Penetrating Malaysia’s Food Market

เจาะตลาดสินค้าอาหารมาเลเซีย

โดย: ดร.ไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ
Paisan Maraprygsavan, Ph.D.
Director
Industrial and Service Trade Research Division
Trade Policy and Strategy Office
Ministry of Commerce
paisan711@gmail.com

Full article TH-EN

มาเลเซียเป็นตลาดส่งออกอาหารที่น่าสนใจ เนื่องจากมาเลเซียเป็นประเทศนำเข้าอาหารสุทธิและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในปี 2561 มีการนําเข้าสินค้าอาหาร 11.19 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 8.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2552 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ขณะที่กระแสค้าออนไลน์ก็กำลังมาแรงโดยเติบโตสูงเป็นอันดับ 2 รองจากไทยในอาเซียน

การส่งออกสินค้าเกษตรกรรมและเกษตรอุตสาหกรรมของไทยไปมาเลเซียมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 การส่งออกสินค้าเกษตรไปมาเลเซียมีมูลค่า 11.62 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 12.4 จากปี 2560 สินค้าสำคัญที่ส่งไปมาเลเซียในปี 2561 เช่น ข้าวมูลค่า 195 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 58 และไก่สดแช่แข็งมูลค่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 เป็นต้น

Malaysia is an interesting market for Thai food exporters, as it is a net importer and is keen to import more. In 2018, the country imported USD 11.19 billion worth of food products, increasing USD 8.9 billion or 25% from 9 years prior (2009). Meanwhile, its online market is growing the second fastest in ASEAN, following only Thailand.

The export of agricultural products and agricultural industrial products from Thailand to Malaysia is continuously expanding. In 2018, the export of agricultural product was worth USD 11.62 billion, growing 12.4% year-on-year. Major products include rice (USD 195 million, expanding 58%) and frozen chicken meat (USD 60 million, expanding 7.5%).

 

The Most Recently Enforced Food Regulations Notification of the Ministry of Public Health No.390 (B.E.2561 (2018)) Issued by virtue of the Food Act B.E.2522 Re: Prescribed foods which have criteria, condition, and method of use in food produced for sale, imported for sale or sold

กฎระเบียบด้านอาหารล่าสุดที่มีผลบังคับใช้
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 390 (พ.ศ.2561) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการใช้วัตถุในอาหารที่ผลิตเพื่อจำหน่าย นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือที่จำหน่าย

By: Bureau of Food
Food and Drug Administration, Ministry of Public Health
food@fda.moph.go.th

Full article TH-EN

กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 390 (พ.ศ.2561) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการใช้วัตถุในอาหารที่ผลิตเพื่อจำหน่าย นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือที่จำหน่าย โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 6(5) ของพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ซึ่งเป็นการรวบรวมรายชื่อสารหรืออาหาร เฉพาะรายการที่มีการกำหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของการใช้ในอาหารได้ตามความจำเป็นทางเทคโนโลยี และยังคงคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค โดยพิจารณาบนพื้นฐานของข้อมูลวิชาการและมาตรฐานคณะกรรมาธิการของโครงการมาตรฐานอาหาร เอฟ เอ โอ/ดับบลิว เอช โอ รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตในปัจจุบัน

The Ministry of Public Health, through the Food and Drug Administration and by virtue of the Food Act B.E.2522, issued the Notification of the Ministry of Public Health No.390 B.E.2561 (2018) Re: Prescribed foods which have criteria, condition, and method of use in food produced for sale, imported for sale or sold. Section 6(5) of the Food Act B.E. 2522 (1979) conditionally allows specific substances or ingredients to be used in food as required by technological necessities while striving to uphold consumer protection. The prescription was approved on basis of updated academic data, Codex Alimentarius Commission, Joint FAO/WHO Food Standard Programme, and currently available manufacturing technologies.

