ผู้ส่งออกชั้นนำจากเบลเยียมนำเสนอสินค้ามันฝรั่งทอดต้นตำรับจากเบลเยียมสู่เมืองไทย ในงาน THAIFEX World of Food Asia

กรุงเทพฯ, คณะกรรมการการตลาดเพื่อการเกษตรฟลานเดอร์ส (Flanders Agricultural Marketing Board – VLAM) นำ 5 ผู้ส่งออกมันฝรั่งทอดรายใหญ่ของเบลเยียมร่วมจัดแสดงสินค้าในงาน “THAIFEX World of Food Asia” ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา โดยบริษัททั้ง 5 แห่ง ซึ่งได้แก่ Agristo, Bart’s Potato Company, Clarebout Potatoes, Ecofrost และ Mydibel ร่วมนำเสนอสินค้าในกลุ่ม “Belgian Fries” เพื่อขยายเครือข่ายธุรกิจ เพิ่มส่วนแบ่งในตลาดมันฝรั่งแปรรูปที่กำลังเติบโตของเมืองไทย และเสริมสร้างชื่อเสียงของมันฝรั่งทอดของเบลเยียมในประเทศไทยและทั่วภูมิภาค

 

บริษัททั้ง 5 แห่งนี้เป็นตัวแทนของธุรกิจครอบครัวรายใหญ่ที่สุดของเบลเยียม ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์และความเชี่ยวชาญด้านมันฝรั่งที่ครอบคลุมและส่งออกสินค้าในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก การร่วมจัดแสดงสินค้าในงาน THAIFEX ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งในแคมเปญส่งเสริมการขาย 5 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเกิดจากการประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการการตลาดเพื่อการเกษตรฟลานเดอร์ส (Flanders Agricultural Marketing Board – VLAM) และ Belgapom ซึ่งเป็นสมาคมอุตสาหกรรมการค้าและการผลิตมันฝรั่งของเบลเยียม

 

“หลังการจัดแสดงสินค้าทั้งในอินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์มันฝรั่งทอดสู่ประเทศไทยในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัท แม้ผลิตภัณฑ์ของเราจะมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่บ้างแล้วในภูมิภาคนี้ หากเราเล็งเห็นถึงโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการขยายธุรกิจส่งออกและเพิ่มความนิยมต่ออาหารชั้นเลิศประจำชาติเรา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดของโลก ด้วยจำนวนชนชั้นกลางที่เพิ่มสูงขึ้น การขยายตัวเมืองที่รวดเร็ว และจำนวนประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก โดยแนวโน้มนี้ รวมถึงมาตรฐานระดับสูงและนวัตกรรมอาหารของเบลเยียม จะเป็นตัวขับเคลื่อนอุปสงค์ต่อสินค้าของเราในภูมิภาคนี้และตลาดอื่นๆ ให้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมของเราพร้อมตอบสนองความต้องการด้วยแนวทางดั้งเดิม เนื่องจากมันฝรั่งทอดของเบลเยียมมีความแตกต่างจากมันฝรั่งของประเทศอื่นอย่างสิ้นเชิง” มร.โรเมน คูลส์ จาก Belgapom กล่าว

 

“ประเทศไทยมีชื่อเสียงอย่างมากในฐานะสวรรค์สำหรับนักกิน และผู้บริโภคชาวไทยก็รู้จักและหลงใหลในอาหารคุณภาพดีเป็นอย่างมาก มันฝรั่งทอดของเบลเยียมยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในประเทศไทย ดังนั้น เราจึงรู้สึกตื่นเต้นมากที่มีโอกาสแบ่งปันหนึ่งในอาหารประจำชาติยอดนิยมของเบลเยียมแก่เมืองไทย ด้วยผิวนอกสีเหลืองทองและกรุบกรอบ และสัมผัสเนื้อในที่นุ่มนวล ทำให้มันฝรั่งของเบลเยียมหรือที่เราเรียกกันว่า Frites ถือเป็นอาหารชั้นเลิศที่แท้จริงของประเทศเรา ไม่ว่าจะเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงกับสเต็ก หรือรับประทานเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยคู่กับซ้อสมายองเนสก็อร่อยถูกปากทุกคน!”

