A Crisis of Trust in the Food Aisle

By:  Christian Philippsen

Managing Director

BENEO Asia-Pacific Pte. Ltd.           

 

Why Does Reading a Food Label Feel Like You Need a Translation Tool to Fully Understand It?

           Walk through any grocery aisle today and you’ll find shoppers behaving like detectives: turning over packages, scrutinising labels, and second-guessing what’s inside. In Asia, where nearly 60% of consumers say clean label products have a “fair” to “great” influence on their buying decisions, this scrutiny is only intensifying.

           In today’s food culture, it’s not enough for a product to be clean—it has to be honest as well. Consumers want ingredients they recognise, understand, and believe in. And increasingly, they’re rewarding brands that can offer transparency from farm to factory to final product.

 

Clean Label, Clearer Values

           As demand for transparency grows1, food manufacturers are under increasing pressure to use ingredients that meet both health and labelling expectations. This means going beyond “free from” claims and tapping into recognisable ingredients that offer functional benefits consumers understand and trust.

           Prebiotic fibres like Orafti® Inulin and Oligofructose are a great example. Extracted via a gentle physical extraction process from the chicory root, these ingredients naturally support digestive health and help manage blood glucose levels—nutritional benefits that are not only scientifically substantiated but can also be clearly communicated to consumers.

           Other ingredients, such as those made from rice, are also gaining traction for similar reasons. BENEO’s rice starch, for instance, is valued for its outstanding technological properties, hypoallergenic profile and mild taste, making it a fit for a broad range of applications. It enhances texture and improves stability in a wide range of applications, from infant meals and gluten-free applications to dairy and alternative dairy products as well as soups and sauces. In addition to providing functional benefits and high quality, BENEO continuously invests to improve its sustainability credentials, such as reducing CO2 emissions, fostering responsible water use in production as well as projects to reduce the environmental impact of rice farming2.

 

Production that Reflects Purpose

           Clean label isn’t just about what’s in the product. It’s also about how that product is made.      Increasingly, consumers care about sustainable sourcing, minimal processing, and the environmental footprint of their food.

           That’s where pulses like the faba bean come in. Naturally nutrient-dense and functionally versatile, faba beans are well-suited for clean-label applications—from emulsification in egg-free baked goods to improving texture and the nutritional profile in plant-based meat and dairy alternatives. Environmentally, they also have a natural advantage: as nitrogen-fixing crops, they enrich the soil and reduce the need for synthetic fertilisers not just for themselves, but also for subsequent crops.

           To scale up sustainable options like these, BENEO recently opened a new pulse-processing facility in Germany. The site was designed with sustainability in mind: powered on 100% renewable energy, it also features rooftop solar panels, and uses waste heat from production to heat the building.

           One of the facility’s most notable features is its water-free processing technology—a critical step in conserving water resources. The plant uses locally grown faba beans and follows a zero-waste model, with every part of the crop fully utilised. Protein concentrates, starch-rich flour, and hulls are all valorised for both food and feed applications, thus maximising resource efficiency.

           The site also reflects BENEO’s wider commitment to sustainability through its Healthy Planet Plan, which includes goals around climate protection, supply chain resilience, and responsible sourcing. The cultivation methods of the faba beans comply with the Farm Sustainability Assessment (FSA) Gold Level, i.e. they fulfil certain standards for sustainable agriculture.

 

A Future Built on Food You Can Trust

           Once upon a time, “clean label” simply meant removing artificial ingredients. Today, it’s about delivering on transparency through ingredients that are easy to understand, rooted in nature, and produced with intention.

           With more than 6 in 10 global consumers3 now reading food labels regularly and actively researching ingredient origins, the market is no longer just rewarding simplicity – it’s demanding evidence. Brands that back up their claims with scientifically proven health benefits are the ones earning consumers’ trust.

           In today’s world where trust is hard-earned and easily lost, the most powerful ingredient on any label is honesty.