 

Transforming Energy Drinks with Natural, Organic Ingredients

การเปลี่ยนโฉมเครื่องดื่มชูกำลังด้วยส่วนผสมอาหารจากธรรมชาติและออแกนิกส์

By: Holly McHugh
Compiled and Translated By: กองบรรณาธิการ
นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine
editor@foodfocusthailand.com

Full article TH-EN

ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบกระฉับกระเฉงของผู้บริโภคยุคใหม่ได้กระตุ้นให้เกิดความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มพลังงาน ในความเป็นจริงจากการสำรวจของ Food Information Health Council (IFIC) ของมูลนิธิอาหารและสุขภาพในปี 2561 พบว่าพลังงานเป็นที่ต้องการมากที่สุดเป็นอันดับสามรองจากสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด และการลดน้ำหนัก Grandview Market Research รายงานว่าในปี 2559 ตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานทั่วโลกมีมูลค่าอยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 8.48 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2568 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ร้อยละ 7

ในขณะที่เครื่องดื่มชูกำลังแบบดั้งเดิมยังคงได้รับความนิยม (ยอดค้าปลีกสำหรับแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังที่มียอดขายสูงสุดในสหรัฐอเมริกามีมูลค่าถึง 1.17 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2560) โดยมีคำเตือนจากแพทย์เกี่ยวกับการบริโภคกาเฟอีนที่มีปริมาณมากเกินไปที่เป็นสาเหตุของการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตจากการดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง การดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวมและการเคลื่อนไหวเพื่อสุขภาพได้นำไปสู่การเปลี่ยนใจจากเครื่องดื่มชูกำลังแบบดั้งเดิม แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังต่าง กำลังพัฒนาเครื่องดื่มประเภทนี้ด้วยการใช้ส่วนผสมออแกนิกส์และ/ หรือใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ดีกว่าสำหรับผู้บริโภค โดยมีสินค้าหลากหลายแบรนด์จัดแสดงเครื่องดื่มชูกำลังที่เป็นออแกนิกส์และเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติในงาน Natural Products Expo West 2018 อาทิ แบรนด์ Dark Dog Organic, Limitless, Guru และ Zola

ทั้งนี้ เครื่องดื่มชูกำลังจากธรรมชาติและออแกนิกส์ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างมาก โดย Grandview Market Research คาดว่ายอดขายเครื่องดื่มให้พลังงานจากธรรมชาติและออแกนิกส์จะมีมูลค่าถึง 3.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2568 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 40 ของมูลค่าตลาด หากคุณกำลังพิจารณาที่จะพัฒนาเครื่องดื่มชูกำลังแบบธรรมชาติหรือแบบออแกนิกส์ให้คำนึงถึงแนวโน้มของหมวดหมู่ต่อไปนี้เมื่อคุณคิดจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ของคุณ

The bustling lifestyles of modern consumers have prompted great demand for products that boost energy. In fact, the International Food Information Council (IFIC) Foundation’s 2018 Food and Health Survey found energy is the third most sought-after health benefit following cardiovascular health and weight loss. Grandview Market Research reported the global energy drink market was valued at US$43 billion in 2016 and predicted to reach $84.8 billion by 2025 with a compound annual growth rate (CAGR) of 7 percent.

While traditional energy drinks are still popular (retail sales for the top-selling energy drink brand in the United States reached $11.7 billion in 2017), warnings from doctors about excessive caffeine intake, bad press about hospitalizations and deaths from energy drink consumption, and the holistic health and wellness movement have led to a shift in the category. More brands are developing these types of beverages with organic and/or natural ingredients that are perceived as better-for-you. A substantial number of brands showcased natural and organic energy drinks at the 2018 Natural Products Expo West show, including Dark Dog Organic, Limitless, Guru and Zola.

There is enormous potential for the natural and organic energy drink category; Grandview Market Research expects natural and organic energy drinks sales will reach $32 billion by 2025, which accounts for nearly 40 percent of the market. If you’re considering developing a natural or organic energy drink, keep the following category trends top of mind when developing your product.

