Page 51 - FoodFocusThailand No.233 August 2025
P. 51

STRATEGIC R & D

                   ความสััมพัันธ์์ระหว่างสัารสั่�อประสัาทกัับอารมณ์์
                   ในสมองของมนุษย์์มีสารส่�อประสาทหลัักๆ อย์่� 4 ชนิด ที�มีบทบาทสำาคััญ
                   ในการคัวบคัุมอารมณ์์แลัะคัวามร่�สึกเชิงบวกที�เรีย์กว�า “ฮอร์โมนแห�ง
                   คัวามสุข (Happiness hormone)” หร่อ “โดส (D.O.S.E.)” โดย์สมองจะ
                   สังเคัราะห์สารส่�อประสาทหร่อฮอร์โมนเหลั�านี�ออกมา ทำาให�เราร่�สึก
                   “มีคัวามสุข” อันได�แก� โดพามีน ออกซิิโทซิิน เซิโรโทนิน แลัะเอ็นดอร์ฟิิน

                   ซิึ�งสารแต่�ลัะชนิดจะมีกลัไกการทำางานที�แต่กต่�างกัน (ราชวิทย์าลััย์
                   จุฬาภรณ์์, 2565) (ภาพที� 1)
                      โดพามีีน เป็นสารส่�อประสาทที�สมองสังเคัราะห์ขึ�นเพ่�อส�งสัญญาณ์
                   ไปย์ังเซิลัลั์ประสาทเม่�อเราเกิดคัวามพึงพอใจจากการได�รับสิ�งที�ต่�องการ
                   หร่อบรรลัุเป้าหมาย์ที�ต่ั�งไว� โดพามีนจะเป็นสารที�มีหน�าที�คัวบคัุม
                   พฤต่ิกรรมที�เกิดจากแรงจ่งใจซิึ�งผลัักดันให�เรากระทำาสิ�งใดสิ�งหนึ�งได�
                   สำาเร็จ ผ่�ที�มีโดพามีนในระดับต่ำ�าจึงมักไม�คั�อย์กระต่่อร่อร�น หร่อเป็นคัน   ภาพที� 2   กลัไกการทำางานของทริปโต่เฟิน (L-tryptophan) กับภาวะซิึมเศร�า
                   “เกีย์จคัร�าน” ในขณ์ะที�คัน “ทะเย์อทะย์าน” หร่อผ่�ที�พร�อมจะทำาทุกอย์�าง  Figure 2  The mechanism of L-tryptophan in relation to depression
                   เพ่�อให�งานสำาเร็จ มักจะมีโดพามีนในระดับส่ง นอกจากนี�โดพามีนย์ังมี  ที�มีา / Source :: Javelle et al. (2020)
                   บทบาทที�เกี�ย์วข�องกับการเคัลั่�อนไหวของร�างกาย์ เช�น ผ่�ป่วย์โรคัพาร์กินสัน  เซิโรโทนิน หร่อที�เรีย์กว�า “ฮอร์โมนแห�งคัวามเป็นผ่�นำา” เป็นสารส่�อ
                   ที�มีปัญหาในการคัวบคัุมการเคัลั่�อนไหวเน่�องจากการขาดแคัลันโดพามีน ประสาทชนิดหนึ�งที�ส�วนใหญ�มากกว�าร�อย์ลัะ 90 ถู่กสังเคัราะห์ขึ�นภาย์ใน
                   ในสมอง แลัะการผิดปกต่ิของระดับโดพามีนย์ังส�งผลัต่�อภาวะทางจิต่เวช  ระบบทางเดินอาหาร ผ�านกระบวนการเปลัี�ย์นแปลังจากกรดอะมิโนทริปโต่เฟิน
                   เช�น ผ่�ป่วย์โรคัจิต่เภท (Schizophrenia) ที�มักแสดงอาการหลังผิด  (L-tryptophan) ก�อนถู่กลัำาเลัีย์งผ�านกระแสเลั่อดไปย์ังสมอง เป็นสาร
                   ประสาทหลัอน แลัะการส่�อสารที�ผิดปกต่ิ                ที�เกิดจากคัวามภาคัภ่มิใจ คัวามจงรักภักดี แลัะการรับร่�ถูึงคัวามสำาเร็จหร่อ
                      ออกซิิโทซิิน หร่อที�ร่�จักกันในนาม “ฮอร์โมนแห�งคัวามรัก” เป็น            การย์อมรับจากผ่�อ่�น นอกจากเซิโรโทนินจะมีบทบาทในการคัวบคัุมอารมณ์์
                   สารที�ถู่กสังเคัราะห์ขึ�นระหว�างการสัมผัสร�างกาย์กับผ่�อ่�น แลัะเม่�อเกิด แลั�ว ย์ังมีบทบาทสำาคััญต่�อการทำางานของระบบคัวามทรงจำา รวมไปถูึง

