Welcome to Fi Asia 2018- the biggest gathering of F&B ingredients suppliers in the ASEAN market! 3-5 October 2018 at the Jakarta International Expo (JI EXPO), Indonesia

Fi Asia 2018 เวทีที่รวบรวมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน!

By: Editorial Team

Full Article TH-EN

Fi Asia ครั้งที่ 23 งานที่จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงอุตสาหกรรมส่วนผสมอาหารของอาเซียนได้อย่างครบครัน โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจากอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มกว่า 20,000 ราย และมีผู้จัดแสดงจากทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และทั่วโลกจากทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมกว่า 750 ราย จากกว่า 50 ประเทศเข้าร่วม

ลองมาดูไฮไลต์ของการจัดแสดงในครั้งนี้ที่จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้และก้าวสู่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมส่วนผสมของอาหารและเครื่องดื่ม:

Beverage Ingredients (Bi) Theatre มาร่วมรับแรงบันดาลใจจากการชมพรีเซนเทชั่นจากผู้จัดแสดงสินค้าชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่ม โดยภายในงานจะมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มกว่า 20 รายการ ที่จะมานำเสนอภายใต้คอนเซปต์เครื่องดื่มสำเร็จรูปและเครื่องดื่มพร้อมดื่ม

สัมมนาเชิงเทคนิค มีสิ่งใหม่ ๆ ให้เรียนรู้อยู่เสมอ ในงานนี้จะมีโปรแกรมการสัมมนาที่คับคั่งไปด้วยข้อมูลจากผู้จัดแสดงที่หลากหลายที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ร่วมงาน นอกจากนี้ผู้ร่วมงานยังมีโอกาสที่จะสอบถามค้นหาคำตอบและค้นพบส่วนผสมใหม่ ๆ ที่คุณสามารถใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของคุณ
การประชุม งานนี้ยังได้มีการประชุมเชิงวิชาการที่ได้รวมรวมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่จะมาร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกในแวดวงอาหารและเทคโนโลยี

ทัวร์นวัตกรรม ร่วมเดินทางไปกับผู้เชี่ยวชาญจาก NutriMarketing ในหนึ่งชั่วโมงที่จะแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมล้ำสมัย พร้อมค้นหาคำตอบว่าบริษัทชั้นนำตอบสนองต่อนวัตกรรมในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มอย่างไร

Fi Asia 2018 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ณ Jakarta International Expo (JI EXPO) ประเทศอินโดนีเซีย ผู้เข้าชมงาน 1,000 คนแรกที่ลงทะเบียนออนไลน์และเช็คอินออนไลน์จะได้รับของที่ระลึกสุดพิเศษจากงาน Fi Asia 2018! โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ www.fiasia.com คุณจะได้รับบัตรเข้างานฟรีตลอดสามวัน พร้อมทั้งของสมมนาคุณ แคตตาล็อกงานแสดง ที่คุณจะเข้าถึงงานได้อย่างทั่วถึงทุกซอกทุกมุม

The 23rd edition of Fi Asia will provide full access to the ASEAN food ingredients industry, with an expected more than 20,000 food and beverage industry professionals attendees and more than 750 leading local, regional and international exhibitors, from all sectors of the food and beverage ingredients industry, from over 50 countries.
Check out these internationally renowned highlights to help you stay at the forefront of the F&B ingredients market:

Beverage ingredients (Bi) Theatre Be inspired by listening to presentations from leading exhibitors and beverage experts; over 20 products will be showcased with various types of finished beverages and ready-to-drink concepts.

Technical seminars There is always something new to learn at the thought-provoking and informative exhibitor seminar programme. Ask questions, get answers, and discover new ingredients you can use in your product development.

Conferences Featuring keynote speakers international conferences will provide insight into food science and technology

Innovation tours Join expert guides from NutriMarketing on one-hour topic-focused tour of the show floor. Discover how leading companies are responding to innovations in the F&B industry.
Fi Asia 2018 will take place from 3-5 October 2018 at the Jakarta International Expo (JI EXPO), Indonesia. The first 1,000 visitors to pre-register online and check in onsite will receive a limited Fi Asia 2018 giveaway! Register now at www.fiasia.com and you will receive your free three-day entrance pass, a free giveaway, a free show catalogue and free entrance to all onsite features.