Top 5 Food Trends Impacting Seafood Sales in 2019

5 เทรนด์หลัก…ผลักดันยอดขายอาหารทะเลปี 2562

By: Christine Blank
Contributing Editor
Seafoodsource
editorsandwriters@gmail.com

Translated and Compiled By: กองบรรณาธิการ
นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine
editor@foodfocusthailand.com

Full article TH-EN

1. อาหารโปรตีนสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ ไม่มีทีท่าชะลอตัว
“อาหารทะเลจะอยู่ในเทรนด์ เพราะเป็นแหล่งของโปรตีน และโปรตีนก็ไม่เคยตกยุค” Barb Ruhs นักกำหนดอาหาร และประธาน MarketRD.com กล่าว และเสริมว่า อาหารทะเลนั้นมีโปรตีนสูงและมีประโยชน์อีกมากมาย อีกทั้งผู้บริโภคเริ่มมีความรู้ในเรื่องการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามีความยั่งยืน”

2. ตลาดอาหารพร้อมรับประทานและเซ็ตปรุงอาหารที่เติบโต ผลักดันยอดขายอาหารโปรตีนทุกชนิด รวมทั้งอาหารทะเล
อาหารทะเลมักถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบและองค์ประกอบหลักในเซ็ตปรุงอาหาร อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ Home Chef จาก Kroger ร้านค้าบางรายยังสร้างสรรค์เมนูอาหารแบบซื้อกลับบ้านในรูปแบบกล่องเบนโตะ หรืออาหารคีโตพร้อมรับประทาน ซึ่งจะมีส่วนประกอบของแซลมอน ธัญพืช และผัก เพื่อให้มีความหลากหลายมากขึ้น นอกเหนือไปจากเมนูซูชิที่คุ้นเคย

3. จากเทรนด์อาหารโปรตีนสูง อาหารทะเลที่สร้างสรรค์ให้เป็นเมนูในมื้อว่างจะได้รับความนิยมต่อเนื่อง
“คนอเมริกันก็มองหาขนมขบเคี้ยวที่ดีต่อสุขภาพ มีโปรตีนสูง เพราะขนมขบเคี้ยวที่มีโปรตีนสูงเหล่านี้จะช่วยให้อิ่มนาน” Cornish กล่าว พร้อมเสริมว่า ขนมขบเคี้ยวรสชาติอร่อยที่พกพาง่าย ผสมผสานทั้งความสะดวกสบายและดีต่อสุขภาพ เช่น เจอร์กี้แซลมอน หรือสาหร่ายแผ่น ก็เป็นทางเลือกของเมนูโปรตีนที่ดี

4. ปลาบรรจุกระป๋องคุณภาพสูง กำลังฮิตทั้งในภัตตาคารและร้านค้า
FreshDirect คาดการณ์ว่า ร้านค้าจะเริ่มนำผลิตภัณฑ์ปลากระป๋องหลากหลายชนิดมาจำหน่าย ทั้งความหลากหลายในด้านแหล่งของปลา สายพันธุ์ และรสชาติ อย่างเช่น JUST Wild Caught Albacore Tuna ที่ผลิตจากแหล่งจับปลาทูน่าที่ยั่งยืนทางตะวันตกเฉียงเหนือของแปซิฟิก ทั้งยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

5. ร้านอาหารและภัตตาคารต่างนำเสนอเมนูเรียกน้ำย่อยและอาหารจานหลักที่ผลิตด้วยวัตถุดิบจากทะเลและโดดเด่นด้วยนวัตกรรม
Ruhs ทำนายว่า ภัตตาคารจะนำเสนอเมนูเรียกน้ำย่อยและอาหารจานหลักที่ผลิตด้วยวัตถุดิบจากทะเลและโดดเด่นด้วยนวัตกรรม รวมทั้งอาหารทะเลพร้อมรับประทานที่นำมาปรับโฉมใหม่ ยกตัวอย่างเช่น จากความนิยมของ “meat charcuterie boards” ก็จะส่งผลให้ภัตตาคารต่างๆ ลองนำเสนอ “sea charcuterie boards” และ “seaweed charcuterie boards” ให้กับลูกค้า

1. High-protein, low-carbohydrate diets show no signs of slowing.
“Seafood is trending, because the protein push never goes away,” said Barb Ruhs, a registered dietitian and the president of MarketRD.com. “Seafood is a protein with a lot of benefits and without a lot of the negatives. Plus, as because consumers are getting more educated on aquaculture, they realize that it is sustainable.”