                   คัวามร่�สึกสบาย์ใจ ปลัอดภัย์ แลัะอบอุ�น สารนี�มีบทบาทสำาคััญใน               การซิ�อมแซิมอวัย์วะต่�างๆ ในร�างกาย์อีกด�วย์ หากร�างกาย์มีระดับเซิโรโทนินต่ำ�า
                   การเสริมสร�างคัวามสัมพันธ์์ที�ดีต่�อผ่�อ่�นในสังคัม ช�วย์เพิ�มระบบภ่มิคัุ�มกัน อาจทำาให�ร่�สึกเศร�า หดห่� แลัะขาดคัวามสุขในชีวิต่ ซิึ�งเสี�ย์งต่�อภาวะซิึมเศร�า
                   ทางอารมณ์์ อีกทั�งย์ังมีบทบาทในการต่�อต่�านคัวามเคัรีย์ดที�เกิดจาก ภาวะวิต่กกังวลั โรคัเคัรีย์ด รวมไปถูึงปัญหาในการคัวบคัุมอารมณ์์ เช�น
                   ฮอร์โมนคัอร์ต่ิซิอลั ทำาให�มนุษย์์สามารถูจัดการกับคัวามร่�สึกหวาดกลััว หงุดหงิดง�าย์ โกรธ์ หร่อมีอารมณ์์แปรปรวน เป็นต่�น
                   แลัะสภาวะเคัรีย์ดได�อย์�างมีประสิทธ์ิภาพ นอกจากนี�ออกซิิโทซิินย์ังมีส�วน  เอ็นดอร์ฟิิน หร่อที�เรีย์กกันว�า “สารสำาราญ” เป็นสารที�จะถู่กสังเคัราะห์
                   ช�วย์บรรเทาอาการของโรคัวิต่กกังวลัแลัะพฤต่ิกรรมการรับประทาน ออกมาเม่�อมีคัวามร่�สึกร�าเริง เช�น ภาย์หลัังเสร็จสิ�นการแข�งขัน หร่อชม
                   อาหารที�ผิดปกต่ิได� (Giel et al., 2018)              การแสดงที�ทำาให�หัวใจเต่�นเร็ว ร่�สึกต่่�นเต่�น แลัะในบางคัรั�งสารนี�จะทำาหน�าที�
                                                                        ช�วย์ในการสกัดกั�นคัวามร่�สึกเจ็บปวด ทำาให�เราร่�สึกผ�อนคัลัาย์ เช�น การอาบนำ�า
                                                                        เย์็นในต่อนเช�าที�สามารถูเพิ�มระดับเอ็นดอร์ฟิินได�ส่ง หร่อการหัวเราะ
                                                                        จนท�องแข็ง เน่�องจากการเกร็งของกลั�ามเน่�อหน�าท�องขณ์ะหัวเราะจะทำาให�
                                                                        ปวดกลั�ามเน่�อ จนสมองสังเคัราะห์สารเอ็นดอร์ฟิินออกมาให�ร่�สึกดี

                                                                        บทบาทของสัารอาหารต่่อกัารเสัริมสัร้างสัุขภาวะทางจิิต่
                                                                        ในย์ุคัปัจจุบันที�มีทั�งปัญหาเศรษฐกิจแลัะปัญหาทางสังคัม จนทำาให�ผ่�คัน
                                                                        มีปัญหาด�านคัวามเคัรีย์ดเพิ�มขึ�นจนส�งผลักระทบต่�อสุขภาพ แลัะเกิด
                                                                        คัวามไม�สมดุลัของสารส่�อประสาทในสมองซิึ�งเป็นสาเหตุ่ที�ทำาให�ระบบต่�างๆ
                                                                        ในร�างกาย์ทำางานผิดปกต่ิ เช�น อาการปวดเกร็งของกลั�ามเน่�อ ท�องอ่ด
                                                                        ปวดท�อง คัลั่�นไส� แลัะอาเจีย์น รวมไปถูึงพฤต่ิกรรมการนอนหลัับไม�สนิท
                    ภาพที� 1   บทบาทของสารส่�อประสาทกับอารมณ์์เชิงบวก   ซิึ�งเป็นปัญหาที�ส�งผลัเสีย์ต่�อการดำาเนินชีวิต่ ดังนั�น การบริโภคัอาหารที�มี
                            (Happiness hormones)
                    Figure 1 The role of neurotransmitters in positive emotions   สารสำาคััญที�ออกฤทธ์ิ�ต่�อการเสริมสร�างสุขภาวะทางสมองแลัะอารมณ์์จึง
                            (Happiness hormones)                        มีคัวามจำาเป็นอย์�างย์ิ�ง (Balchem   Corporation, 2023) ในปัจจุบันมี
                    ที�มีา / Source : https://www.manuscriptedit.com/scholar-hangout/serotonin-dopamine-
                    endorphins-and-oxytocin-are-vital-neurotransmitters-governing-our-well-being  หลัากหลัาย์งานวิจัย์ที�ศึกษาเกี�ย์วกับสารอาหารที�มีบทบาทสำาคััญต่�อ

                                                                                               AUG  2025  FOOD FOCUS THAILAND  51


                                                                                                                     24/7/2568 BE   14:08
         50-53_Strategic R&D_��.indd   51                                                                            24/7/2568 BE   14:08
         50-53_Strategic R&D_��.indd   51
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56