 

นอกจากนี้ กลุ่ม “Belgian Fries” ยังเป็น “พันธมิตรผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของการแข่งขัน “Belgian Fries Back to Basic Dip and Topping Sauce Challenge” และจะเข้าร่วมในรายการแข่งขันทำอาหาร Thailand Ultimate Chef Challenge ด้วยเช่นกัน ประเทศเบลเยียมเป็นผู้ส่งออกมันฝรั่งแช่แข็งรายใหญ่ที่สุดของโลก ผลผลิตของประเทศกว่า 90% ถูกส่งออกสู่ตลาดทั่วโลก เฉพาะในปี ค.ศ. 2018 บริษัทต่าง ๆ ของเบลเยียมสามารถผลิตมันฝรั่งได้ในปริมาณมหาศาลกว่า 5 ล้านตัน

 

www.originalfries.eu หรือ www.jamesbint.be

 

 

The ITALIAN Pavilion at THAIFEX 2019 สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน นำทีมผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจากหลากหลายแคว้นในประเทศอิตาลีเข้าร่วมงาน Thaifex – World of Food Asia 2019

 

สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน (Italian Trade Agency; ITA/ICE) ร่วมกับ Koelnmesse Italia (Anuga), Fiere di Parma CIBUS, Federalimentare (Italian Federation of Alimentary Industry) นำผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจากหลากหลายแคว้นในประเทศอิตาลีเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าภายในพาวิเลียนอิตาลี ในงาน Thaifex World of Food Asia 2019 เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจระหว่างผู้ผลิตสินค้าจากประเทศอิตาลี ผู้แทนจำหน่าย และผู้นำเข้าสินค้าของไทยที่มีศักยภาพได้พบและสานสัมพันธ์ทางธุรกิจ

 

ภายในพาวิเลียนอิตาลีนั้นเต็มไปด้วยสินค้าอาหารและไวน์ เครื่องดื่ม สินค้าอาหารสำหรับเด็ก สินค้าอาหารออแกนิกส์ และส่วนผสมอาหารต่างๆ ซึ่งคัดสรรมาจากผู้ผลิตรวม 47 บริษัทร่วมจัดแสดงอย่างคับคั่ง และไฮไลท์สำคัญของพาวิเลียนนี้ก็คือโซนสินค้า “ออแกนิกส์” ซึ่งภายในงานปีนี้มีสินค้าออแกนิกส์มากมายหลากหลายรูปแบบมาให้ได้ชม พร้อมด้วยการสำรวจความเข้าใจเรื่องโลโก้ออแกนิกส์ของสหภาพยุโรป ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเกิดข้อสังเกตง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจในการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ออแกนิกส์ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยกับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมภายในพาวิเลียนดังกล่าวด้วย

 

Natura Nuova Spa Consortile ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารจากวัตถุดิบธรรมชาติแท้ 100% รายใหญ่ก็ไม่พลาดที่จะเข้าร่วมงานในปีนี้ โดยนอกจากจะนำเสนอสินค้าอาหารและเครื่องดื่มธรรมชาติแท้ๆ ในโซนสินค้าออแกนิกส์แล้ว ยังได้แนะนำผลิตภัณฑ์สมูทตี้รสผลไม้แท้ 100% สำหรับเด็ก แบรนด์ Frullà ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สมูทตี้รสผลไม้แท้ที่ผลิตจากผลไม้ในท้องถิ่นตามฤดูกาลจากเกษตรกรในพื้นที่ที่เพาะปลูกแบบออแกนิกส์ทั้งหมด มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่ใช้สารเคมี และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานการรับรองโลโก้ออแกนิกส์ของสหภาพยุโรป ทั้งยังไม่เติมแต่งสี กลิ่นรส หรือน้ำตาลเลย ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงบรรจุในซองเพ้าซ์แบบพร้อมรับประทาน อีกทั้งบรรจุภัณฑ์ยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้อีกด้วย…

 

 

