัน

2. ร่วมกันสำรวจและพัฒนาโครงการใหม่ที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจอุตสาหกรรม

3. สนับสนุนการลดการใช้พลังงานและการปล่อย CO2 เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มขีดจำกัดความสามารถของอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ภายใต้แนวคิด “Foods Tech” และก้าวสู่เป้าหมาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก

โดยบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ถือเป็นรากฐานของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ร่วมกันในระยะยาว ที่ตั้งอยู่บนหลักความไว้วางใจ โปร่งใส และสร้างคุณค่าร่วมกัน

ด้าน ดร.ปัญญาพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.เอ็ม.ซี. (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคการผลิต เพิ่มคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากลแก่ภาคอุตสาหกรรมของไทย ทางเรามุ่งมั่นปรารถนาว่า SMC จะเป็นผู้นำในตลาดนิวเมติกส์ ที่เอื้อต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งการสนับสนุนเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของระบบนิวเมติกส์ออโตเมชัน เพื่อให้ลูกค้าในประเทศไทยได้มีความมั่นใจทั้งในด้านการผลิต มาตรฐานของสินค้า และบริการหลังการขายที่เต็มรูปแบบของเรา”

           ขณะที่ คุณวิเชียร งามสุขเกษมศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพด้านวัตถุดิบและวัฒนธรรมอาหารอันโดดเด่น ทางบริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท เอส.เอ็ม.ซี.(ประเทศไทย) จำกัด ในการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้พร้อมก้าวสู่เวทีโลก ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีขั้นตอนการผลิตที่รวดเร็ว แม่นยำ อีกทั้งยังมีความทนทาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนในการผลิต ช่วยให้สินค้าที่ออกจำหน่ายมีมาตรฐานสูงและคุ้มค่าให้แก่ผู้บริโภค”

   

           ภายใต้ข้อตกลง MOU ฉบับนี้ ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันพัฒนาโครงการนำร่อง พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ และจัดอบรมบุคลากร เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านของภาคการผลิตอาหารไทยสู่ยุคเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน รวมถึงตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศต่อไป