2. The growth of prepared foods and meal kits are boosting sales of all proteins, including seafood.
Seafood items are included in some meal kits such as Kroger’s Home Chef’s offerings. Plus, many grocers have added unique grab-and-go items such as bento boxes and keto bowls that include salmons, grains and greens, in addition to sushi.

3. To go along with the high-protein diet trend, eating seafood as a snack continues to be hot.
“Americans are seeking out healthy, high-protein snacks because they tend to be portable foods that will keep them satiated for longer,” said Cornish. “Easy, go-to tasty snacks that marry convenience with health, such as salmon jerky or seaweed chips are great lean-protein options.”

4. Artisanal, high-quality canned fish is hot, both in restaurants and grocery stores.
Grocers will start to carry a variety of canned fishes, ranging by source, species, and flavor profiles, FreshDirect predicts, touting its own JUST Wild Caught Albacore Tuna, a traceable and sustainable tuna from the Pacific Northwest.

5. Restaurants will offer innovative seafood appetizers and entrees.
Restaurants will offer innovative seafood appetizers and entrees, as well as brand new preparations of seafood, Ruhs predicted. For example, due to the popularity of meat charcuterie boards, Ruhs believes restaurants should serve “sea charcuterie boards” as well as “seaweed charcuterie boards.”

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น U Share V Care เดือน กรกฎาคม 2562

ร่วมแสดงความคิดเห็น U Share V Care ลุ้นรับของกำนัล
Energy Lives Here!

ESSO Fuels Card worth THB1,000 (Only One Lucky Winner)

ลุ้นรางวัลกับเราได้ตามลิงก์ด้านล่างเลย อย่าลืมกรอกให้ครบ..นะคะ

 

Italian Networking Dinner

กรุงเทพฯ, 14 มิถุนายน 2562 – สถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน จัดงานเลี้ยงรับประทานอาหารอิตาลีในมื้อค่ำสุดพิเศษเป็นครั้งแรก ณ บ้านพักเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย

ในโอกาสนี้ H.E.Lorenzo Galanti เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และ Mr.Giuseppe Lamacchia ทูตพาณิชย์ ร่วมให้การต้อนรับนักธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารและสื่อมวลชนที่เข้าร่วมงาน ProPak Asia 2019 & PrinTech Asia 2019 อย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง นับเป็นโอกาสอันดีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสานสัมพันธ์ทางธุรกิจต่อไป

 

 

Bangkok, 14 June 2019 – Embassy of Italy, in collaboration with Italian Trade Agency (ITA) exclusively hosted the first-time “Italian Networking Dinner” at the Italian Ambassador’s Residence.

H.E.Lorenzo Galanti, the Ambassador of Italy to Thailand and Mr.Giuseppe Lamacchia, the Italian Trade Commissioner gave special guests and press who participate ProPak Asia 2019 & PrinTech Asia 2019 a warm welcome and enjoy Italian cuisine. The fascinating dinner was also the great event networking food and beverage professionals to share their experiences and network the business partnership.