เรียกว่ามีที่มาที่ไปแบบเป็นธรรมชาติแท้จริงๆ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเตรียมทำตลาดในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเด็กโดยเฉพาะและเจาะช่องทางค้าปลีกหรือซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้คาดว่าจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยได้ไม่ยาก เพราะผลิตจากผลไม้แท้ คุณภาพดี และรสชาติอร่อย มีให้เลือกหลากหลายรสชาติเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ทั้งยังมีรูปแบบบรรจุภัณฑ์พกพาง่าย เข้ากับเทรนด์ของผู้บริโภคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง

Anuga 2019 Returns for its 100th Anniversary 10 Trade Shows Under One Roof – Trends and Innovations for the Future of Food

Five months before the event begins, excellent registration figures have been recorded for the coming Anuga in Cologne from 5 to 9 October 2019. More than half of the exhibiting space (total 284.000 sqm) has been booked. Close to 7,400 exhibitors from around 100 countries are expected to participate, testament to Anuga’s status as the world’s biggest and most important business platform for the international food industry.

 

BANGKOK, – Anuga, the top international trade show for the world’s food and drink industry, announced its 100th year anniversary at a press conference in IMPACT Muang Thong Thani in Bangkok, Thailand. Anuga will be attended by numerous market leaders and majority of the international group organizers have also confirmed their participation at the trade fair for all 10 trade shows, including the Federal Association of the German Retail Grocery Trade, Berlin (BVLH), the Department of International Trade Promotion (DITP), Thailand, and the Thai Chamber of Commerce (TCC) and Board of Trade of Thailand.

 

Thailand is an important trade market for Germany. In 2018, Thailand exported EUR 390 billion worth of food to Germany, testament to the former’s status as an important source market for the German food industry. Popular export products include meat, fodder, fish and fish preparations, fruit preparations and tinned fruit, bakery products and other preparations comprising grain, rice and rice products. Thailand is also a significant sales market with growing potential, with Germany exporting EUR 135 million of food in 2018. Important products include potatoes and potato products, milk and milk products, meat and meat products, cocoa and cocoa products and many more1.

 

10 Trade Fairs under One Roof

Anuga’s successful concept of having 10 trade shows under one roof ensures a good overview and a well-arranged layout divided up into themed areas.

  • Anuga Fine Food
  • Anuga Frozen Food
  • Anuga Meat
  • Anuga Chilled & Fresh Food
  • Anuga Dairy
  • Anuga Bread & Bakery
  • Anuga Drinks
  • Anuga Organic
  • Anuga Hot Beverages
  • Anuga Culinary Concepts

 

The 35th Anuga in Cologne will take place from 5 to 9 October 2019. It is exclusively open to trade visitors on all days.

 

Additional Information

1 According to The Federation of German Food and Drink Industries (BVE)

 

www.anuga.com

 

น้ำตาลมิตรผล เสิร์ฟความหวานแบบรักษ์โลกต่อเนื่อง

น้ำตาลมิตรผล เผยโฉมน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ในถุงกระดาษ ครั้งแรกในมหกรรม THAIFEX 2019

กรุงเทพฯ – น้ำตาลมิตรผล ผู้ผลิตน้ำตาลรายแรกของไทยที่ได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐานโลก BONSUCRO® และผู้ผลิตน้ำตาลเจ้าแรกที่ใช้บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ลุยเสิร์ฟความหวานแบบรักษ์โลกอย่างต่อเนื่อง เผยโฉมน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ในถุงกระดาษ ครั้งแรกในมหกรรม THAIFEX – World of Food Asia 2019

ภายหลังจากที่กลุ่มมิตรผลได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำตาลอ้อยธรรมชาติในถุงกระดาษเป็นครั้งแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกใบนี้ให้น่าอยู่ต่อไป ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อตอกย้ำในเจตนารมณ์ดังกล่าว จึงเดินหน้าส่งมอบบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกออกสู่ตลาดเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัว น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ โฉมใหม่ ในถุงกระดาษ บรรจุภัณฑ์ด้านนอกทำจากกระดาษคราฟขาว ด้านในป้องกันความชื้นด้วยพลาสติกชีวภาพชนิดพิเศษที่ผลิตจากพืช สามารถย่อยสลายกลับคืนสู่ธรรมชาติได้ในสภาวะปุ๋ยหมักโดยไม่ต้องพึ่งพาโรงย่อยสลายอุตสาหกรรมและไม่ทิ้งสารพิษตกค้างไว้ในสิ่งแวดล้อม จึงเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ยึดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

ปัจจุบันปัญหาภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงมากขึ้น พลาสติกนับเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่เร่งการเพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจก ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปทั่วโลกทั้งในระบบนิเวศทางทะเลและบนบก ซึ่งประเทศไทยติดอันดับ 6 ประเทศที่มีปริมาณขยะพลาสติกในทะเลมากที่สุดในโลก สะท้อนถึงปัญหาที่ทุกภาคส่วนต้องหันมาใส่ใจและร่วมมือกันอย่างจริงจังในการลดการใช้พลาสติกเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว การเปิดตัวน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ในถุงกระดาษครั้งนี้ จึงเป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ของกลุ่มมิตรผลที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดผลกระทบดังกล่าวอย่างยั่งยืน

See What’s New in the Star Items June 2019

พบกับผลิตภัณฑ์ดาวเด่น เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ส่วนผสมอาหาร และอื่นๆ ที่น่าสนใจ…ได้ที่นี่ CLICK

Sensor-based Sorting Solutions to help Supermarket Overcome Future Unique Challenges

โซลูชันการคัดแยกด้วยเซ็นเซอร์เพื่อช่วยให้ซูเปอร์มาร์เก็ตเอาชนะความท้าทายที่แตกต่างในอนาคต

Translated and Compiled By:
กองบรรณาธิการ
นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine
editor@foodfocusthailand.com

Full article TH-EN

ในขณะที่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นและประสิทธิภาพมีความสำคัญมากขึ้น ซูเปอร์มาร์เก็ตต้องเผชิญกับความท้าทายที่แตกต่าง ซึ่งในอนาคตอันใกล้ซุปเปอร์มาร์เก็ตจะมีรูปแบบธุรกิจที่เปลี่ยนรูปแบบไปอย่างชัดเจน โดยเป็นผลมาจากนวัตกรรมการติดตั้ง ระบบออนไลน์ และห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมอาหาร เทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการต่อสู้เพื่อให้ได้ลูกค้า และยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเป็นประโยชน์ต่อโลกใบนี้อีกด้วย

สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้โดยการพัฒนาอย่างยั่งยืน อันที่จริงแล้วคำนี้เป็นคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากเกินไปซึ่งอาจหมายถึงบางสิ่งในซูเปอร์มาร์เก็ตและห่วงโซ่อุปทาน การผลิตและจำหน่ายอาหารจะกลายเป็นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะความยั่งยืนและผลกำไรขึ้นอยู่กับการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

มีการคาดการณ์ว่าจำนวนประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 7.6 พันล้านเป็นหนึ่งหมื่นล้านคนภายในปี พ.ศ. 2593 โดยในปัจจุบันความต้องการอาหารมีมากกว่าอุปทานแล้วในหลาย ๆ พื้นที่ เพื่อแสดงให้เห็นภาพถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จะเห็นได้ว่าความต้องการสินค้าเกษตรในปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อห้าปีที่แล้ว นี่คือปัญหาตึงเครียดของทรัพยากรทางการเกษตรเพราะที่ดินที่พร้อมสำหรับการเพาะปลูกอาหารนั้นมีพื้นที่จำกัดมาก ซึ่งสอดคล้องตามที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติระบุว่าสามารถนำที่ดินอีกเพียง 20% ไปใช้ประโยชน์ได้เพิ่มขึ้น ฉะนั้นทรัพยากรที่มีอยู่จะต้องถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อให้อาหารเพียงพอสำหรับทุกคนและเพื่อให้มั่นใจว่าการจัดหาอาหารสำหรับคนรุ่นหลังในอนาคตจะมีเพียงพอ

As population grows and efficiency becomes more critical, supermarkets face unique challenges. Supermarkets of the near future will have their business models radically re-shaped by innovations instore, online, and in the food industry supply chain. These technologies will be deployed in the battle for customers but, more than this, can also benefit the planet.