Export Trend for Thai Products to Global Markets

แนวโน้มส่งออกสินค้าไทยในตลาดต่างประเทศ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
Department of International Trade Promotion, Ministry of Commerce

Full article TH-EN

รสนิยมตี๋หมวยชอบขนมขบเคี้ยวรสทุเรียน
การสำรวจตลาดขนมที่ครองใจผู้บริโภคชาวจีนในปัจจุบัน พบว่า ขนมรสชาติใหม่ๆ ที่ครองใจผู้บริโภคชาวจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีทีผ่านมา 3 อันดับแรก ได้แก่ รถชีส รสช็อกโกแลต และรสทุเรียน โดยเฉพาะขนมรสชีสได้รับความนิยมและมียอดจำหน่ายออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

เจาะตลาดกลุ่มรักสุขภาพในออสเตรเลีย สายเปย์เน้นสินค้าดีมีคุณภาพ
กลุ่มผู้บริโภค Millennial และกลุ่ม Generation Z ที่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี ซึ่งมีประมาณ 4.2 ล้านคน ของจำนวนประชากรออสเตรเลียทั้งหมด เป็นกลุ่มที่มีสื่อดิจิทัลเป็นกลไกขับเคลื่อนและมีอิทธิพลต่อแนวโน้มการบริโภคสินค้าและบริการมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าว เป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการมากกว่ากลุ่มอื่น และต้องการความสะดวกสบาย แต่ไม่ต้องการสินค้าแช่แข็งหรืออาหารสำเร็จรูป

สินค้า Private Label ฮอตฮิตในดินแดนกังหันลม
ตลาดสินค้า Private Label ในยุโรปมีสัดส่วนการตลาดเฉลี่ยร้อยละ 31.5 จากยอดขายทั้งหมดของธุรกิจค้าปลีก โดยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร สินค้า Private Label มีส่วนแบ่งการตลาดสูงกว่าร้อยละ 40 และมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งภูมิภาคยุโรป

เครื่องดื่มเสริมพลังงาน สินค้ากลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ ฮิตฮอตในเวียดนาม
สินค้ากลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องดื่มให้พลังงาน และผลิตภัณฑ์ดูแลสตรีมาแรงในตลาดเวียดนาม โดยมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และยังเติบโตสูงถึงร้อยละ 5.9 มากที่สุดในเอเชีย ซึ่งเป็นไปตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ชาวเวียดนามมีการจับจ่ายใช้สอยสินค้าในกลุ่มนี้กันเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ

ชาวสิงคโปร์ฮิตหนักขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ
การบริโภคขนมขบเคี้ยวที่ผลิตโดยใช้รูปแบบเดิม เช่น การใช้เกลือ น้ำตาล และไขมันเป็นส่วนผสม เริ่มได้รับความนิยมลดลง เพราะกลุ่มผู้บริโภคได้หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้น จึงลดการบริโภคสินค้าในกลุ่มนี้ลง แต่หากเป็นขนมขบเคี้ยวที่ดีต่อสุขภาพ และได้รับเครื่องหมาย Healthier Choice หรือ Healthier Snack จะเริ่มได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น

Chinese Consumers Favor Durian Flavor Confectionery
A survey to the Chinese confectionery market in present found that the top three new flavors desserts that have been favored by Chinese consumers during the past three years are included cheese, chocolate, and durian flavors, especially cheese flavor, which have gained popularity and have more sales online.

Penetrate Health Conscious Consumers in Australia – High Consumer Buying Power and Strong Demand for Good Quality Products
Millennial consumers and Generation Z with aged between 18-35 years, which have about 4.2 million people from the total Australian population, is the group that is driven by digital media. These groups of people have highest influence on consumption trend on goods and products at present time due to they spend more than other group of people, while need confortable but do not want frozen or ready-to-eat food.

Private Label Product is Popular in the Netherlands
A survey by Nielsen found that Private Label market in Europe has an average market share of 31.5 percent from a total retail sale. In Switzerland, Germany, and the United Kingdom, Private Label products has a market share over 40 percent, while the figure has increased continuously in the Europe continent.

Energy Drinks Rank Top Hit Healthy Food in Vietnam
When looking at export opportunities for consumer goods into the Vietnamese market, it is found that healthy food products, energy drinks, and women’s care products are highly in demand in the country.

Singaporean Craves for Healthy Snacks
The analysis of trend and market opportunity for Thai snacks in Singapore found that traditional snacks which use salt, sugar, and fat as the main ingredients are declining due to that consumers are becoming more concerned with their health. However, when it comes to healthy snacks – with “healthier choice” or “healthier snack” labels – the popularity seems to be picking up.