 

FILTEC Brings Innovative Inspection Solutions to ProPak Asia 2019 in Thailand

FILTEC ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการตรวจสอบสินค้าในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค และยา โดยมีสำนักงานและหน่วยสนับสนุนในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ให้บริการแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกมานานกว่า 60 ปี และเป็นอีกครั้งสำหรับการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ProPak Asia 2019 งานแสดงสินค้าสำคัญที่ FILTEC เข้าร่วมเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชันด้านการตรวจสอบออกสู่ตลาดในภูมิภาค โดยประเทศไทยถือเป็นผู้นำในตลาดเอเชีย ทั้งยังเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่องรวดเร็วที่สุดในโลกสำหรับสินค้าประเภทเครื่องดื่ม

James Kearbey, President/CEO (Left) Christian Beck, Senior Product Manager (Right)

“ประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม INTELLECT ที่ FILTEC นำเสนอล่าสุดนี้น่าจะเป็นที่สนใจของบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค และเครื่องสำอางในประเทศไทยและทั่วเอเชีย ด้วยความแม่นยำและความน่าเชื่อถือ โซลูชันการตรวจสอบของ FILTEC สามารถลดปริมาณของเสียทั้งในแง่ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ทั้งยังลดต้นทุนได้ทั้งกระบวนการผลิต เนื่องจากสามารถระบุหาสารปนเปื้อนและความเสียหายแบบเรียลไทม์ ณ ตำแหน่งที่เกิดความผิดพลาดของกระบวนการผลิตได้ โซลูชันการตรวจสอบเป็นกรรมสิทธิ์ของทางบริษัทและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในไทยและเอเชียได้เป็นอย่างดี รวมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามข้อกำหนดหรือความต้องการด้านการตรวจสอบของลูกค้าแต่ละรายได้” นายคริสเตียน เบ็ก ผู้จัดการด้านผลิตภัณฑ์อาวุโสกล่าว

ด้วยอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตในปัจจุบันทั้งในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคเอเชีย ผู้ผลิตจึงต้องการโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมอันทันสมัย เชื่อถือได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการผลิต รวมทั้งให้ผลวิเคราะห์ที่จำเป็นเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพของการผลิต ทั้งนี้แพลตฟอร์ม INTELLECT ถือเป็นสมองของโซลูชันการตรวจสอบของเครื่องจักรแต่ละชนิด ซึ่งให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ทางปฏิบัติที่ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถระบุและแยกแยะปัญหาในสายการผลิตและแก้ไขได้ทันที ข้อมูลรายละเอียดดังกล่าวยังช่วยให้ทีมงานฝ่ายผลิตสามารถกำหนดตารางการบำรุงรักษาเพื่อป้องกันก่อนที่จะเกิดปัญหาวิกฤต ดังนั้นจึงช่วยลดอัตราการเกิดปัญหาการขัดข้องทางเทคนิคและไม่สามารถดำเนินการผลิตต่อไป รวมทั้งลดอัตราการสูญเสียด้านการผลิตอีกด้วย

โซลูชันของ FILTEC นั้นไม่ว่าจะเป็นแบบที่ทำงานโดยอิสระ (Stand-alone) หรือทำงานเป็นระบบที่สมบูรณ์ล้วนมีลักษณะที่เป็นแบบโมดูลาร์หรือประกอบด้วยหน่วยแยกต่างๆ ที่สามารถรวมกันได้ รวมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนได้เต็มที่ โซลูชันดังกล่าวสามารถตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ที่ปิดผนึกสนิทแล้วเพื่อหาข้อบกพร่องได้โดยมีความแม่นยำสูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์ และทำงานโดยปราศจากการประนีประนอมให้กับข้อบกพร่องต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงทำให้แบรนด์ของผู้ผลิตได้รับความน่าเชื่อถือทั้งในด้านความซื่อสัตย์และความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