This will be achieved by improving sustainability—a buzzword word widely over-used, but which really can mean something in supermarkets and the supply chain. Producing and selling food will become more environmentally responsible because sustainability and profitability both depend on the efficient use of resources.

The global population is forecast to increase from 7.6 billion to 10 billion people by 2050, and in many places food demand is already outstripping supply. To illustrate the rapid pace of change, agricultural demand today is 50% greater than it was just five years ago. This is placing enormous strain on agricultural resources because the land available for growing food is very limited. According to the UN Food and Agriculture Organization, only 20% more land can be brought into productive use. Existing resources must be used more effectively to provide food for everyone and to ensure food supply for future generations.

Top 15 Sources of Plant-based Protein

15 แหล่งโปรตีนจากพืช

By:
Zawn Villines

Reviewed By:
Natalie Olsen, RD, LD, ACSM EP-C
Medicalnewstoday.com

Translated and Compiled By:
กองบรรณาธิการ
นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine
editor@foodfocusthailand.com

Full article TH-EN

กระแสมังสวิรัติและวีแกนมาแรงแซงทางโค้ง ดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้บริโภคมังสวรัติและวีแกนที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ทั้งในรูปของอาหารการกินและลดข้าวของเครื่องใช้ที่ทำมาจากสัตว์ ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากการให้ความสำคัญกับเรื่องสวัสดิภาพสัตว์หรือความเชื่อทางศาสนา การลดการบริโภคเนื้อสัตว์ไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็นอีกต่อไป เพราะปัจจุบันมีอาหารจากพืชมากมาย ทั้งยังมีการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการเข้าไปอีกด้วย

ในปี 2559 สถาบันโภชนาการและเบาหวานระบุว่า อาหารมังสวิรัติหรือวีแกนสามารถให้คุณค่าทางโภชนาการตามที่ผู้บริโภคในแต่ละวัยต้องการ ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก ผู้ใหญ่ และแม้แต่หญิงตั้งครรภ์ หรือคุณแม่ในช่วงให้นมลูก อย่างไรก็ตาม การได้รับโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นอย่างเพียงพออาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์หรืออาหารที่มีส่วนประกอบจากสัตว์เลย พวกเขาต้องวางแผนด้านโภชนาการเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับโปรตีน แคลเซียม เหล็ก และวิตามินบี 12 เพียงพอเช่นเดียวกับคนที่รับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบจากสัตว์

15 แหล่งโปรตีนจากพืช
อาหารจากพืชที่เหมาะสมก็เป็นแหล่งของโปรตีนและสารอาหารอื่นๆ ที่ยอดเยี่ยมได้เช่นกัน ทั้งยังมีแคลอรีน้อยกว่าอาหารจากสัตว์ พืชบางชนิด เช่น ถั่วเหลือง ควินัว ถือเป็นแหล่งของโปรตีนที่ครบถ้วน โดยมีกรดอะมิโนที่จำเป็น 9 ชนิดที่ร่างกายต้องการ ส่วนพืชชนิดอื่นๆ อาจจะไม่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นเหล่านี้ ดังนั้น ควรบริโภคให้หลากหลาย เรามาดูกันว่าแหล่งของโปรตีนจากพืชมีอะไรกันบ้าง

More and more people are interested in following vegetarian or vegan diets or reducing their use of animal products. A shift away from animal products is getting easier with more fortified and nutritious plant-based foods available. A person may try a vegan diet for health, animal welfare, or religious reasons.

In 2016, the Academy of Nutrition and Dietetics stated that a vegetarian or vegan diet could provide all the nutritional requirements of adults, children, and those who were pregnant or breast-feeding. Even so, getting enough protein and essential vitamins and minerals can be harder for people who do not eat meat or animal products. A person must plan ahead to ensure they get enough protein, calcium, iron, and vitamin B-12, which people on an omnivorous diet get from animal products.