Healthy Food Market in Japan and Opportunity

 

ตลาดอาหารเพื่อสุขภาพญี่ปุ่น…กับโอกาสของผู้ประกอบการไทย

By: National Food Institute, Ministry of Industry

Full Article TH-EN

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ และมีสังคมการทำงานที่มีความเครียดสูง ส่งผลให้ประชากรชาวญี่ปุ่นจำนวนมากประสบปัญหาด้านสุขภาพ ทั้งโรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคคอเลสเตอรอลสูง โรคระบบไหลเวียนโลหิตผิดปกติ และโรคความจำเสื่อม ดังนั้น ชาวญี่ปุ่นทั้งผู้สูงอายและผู้ที่อยู่ในวัยทำงานต่างหันมาใส่ใจในสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของตนเองและคนในครอบครัวมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นยุคใหม่ยังมีความรู้ในการเลือกซื้อสินค้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น และพร้อมที่จะจ่ายเงินเพิ่มในการซื้อสินค้าดังกล่าว จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะขยายโอกาสทางการค้าและส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพของไทยไปสู่ตลาดญี่ปุ่น

สถานการณ์ตลาดอาหารเพื่อสุขภาพญี่ปุ่น
ตลาดอาหารเพื่อสุขภาพในญี่ปุ่นมีทิศทางการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 พบว่า มีมูลค่าการจำหน่ายภายในประเทศรวม 5,450.2 พันล้านเยน หรือมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 1.2 ต่อปี ตลอดช่วงที่วิเคราะห์ (ปี 2556-2560) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชาวญี่ปุ่นมีความต้องการยกระดับสภาพการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าอาหารเพื่อสุขภาพทุกประเภทผลิตภัณฑ์ในตลาดญี่ปุ่นมีความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นทุกปี ยกเว้นเครื่องดื่มประเภท Better for You ที่มีการลดปริมาณสารที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย เช่น น้ำตาล คาเฟอีน เป็นต้น ซึ่งพบว่าเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดญี่ปุ่นลดลง โดยสินค้าอาหารประเภท Free From ที่มีการสกัดสารก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น กลูเตน แลคโตส ออกไป ซึ่งแม้จะมีมูลค่าตลาดไม่มากนัก เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น แต่กลับได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 6.6 ต่อปี ตลอดช่วงที่วิเคราะห์

 

Japan has fully entered the ageing society and is notoriously known as a country with stressful work environment, which resulted in many Japanese suffering from health issues ranging from obesity, hypertension, high cholesterol, circulatory system disease, and memory disorders. Thus, many Japanese, including the elderlies and working generation, are becoming more concerned about the health and well-being of themselves and their families. Not only that, the younger generation are also equipped with better knowledge in choosing for healthy products and are willing to pay more for them. This is a great opportunity for Thai enterprises to expand its trade opportunities and export Thai healthy products to the Japanese market.

Climate of Healthy Food Market in Japan

Healthy food market in Japan is expanding continuously. In 2017, domestic sales reached 5,450.2 billion yen, expanding averagely at 1.2% year-on-year between 2013-2017. This is partly because Japan’s population feel the need to improve living conditions and consume more healthy food products, as seen from the gradually increasing demands for the food every year. However, the trend doesn’t cover “better-for-you” beverages that contain harmful ingredients such as sugar and caffeine, which witnessed decreasing demands. Free-from foods – which discard allergens such as gluten and lactose – may not see significant market share comparing to other products, but it has witnessed a great expansion recently at a rate of 6.6% per year during the period of analysis.

Trendsetter…Filling of Juice with An Aseptic Filler and Block

การผลิตน้ำผลไม้ 100% แบบปลอดเชื้อในขวด PET…วิสัยทัศน์สู่อนาคต

By: โครเนส เอจี
Krones AG

Full Article TH-EN

กระบวนการบรรจุน้ำผลไม้สดจากผลในขวด PET แบบปลอดเชื้อ ไอเดียสู่อนาคตที่ยั่งยืนของ Natural One ผู้ผลิตน้ำผลไม้ชื่อดังเมืองแซมบ้า

Ricardo Ermirio de Moraes ชายผู้มีวิสัยทัศน์ที่สามารถนำเอาประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปีจากอุตสาหกรรมน้ำส้มมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยเขายังเป็นผู้ก่อตั้ง Citrovita และดำรงตำแหน่งประธานของ Citrosuco มาอย่างยาวนาน โดยเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เขาตั้งบริษัท Natural One ที่มีจุดเริ่มต้นจากเครื่องดื่มวอดก้าผสมน้ำผลไม้พร้อมดื่มบรรจุขวด PET ก่อนจะตัดสินใจเปิดตัวน้ำผลไม้ในปี 2555 ภายใต้แบรนด์ Natural One โดยมีปรัชญาและสโลแกนในการทำแบรนด์ว่า “pura verdade” ซึ่งแปลว่า “ความจริงที่บริสุทธิ์” หมายถึงน้ำผลไม้ของเขานั้น จะไม่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้เข้มข้น ไม่มีน้ำตาล และสารกันเสีย เป็นน้ำผลไม้ 100% และเป็นบริษัทแรกที่ไม่ได้บรรจุผลิตภัณฑ์ในกล่องแต่ใช้ขวด PET