เครื่องตรวจสอบกระป๋องเปล่า (ECI) เครื่องตรวจสอบด้วยระบบกล้องที่กำหนดค่าได้
โซลูชันการตรวจสอบ ECI ที่ได้รับการออกแบบมาใหม่มีขนาดของเครื่องจักรที่กะทัดรัด โดยทำหน้าที่ตรวจสอบข้อบกพร่องของกระป๋องเปล่าตรงบริเวณปากกระป๋อง ผนังด้านในและฐานกระป๋องที่ความเร็วสูงสุด 2,400 กระป๋องต่อนาที โซลูชันนี้สามารถผนวกเข้ากับสายการผลิตที่มีอยู่และพร้อมใช้งานได้อย่างง่ายดาย ECI ช่วยลดอัตราการเกิดปัญหาการขัดข้องทางเทคนิคและไม่สามารถดำเนินการผลิตต่อไป พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตโดยลดปัญหาการติดขัดที่เครื่องบรรจุและเครื่องปิดผนึกฝากระป๋อง นอกจากนี้ ECI ยังเป็นโซลูชันการตรวจสอบขนาดกะทัดรัดที่มาพร้อมกลไกการออกแบบขั้นสูงซึ่งอนุญาตให้กระป๋องที่สะอาด ปราศจากความเสียหายและไร้สิ่งปนเปื้อนเท่านั้นที่สามารถเดินทางต่อไปยังเครื่องบรรจุได้

AURATEC Pressure ระบบตรวจจับแบบสุญญากาศที่รับประกันความน่าเชื่อถือของบรรจุภัณฑ์
AURATEC เป็นโซลูชันการตรวจสอบอัจฉริยะที่น่าเชื่อถือ ซึ่งให้การรับประกันด้านการตรวจจับแรงดันได้อย่างแม่นยำและสม่ำเสมอ รับประกันความละเอียดในการตรวจสอบขั้นสูง พร้อมช่วยลดการรีเจคที่ผิดพลาดอันเกิดจากการตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ไม่ตรงตามแนวคอนเวเยอร์ อัลกอริทึมวิธีการตรวจวัดแบบหลากหลายสามารถประเมินข้อมูลภาพของผลิตภัณฑ์เป็นแบบ 3 มิติหรือแบบดาต้าเรียลไทม์ภาพเสมือนจริงที่ความเร็วถึง 1,200 กระป๋องต่อนาที

QUADVIEW— มุมมอง 720 องศา
QUADVIEW เป็นระบบอิสระที่มีขนาดกะทัดรัดซึ่งใช้เทคนิคการมองเห็นขั้นสูงด้วยมุมมองการตรวจสอบ 720 องศา อัลกอริทึมการตรวจสอบที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ FILTEC ทำการวิเคราะห์ฝา ฝาจีบ และช่วงจีบข้างของฝาจีบ เพื่อหาข้อบกพร่องต่างๆ เช่น ฝาเผยอ ฝาพับ ฝาเอียง นอกจากนี้ QUADVIEW ยังสามารถระบุสีและรูปแบบได้อีกด้วย เมื่อผนวกเข้ากับ AURATEC โซลูชันแบบครบวงจรนี้จึงรับประกันความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์ให้แก่ผู้ผลิตได้

เทคโนโลยีชั้นนำใหม่เหล่านี้รวมถึง INTELLECT ได้รับการพัฒนาโดย FILTEC ซึ่งทุ่มทุนมากมายสำหรับการวิจัยและพัฒนาเพื่อสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่องท่ามกลางตามความต้องการของภาคธุรกิจที่วิวัฒนาการและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง

www.FILTEC.com

Food Trends that Matter: 10 เทรนด์ที่น่าสนใจของอุตสาหกรรมอาหารในมุมมองของ Innova Market Insights

10 เทรนด์ที่น่าสนใจของอุตสาหกรรมอาหารในมุมมองของ Innova Market Insights มีดังนี้

1. Discovery: The Adventurous Consumer

ผู้บริโภคจะเริ่มพาตัวเองออกจากคอมฟอร์ทโซน ค้นหาประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เช่น กลิ่นรส รสชาติ ลักษณะทางประสาทสัมผัสที่แตกต่าง ตัวอย่างที่ดีของเทรนด์นี้ คือ KIT KAT Ruby Cocoa Chocolate จากเนสท์เล่