Fifteen Best Plant-based Proteins
The right plant-based foods can be excellent sources of protein and other nutrients, often with fewer calories than animal products. Some plant products, such as soy beans and quinoa, are complete proteins, which means that they contain all nine essential amino acids that humans need. Others are missing some of these amino acids, so eating a varied diet is important. The following healthful, plant-based foods have a high-protein content per serving:

 

Hygienic Sleeve Technology…An Approach to Protect Beverage Can Tops

เทคโนโลยีฟอยล์ครอบเพื่อสุขอนามัย…แนวทางเพื่อการปกป้องฝาเปิดกระป๋องเครื่องดื่ม

Rick Lingle
packagingdigest.com

Translated by กองบรรณาธิการ
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine
editor@foodfocusthailand.com

Full article TH_EN

การใช้ฝาครอบน้ำหนักเบาสำหรับหุ้มส่วนบนของกระป๋องเครื่องดื่มนั้นช่วยจัดการกับความกังวลด้านสุขอนามัยสำหรับกระป๋องเครื่องดื่มที่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน ทำให้ผู้บริโภคสามารถดื่มเครื่องดื่มจากกระป๋องได้อย่างปลอดภัยและสบายใจได้

ประเทศยุโรปทางตอนเหนือของกรีซซึ่งรวมถึงเซอร์เบียและประเทศใกล้เคียงจัดเป็นศูนย์เพาะบ่มเหล่านักประดิษฐ์ระดับโลก ดินแดนดังกล่าวมีความสำคัญที่ได้เป็นแหล่งรวมเหล่าบุคลากรศิษย์เก่านักประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงเอาไว้ เช่น Mihajlo Pupin นักฟิสิกส์/นักเคมี รวมถึง Nikola Tesla นักประดิษฐ์อัจฉริยะผู้มีชื่อเสียงระดับโลก

“เรามีนิสัยของการประดิษฐ์คิดค้นเป็นรากเหง้าอยู่แล้ว” Tome Balalovski นักประดิษฐ์จากสาธารณรัฐมาซิโดเนียเหนือผู้ได้รับการขนานนามเมื่อไม่นานมานี้ (ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2562) กล่าว และเป็นผู้นำตลาดที่แตกต่างมาสู่ดินแดนแห่งมรดกตกทอดทางนวัตกรรม นั่นก็คือ สิทธิบัตรด้านบรรจุภัณฑ์

สิทธิบัตรด้านบรรจุภัณฑ์ที่ว่านี้ก็คือ “ฟอยล์ครอบป้องกันสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารที่บรรจุในกระป๋อง” ซึ่ง Balalovski ได้รับเอกสารการจดสิทธิบัตรจากสำนักงานทรัพย์สินอุตสาหกรรมแห่งมาซิโดเนียเป็นที่เรียบร้อย โดยเขาต้องการให้นวัตกรรมที่เขาคิดค้นนี้ปรากฎออกสู่สายตาสาธารณชนซึ่งก็เข้าไปจารึกในประวัติศาสตร์ของ Packaging Digest ได้พอดีโดยการร่วมงานกับนักประดิษฐ์เพื่อนำเสนอเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร

นวัตกรรมการคิดค้นในครั้งนี้เกิดขึ้นมาเพื่อวงการอุตสาหกรรมที่มีการผลิตเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องอลูมิเนียม โดยประโยชน์ของนวัตกรรมดังกล่าวนี้ได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่สำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ที่มีการบรรจุกระป๋อง ตั้งแต่เริ่มต้นการผลิตไปจนถึงการใช้งานโดยผู้บริโภค