Continue reading “A Crisis of Trust in the Food Aisle”

ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษของไทย: ยกระดับผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่า และสร้างความมั่นคงด้านโภชนาการ

           ดร .วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานคณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต ได้มอบหมายให้คุณบุญเลิศ อ่องไพบูลย์ รองประธานคณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยเภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกันหารือแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษ (Foods for Special Dietary Use) เช่น อาหารทางการแพทย์ (Medical Food) และอาหารสำหรับบุคคลผู้มีวัตถุประสงค์ในการบริโภคอาหารเป็นพิเศษ (Foods for persons which require special purpose) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์ในประเทศ ส่งเสริมการผลิตภายในประเทศ ลดการพึ่งพาการนำเข้า และสร้างมูลค่าเพิ่มไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมทั้งยกระดับการเข้าถึงอาหารพิเศษที่มีคุณภาพสำหรับประชาชนชาวไทย

           จากการหารือพบว่า อุตสาหกรรมอาหารเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษของประเทศไทยยังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ทั้งเรื่องการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีโอกาสเข้าร่วมในระบบ การวิจัยและพัฒนาที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญและงบประมาณสูง โดยเฉพาะการวิจัยทางคลินิก ตลอดจนความจำเป็นในการปรับปรุงแนวทางการพิจารณาอนุญาตให้มีความยืดหยุ่นรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และยังคงความปลอดภัย ปัจจุบันหน่วยประเมินความปลอดภัยและความเหมาะสมด้านโภชนาการสำหรับอาหารวัตถุประสงค์พิเศษยังมีจำกัด และบริษัทที่ได้รับอนุญาตอาหารทางการแพทย์ มี 8 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ สเปน เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี เป็นต้น

           ทั้งสามหน่วยงานจึงเห็นพ้องกันในการดำเนินงานร่วมหลายด้าน อาทิ การจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ตามระดับความเสี่ยง (Medium, High Risk) ให้สอดคล้องกับแนวทางการพิจารณาอนุญาต การจัดทำสูตรอาหารมาตรฐาน (Formulation Monograph) เป็นข้อแนะนำเกณฑ์ด้านโภชนาการของอาหาร เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการขออนุญาตรับเลขสารบบอาหาร การลดระยะเวลาและเอกสารประกอบการพิจารณา รวมถึงการพัฒนามาตรฐานการทดสอบเนื้อสัมผัสอาหาร โดยมีศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) เข้ามาช่วยพัฒนาเครื่องมือทดสอบ และสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำวิธีการและเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้จัดทำโครงการ Positive list นำร่องสินค้าเกษตร โดยมี คุณรุจิเรข น้อยเสงี่ยม ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายระหว่างประเทศที่ 1 เป็นเจ้าของโครงการ และ ดร. วรรณพ วิเศษสงวน เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ

           ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวคาดว่าจะนำไปสู่การยกระดับอุตสาหกรรมอาหารทางการแพทย์และอาหารสำหรับบุคคลผู้มีวัตถุประสงค์ในการบริโภคอาหารเป็นพิเศษของไทยให้เติบโตอย่างเป็นรูปธรรม ลดการพึ่งพาการนำเข้า และสร้างความมั่นคงด้านโภชนาการของประชาชน ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

 

อย. ร่วมศึกษาดูงานที่ญี่ปุ่น ยกระดับนวัตกรรมอาหาร เดินหน้าขับเคลื่อน Positive list เพื่อผู้บริโภคไทย

           สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) เข้าร่วมภารกิจศึกษาดูงานด้าน Food Innovation & Food with Function Claims (FFC) ณ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเรียนรู้ระบบนิเวศด้านการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมอาหารมูลค่าสูง รวมถึงการกำกับดูแลการกล่าวอ้างทางสุขภาพของอาหารที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยขับเคลื่อนผ่านคณะทำงานจัดทำแนวทางและกลไกเพื่อสนับสนุนการจัดทำบัญชีรายการสารสำคัญการกล่าวอ้างหน้าที่อื่นของอาหารและส่วนประกอบของอาหาร (Positive Lists for Other Function Claims)  มีเภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหาร และยา เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน และเภสัชกรหญิงสุภาวดี ธีระวัฒน์สกุล ผู้อำนวยการกองอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นคณะทำงาน

