
การป้องกันการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร
Full article (TH-EN)
การเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจอาหารที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการก่อการร้ายในธุรกิจอาหารควรครอบคลุมทุกภาคส่วนของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ การผลิตอาหารสัตว์ รวมถึงการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ใช้บรรจุอาหาร โดยมีแนวทางที่สำคัญก็คือการทำความเข้าใจและการให้ความสำคัญกับประเด็นปัญหาการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร และการพิจารณาถึงผลกระทบและมูลเหตุสำคัญของการเกิดการก่อการร้าย ตลอดจนร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการป้องกัน หรือแนวทางการแก้ไขรวมถึงมาตรการตอบโต้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
การป้องกันการก่อการร้ายในธุรกิจอาหารของประเทศไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยด้านอาหารขึ้นในปี 2552 โดยความร่วมมือกับประเทศสหรัฐอเมริกา และได้กำหนดแผนการดำเนินงานไว้แล้ว แต่สำหรับการเตรียมพร้อมของผู้ประกอบการด้านธุรกิจอาหารในทุกภาคส่วน จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือถึงผลกระทบซึ่งเกิดจากการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร และเตรียมรับมือเพื่อกำหนดแนวทางการตอบโต้และการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการเกิดสถานการณ์ที่ต้องสงสัยอันสุ่มเสี่ยงต่อการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร ซึ่งในประเด็นนี้ระบบการควบคุมและป้องกันการก่อการร้ายในธุรกิจอาหารจะมีความแตกต่างจากระบบการจัดการด้านความปลอดภัยในอาหาร เช่น ระบบการวิเคราะห์อันตรายและการกำหนดจุดควบคุมวิกฤติ (HACCP) และเพื่อให้เรารู้จักและทำความเข้าใจถึงประเด็นปัญหาด้านการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร จึงควรทำความเข้าใจถึง มูลเหตุและผลกระทบของการก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้นในธุรกิจอาหาร กันก่อน
แนวทางการดำเนินการเพื่อควบคุมสถานการณ์การก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร
การดำเนินการในระยะที่ 1 ผู้บริหารทุกระดับขององค์กรจำเป็นต้องทำความเข้าใจถึงผลกระทบของการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร และทำการตรวจสอบสภาพแวดล้อมของการทำงานเพื่อทำการประเมินสถานการณ์ที่อาจเข้าข่ายเป็นประเด็นการก่อการร้ายในธุรกิจอาหารและนำมาสืบสวนหาสาเหตุและแรงจูงใจของกระทำดังกล่าวของกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยว่ามีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร
การดำเนินการในระยะที่ 2 ผลจากการดำเนินการในระยะที่หนึ่ง องค์กรควรพิจารณาแต่งตั้งคณะทำงานโดยคัดเลือกตัวแทนจากผู้บริหารและอาจจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์สถานการณ์การก่อการร้าย โดยคณะทำงานนี้มีหน้าที่ในการพิจารณาข้อมูลจากการสำรวจข้อมูล และการพิจารณาหาความเสี่ยงจากการกระทำอันต้องสงสัยที่อาจเกิดขึ้นได้ในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการทำงานต่างๆ ในองค์กรเพื่อประเมินถึงบริเวณพื้นที่เสี่ยง หรือการตรวจพบกิจการอันต้องสงสัยที่อาจเกิดการก่อการร้ายขึ้นได้
การดำเนินการในระยะที่ 3 การพิจารณากำหนดมาตรการควบคุมหรือแนวทางการป้องกัน
การดำเนินการในระยะที่ 4 เมื่อคณะทำงานและผู้เชี่ยวชาญได้ร่วมกันพิจารณาถึงมาตรฐานควบคุมที่เหมาะสมแล้วจำเป็นต้องสื่อสารมาตรฐานควบคุมต่างๆ ให้กับผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบ และทำความเข้าใจถึงหลักการและเหตุผลของการดำเนินงานตามมาตรการที่ได้กำหนดไว้เป็นมาตรฐาน
การดำเนินการในระยะที่ 5 คณะทำงานและผู้เชี่ยวชาญได้กำหนดแนวทางการเฝ้าระวังตรวจสอบถึงการบังคับใช้มาตรการควบคุมต่างๆ และจำเป็นต้องมีการกำหนดมาตรการการเฝ้าระวังมาตรการการตรวจสอบมาตรฐานการแก้ไข และอาจรวมถึงการซักซ้อมมาตรการตอบโต้กรณีเกิดเหตุที่ต้องสงสัย
การดำเนินการในระยะที่ 6 คณะทำงานและผู้เชี่ยวชาญจะมีการนำเสนอผลการดำเนินงานต่อผู้บริหารสูงสุดเพื่อพิจารณาถึงผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นและดำเนินการพิจารณาความเหมาะสมของมาตรการควบคุมต่างๆ ที่องค์กรมีการประยุกต์ใช้