Lightweight sleeve applied over the tops of beverage cans addresses hygiene concerns for unopened cans so that consumer can drink safely and with peace of mind.
The region of European north of Greece that includes Serbia and adjacent countries is historically a kind of incubator for inventors; the area counts among its distinguished inventor alumni personages such as physicist/chemist Mihajlo Pupin and the world-renowned Nikola Tesla.
“We have an inventive nature in our roots,” states inventor Tome Balalovski, who hails from the recently christened (as of February 2019) Republic of North Macedonia and brings a different market to the area’s inventive heritage: a packaging patent.
It’s for a “Protective foil of food products packed in a can bottle” for which Balalovski was granted patent documentation from Macedonian State Office of Industrial Property. He wanted the invention to be exposed to a wider audience, which meshes perfectly with Packaging Digest’s history of working with inventors in reporting on patented packaging ideas.
This is an invention for the area of the industry that carries out the production of drinks packed in an aluminum beverage can. The benefits of this invention are full protection to every individually canned product, starting at the point of manufacture to point of use by the consumer.

Thailand’s Silk Road: Pinning Thailand on the World’s Map

เส้นทางสายไหมประเทศไทย: ปักหมุดไทยบนเวทีโลก

โดย:
ดร.ไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ
Paisan Maraprygsavan, Ph.D.
Director
Industrial and Service Trade Research Division
Trade Policy and Strategy Office
Ministry of Commerce
paisan711@gmail.com

Full article TH-EN

ประเทศไทยมีเส้นทางสายไหมที่เรียกว่าระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor; NSEC) และตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor; EWEC) เชื่อมโยงกับเส้นทางสายไหมของจีนที่ต่อไปยังยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง และทำนองเดียวกันก็เชื่อมโยงไทยกับระเบียงเศรษฐกิจอินเดียที่สามารถทะลุไปยังอ่าวเปอร์เซียโดยผ่านท่าเรือมุมไบได้ อีกทั้งไทยยังมีโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC ที่จะเป็นฐานการผลิตให้กับนักลงทุนทั่วโลก เพื่อกระจายสินค้าไปสู่ประเทศในเส้นทางสายไหม เช่น จีน อินเดีย ยุโรป และอาเซียนได้โดยใช้เวลาไม่มาก

นอกจากนั้น ความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังเกื้อกูลต่อการเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญด้านการค้าโลกของไทยด้วย ในปัจจุบันพลวัตทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มเคลื่อนตัวมาทางเอเชียมากขึ้นเป็นลำดับ โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development Bank; ADB) คาดการณ์ว่าในอีก 3 ทศวรรษข้างหน้าจะเป็นยุคทองของเอเชีย (Asian Century) โดย ADB ได้ประมาณการณ์ว่าในปี 2593 สัดส่วน GDP ของเอเชียจะมีขนาดร้อยละ 52 ของ GDP โลก (เทียบกับปัจจุบันที่เอเชียมีสัดส่วนร้อยละ 32) ทั้งนี้ คาดว่าเอเชียตะวันออก อินเดีย และอาเซียน จะมีสัดส่วนมากกว่าเอเชียอื่นๆ โดยมีจีน อินเดีย และอาเซียนเป็นจักรกลสำคัญในการขับเคลื่อน ในขณะที่ประเทศไทยมีข้อเด่นในการเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจใหญ่อย่างจีน อินเดีย และอาเซียน

เส้นทางสายไหมทางบกของจีนที่เน้นด้านการขนส่งทางรถไฟนั้น ปัจจุบันรถไฟจีนสามารถส่งสินค้าจีนสู่ประเทศรายทางในเส้นทางสายไหม เช่น คาซัคสถาน รัสเซีย เบลารุส โปแลนด์ เยอรมนี เบลเยียม ฝรั่งเศส และสิ้นสุดที่กรุงลอนดอนได้แล้ว โดยเส้นทางนี้ยังได้แยกไปเชื่อมกับเอเชียใต้และตะวันออกกลางด้วย ส่วนทางใต้ก็ตัดตรงมาถึงพรมแดนจีน-ลาว และในอนาคตจะเชื่อมมาถึงไทยและอาเซียน ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าไทยสามารถกระจายสู่ 64 ประเทศบนเส้นทางสายไหมจีน ซึ่งมีประชากรราว 4,400 ล้านคน มากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก และมีสัดส่วน GDP ราวร้อยละ 40 ของโลก

Thailand’s silk road combines the North-South Economic Corridor (NSEC) and the East-West Economic Corridor (EWEC), which links to the Chinese silk road to Europe, Africa, the Middle East, and Indian to Persian Gulf via Mumbai port. Thailand had also launched the Eastern Economic Corridor (EEC), which serves as the main manufacturing base for foreign investors who wish to distribute their goods to markets along the silk road such as China, India, Europe, and ASEAN, in a short period of time.