2.The Plant Kingdom

กระแสรักสุขภาพส่งผลให้อาหารที่มีส่วนประกอบจากพืชได้รับความนิยมและไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัว โดยอาจเป็นการทดแทนเนื้อสัตว์ทั้งหมด หรือไฮบริดแบบผสมผสานของอาหารจากพืชและสัตว์ที่ลงตัว อย่างเช่น Carrefour ได้นำเสนอ Le Palet Boeuf Et Vegetal ซึ่งเป็นการผสมผสานของเบอร์เกอร์ที่มีส่วนประกอบจากพืชและเนื้อวัว

       

3.Alternatives to All

ผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ๆ ในกลุ่ม Dairy free กลุ่ม Meat substitutes และกลุ่มอาหารวีแกนที่วางจำหน่ายทั่วโลกในช่วงปี พ.ศ.2556-2560 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 ร้อยละ 11 และร้อยละ 46 ตามลำดับ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ เรื่องโปรตีน ที่ไม่ได้อยู่เพียงเนื้อสัตว์อย่างที่เราเคยนึกถึงอีกต่อไป แต่โปรตีนจากพืชได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น รวมทั้งโปรตีนจากแมลงที่มาแรงไม่แพ้กัน

     

4.Green Appeal

ผู้บริโภคชาวอเมริกัน ชาวอังกฤษ และชาวจีน 2 ใน 3 ต่างคาดหวังว่าผู้ผลิตอาหารจะลงทุนกับเรื่องของความยั่งยืน แบรนด์ต่างๆ ก็ได้ตอบรับกับกระแสของความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น การลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร ตลอดจนการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ทางธรรมชาติ

         

5.Snacking: The Definitive Occasion

ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวอาจจะไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับอาหารมื้อว่างเสมอไป เส้นแบ่งของอาหารมื้อหลักและมื้อว่างเริ่มจะรวมเข้าด้วยกัน ส่วนหนึ่งก็เพราะวิถีการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น อย่างเช่น ผู้บริโภคมิลเลนเนียล ร้อยละ 63 เลือกบริโภคขนมขบเคี้ยวแทนอาหารมื้อหลักเพราะมีความสะดวก

6.Eating for Me

เรื่องอาหารก็สามารถปรับให้เข้ากับเฉพาะบุคคล หรือ Personalized ได้ ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์นั่นเอง อย่างเช่น อาหารสำหรับผู้ที่มีวิถีการกินแบบคีโต ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์อาหารคีโตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นร้อยละ 76

 

7.A Fresh Look at Fiber

เมื่อพูดถึงไฟเบอร์จะไม่ใช่แค่เรื่องประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่หลากหลาย จากการศึกษาในปี 2561 พบว่าชาวอเมริกันร้อยละ 44 และชาวอังกฤษร้อยละ 33 บริโภคไฟเบอร์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ระบุการกล่าวอ้างเรื่องไฟเบอร์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21

8.I Feel Good

เรื่องของโภชนาการไม่ได้ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพของจิตใจ ผู้บริโภคชาวอเมริกัน ชาวอังกฤษ และชาวจีน 1 ใน 4 กล่าวว่า ความรู้สึกผ่อนคลาย เป็นอีกมุมหนึ่งที่พวกเขานึกถึงในยามรับประทานอาหาร และมีผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มมากกว่าร้อยละ 36 ที่ออกมาในช่วงปี พ.ศ.2559-2560 ต่างกล่าวอ้างถึงเรื่อง ‘feel good’

9.Small Player Mindset

สตาร์ทอัพเริ่มเขย่าวงการอุตสาหกรรมอาหาร ผู้บริโภคชาวอเมริกัน ชาวอังกฤษ และชาวจีน 2 ใน 5 ชอบซื้อสินค้าจากผู้ผลิตแบรนด์เล็กๆ เนื่องจากพวกเขามองว่าแบรนด์เล็กจะใส่ใจและให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้ามากกว่า รวมทั้งมีเรื่องราวความเป็นมาในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ

10.Connected to the Plate

ชีวิตติดโซเชียลดูจะมีอิทธิพลต่อเทรนด์นี้ ผู้บริโภควัย 26-35 ปี ชาวจีน (ร้อยละ 55) ชาวอเมริกัน (ร้อยละ 43) และชาวอังกฤษ (ร้อยละ 24) กล่าวว่า สิ่งที่พวกเขาไม่ลืมทำก่อนลงมือกินอาหารจานโปรด คือ การถ่ายรูปอาหาร แล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดียอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง จากเทรนด์นี้ทางโอรีโอได้เปิดให้ผู้บริโภคโพสต์ว่าอยากจะสร้างสรรค์โอรีโอรสใดบ้าง แล้วลง #myoreocreation ผลสรุปว่ารส Cherry Cola มายืนหนึ่ง และได้ผลิตออกสู่ตลาดจริง

Leadership in Food Innovation Conference Series in THAIFEX – World of Food Asia 2019

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า เทรนด์ของอุตสาหกรรมอาหารมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน เนื่องจากผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และเลือกอาหารที่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความตื่นตัวในการผลิตสินค้าที่คำนึงถึงความต้องการในด้านดังกล่าวเพิ่มขึ้น ซึ่งในปีนี้ หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และโคโลญเมสเซ่ ประเทศเยอรมนี ได้ร่วมกันจัดสัมมนาให้ความรู้ด้านนวัตกรรมอาหารและเทคโนโลยีที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารและบริการมีมูลค่าสูงขึ้น ภายในงาน “THAIFEX – World of Food ASIA 2019”

 

Inspiring the Food of Tomorrow

ทิศทางของผลิตภัณฑ์อาหารในวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร งานสัมมนาภายใต้แนวคิด Leadership in Food Innovation Conference Series เป็นคำตอบที่หลากหลายให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนา โดยแบ่งเป็น 5 ประเด็นหลักๆ ได้แก่

1. Fuelling Innovation and Growth in 2019
2. Accelerating Business in Food and Technology
3. Food Trends that Matter
4. Consumer Insights and Marketing Strategies
5. New Horizons of Improved Nutrition and Formulation

 

การขับเคลื่อนในเรื่องนวัตกรรมของประเทศไทย รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจใหม่ (New Economic Model) ในทุกมิติ ทั้งภาคธุรกิจ เกษตร การศึกษา ไปสู่โมเดล Thailand 4.0 เพื่อมุ่งเน้นการแก้ปัญหาให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ปฏิรูปเศรษฐกิจใหม่จากระบบเศรษฐกิจที่เน้นการผลิตโดยใช้แรงงาน เครื่องจักร และทรัพยากร มาผลิตบนฐานความรู้และเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม ต่อยอดเศรษฐกิจไทยไปสู่เศรษฐกิจที่เน้นคุณค่า และขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม

ทิศทางของอุตสาหกรรมอาหารก็ได้รับอิทธิพลมาจากการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรศาสตร์ด้วย องค์การสหประชาชาติได้ประเมินว่า ปี พ.ศ.2544-2643 จะเป็นศตวรรษแห่งผู้สูงอายุ สำหรับประเทศไทยเอง ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติได้ระบุว่า ไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 โดยมีประชากรผู้สูงอายุ ร้อยละ 10.4 ของประชากรทั้งประเทศ และคาดว่าเราจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในช่วงปี พ.ศ.2567-2568 นับเป็นความท้าทายของอุตสาหกรรมอาหารไม่น้อย

ติดตามอัปเดตเทรนด์ที่น่าสนใจของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในงานปีหน้าซึ่งยิ่งใหญ่กว่าเดิม กับการผนึกกำลังเป็น THAIFEX-Anuga Asia 2020 ในวันที่ 26-30 พฤษภาคม 2563 ณ เมืองทองธานี