 

          การศึกษาดูงานในครั้งนี้มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับหน่วยงานชั้นนำของญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาแนวทางที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย โดยเฉพาะในด้านการส่งเสริมนวัตกรรมอาหารที่ปลอดภัย มีมาตรฐาน และสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันตลาดอาหารที่มีการกล่าวอ้างคุณสมบัติทางสุขภาพส่งออกและตลาดในประเทศประมาณ 258,000 ล้านบาท และในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 8-10 ต่อปี ซึ่งการพัฒนากลไก Positive list จะช่วยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมอาหารไทยสามารถเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

คณะผู้แทน อย. เข้าศึกษาดูงานหน่วยงานสำคัญของญี่ปุ่น ได้แก่

– RIKEN Center for Sustainable Resource Science (CSRS) ที่เน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชีวภาพอย่างยั่งยืน

– Consumer Affairs Agency (CAA) หน่วยงานกลางดูแลกฎหมายและนโยบายคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงระบบการกล่าวอ้างคุณสมบัติของอาหาร (Food with Function Claims)

– National Agriculture and Food Research Organization (NARO) ศูนย์วิจัยด้านเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารของญี่ปุ่น

– ผู้ประกอบการอาหารเชิงหน้าที่ ที่พัฒนานวัตกรรมส่วนผสมอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยอิงงานวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์อย่างเข้มงวด

 

          เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงความสำคัญของภารกิจครั้งนี้ว่า “ระบบการกำกับดูแลการกล่าวอ้างทางสุขภาพของอาหารที่อิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างเข้มงวดเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็เป็นกลไกสนับสนุนการพัฒนาและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการไทยให้เติบโตได้บนพื้นฐานของมาตรฐานสากล” อย. จึงอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อจัดทำ บัญชีรายการสารสำคัญและส่วนประกอบของอาหารที่สามารถกล่าวอ้างหน้าที่อื่น (Positive list) เป้าหมาย 150 รายการภายในปี พ.ศ. 2570 ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการกำกับดูแลที่ชัดเจน โปร่งใส และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพ

          นอกจากนี้ ในระหว่างภารกิจที่ญี่ปุ่น เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ ยังได้รับเชิญให้ร่วมบรรยายในงานสัมมนา “การแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ในประเทศไทยสำหรับภาคธุรกิจ Healthcare และ Wellness” ซึ่งจัดโดยธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ณ สำนักงานใหญ่ของธนาคาร SMBC ในกรุงโตเกียว ในการบรรยายดังกล่าว เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ กฎระเบียบด้านการอนุมัติผลิตภัณฑ์สุขภาพโดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์และผลิตภัณฑ์อาหารในประเทศไทย พร้อมทั้งเน้นย้ำนโยบายสำคัญรองรับแนวโน้มของตลาดสุขภาพไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความพยายามของ อย. ในการยกระดับระบบกำกับดูแลให้มีความคล่องตัว โปร่งใส และเอื้อต่อการลงทุน โดยไม่ลดทอนมาตรฐานด้านความปลอดภัยของผู้บริโภค

          การมีส่วนร่วมของ อย. ทั้งในภารกิจศึกษาดูงานและการแลกเปลี่ยนในเวทีสัมมนาระดับนานาชาติครั้งนี้ สะท้อนบทบาทเชิงรุกขององค์กรในการขับเคลื่อนนโยบายอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพ ความปลอดภัยของประชาชน และศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยในเวทีโลก

See What’s New in the Star Items September 2025

พบกับผลิตภัณฑ์ดาวเด่น เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ส่วนผสมอาหาร และอื่นๆ

ที่น่าสนใจ