Moreover, the global economic paradigm that shifts towards Asia has facilitated Thailand’s ambition in becoming a strategic location. The Asian Development Bank (ADB) predicts that the next 3 decades will be the Asian Century, and Asia’s GDP ratio will be accounted for 52% of the world by 2050 (compare to 32% now). It also adds that East Asia, India, and ASEAN will gain the biggest share. While China, India, and ASEAN act as the main engine. Here, Thailand holds a key advantage as a main hub linking 3 major economies; China, India, and ASEAN, together.

China’s land silk road that focuses on railway now allows the world’s giant economy to distribute its good to the countries along the route such as Kazakhstan, Russia, Belarus, Poland, Germany, Belgium, and France, before the train stops in London. This particular route also links with South Asia and the Middle East. Its southern branch, which cut through the border between China and Lao PDR, will eventually links to Thailand and ASEAN. Thus, Thailand will be able to distribute its goods to 64 countries located along the silk road, which are home to more than 4,400 million population (more than half of the world) and control around 40% of the global GDP.

Post Show – Food Focus Thailand Roadshow 2019: Productivity & Safety Roadshow # 2 Chon Buri

มุ่งมั่นสร้างพื้นฐานองค์ความรู้ในการเพิ่มผลิตภาพโดยไม่ละทิ้งเรื่องความปลอดภัยปี 2 จังหวัดชลบุรี

Full article TH-EN

Food Focus Thailand Roadshow 2019: Productivity & Safety Roadshow # 2 Chon Buri
26 April 2019 @ Ambassador City Jomtien Pattaya, Chon Buri

งานสัมมนา “Productivity & Safety Roadshow” ครั้งที่ 2 จังหวัดชลบุรี ได้รับเกียรติจากกูรูแห่งวงการอุตสาหกรรมอาหารร่วมเดินทางไปให้ความรู้แบบเต็มกำลังทั้ง “เพิ่มผลิตภาพ” โดยคุณวุฒิพงศ์ บุญนายวา ผู้จัดการส่วนบริหารการผลิต สถาบันเพิ่มผลิตแห่งชาติ และ “เพิ่มความปลอดภัย” โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤษกมล ณ จอม ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปิดท้ายสัมมนาด้วยกิจกรรมจากผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าและลุ้นรับของรางวัลต่างๆ ภายในงาน

พิกัดต่อไป…เราจะเดินทางไปที่ “จังหวัดเชียงใหม่”…เตรียมพบความรู้และความสนุกสนานกันได้ภายในงานสัมมนา Food Focus Thailand Roadshow 2019: Productivity & Safety Roadshow # 3 ในวันพุธที่ 26 มิถุนายน 2562 ณ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ จังหวัดเชียงใหม่

Food Focus Thailand Roadshow 2019: Productivity & Safety Roadshow # 2 Chon Buri
26 April 2019 @ Ambassador City Jomtien Pattaya, Chon Buri

Hit the road with Food Focus Thailand! The 2nd edition of “Productivity & Safety Roadshow” held in Chon Buri with the food industry professional speakers in “Boost Productivity” by Mr.Wuttipong Boonnaiva, Production Management Department Manager from Thailand Productivity Institute and “Better Food Safety” by Assistant Professor Kriskamol Na Jom, Ph.D. from Department of Food Science and Technology, Faculty of Agro-Industry, Kasetsart University. Moreover, participants also had a chance to check out various products showcased in the event, participate in activities and win the prize.

The 3rd destination of this year is “Chiang Mai” @ Holiday Inn Hotel, Chiang Mai. Shall we meet in the next edition, Food Focus Thailand Roadshow 2019: Productivity & Safety Roadshow # 3 on Wednesday 26th June 2019.