ด้วยเหตุนี้ Ricardo Ermirio de Moraes จึงปลูกส้มกว่า 5 ล้านต้น บนพื้นที่กว่า 2,800 ตารางกิโลเมตร บนพื้นที่ทางตอนใต้ของนครเซาเปาโล (ซึ่งมีอากาศเย็นกว่า) โดยในสายตาผู้ที่เฝ้าจับตามองตลาด การตัดสินใจครั้งนี้ถือว่าน่าฉงนอยู่ไม่น้อย เนื่องจากทางใต้เป็นพื้นที่ที่มีแดดน้อยกว่า ซึ่งจะทำให้ผลไม้ที่สุกแล้วมีความหวานน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผลไม้ที่ปลูกทางตอนเหนือและได้รับแสงแดดมากกว่า แต่ทว่า ผลไม้ที่ปลูกที่นี่กลับได้รับคำชมเป็นอย่างมากในแง่ของความหวานที่น้อยกว่าและสีสันที่สดใสเด่นชัด “เมื่อมาถึงจุดนี้ การตัดสินใจนี้ถือเป็นเรื่องปกติในแง่ของการลงทุนและการส่งออก โดย Ricardo Ermirio de Moraes ยังเป็นคนแรกในบราซิลที่ส่งออกน้ำผลไม้สด การตัดสินใจครั้งนี้ก็ถูกมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระในตอนแรกเช่นกัน แต่ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นการตัดสินใจที่มีวิสัยทัศน์และถูกต้อง” Valdenir Soares จากฝ่ายพัฒนาธุรกิจใหม่ ของ Natural One ระบุ

 

Bottling Not from concentrate (NFC) juice aseptically in PET containers – with this idea the Brazilian fruit juice producer Natural One conquered the market within two short years.

Ricardo Ermirio de Moraes is a visionary. He can draw upon many years of experience in the orange juice business, was the founding father of Citrovita, and subsequently the long-serving President of Citrosuco. About ten years ago, he set up Natural One, and to begin with bottled ready-mixed vodka-based fruit juice mixtures in PET containers. In 2012, he then decided to launch fruit juices on the market himself under the Natural One brand. His philosophy and slogan are: “pura verdade”, which translates as “pure truth”. Meaning no concentrate or squash, no added sugar, no preservatives, but 100 per cent juice – and it was the first company Brazil not to do it in carton packages, but in PET bottles.

For this purpose, Ricardo Ermirio de Moraes had five million new orange trees planted on a farm measuring 2,800 square kilometres. This “fazenda” is located in the (cooler) south of São Paulo state. For many market observers, this was at first incomprehensible, because down there the sun shines less often and the fruits are correspondingly less sweet when they ripen than in the warmer north. But: the juice obtained from these oranges scores highly in terms of precisely this lesser sweetness and its vibrant, intensive colour. “Hitherto, it had been normal, for reasons of cost, to export concentrates. Ricardo Ermirio de Moraes was also the first to export NFC juices from Brazil. This decision, too, was at first ridiculed, but has proved to be visionary and right,” explains Valdenir Soares, who at Natural One is responsible for the New Business Development Department and had been tasked with internationalising the company.

Plant-type Flavours. Go Healthy the Flavourful Way!

สารให้กลิ่นรสจากพืชธรรมชาติ…ก้าวสู่สุขภาพที่ดีในแบบเต็มรสชาติ

By: Derrick Heng
New Product Development Manager
KH Roberts Pte. Ltd.
derrick.heng@kh-roberts.com

Full article TH-EN

เนื่องจากสารผสมอาหารจากพืช เช่น ผักต่างๆ และถั่วเหลืองนั้นมีให้เห็นอยู่มากมาย นวัตกรรมการประยุกต์ใช้สารผสมอาหารเหล่านี้สำหรับอาหารยุคใหม่นั้นก็ได้มีการพัฒนาไปจากช่วงที่ผ่านมามากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือชิปส์และเนื้อเทียม โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มมันฝรั่งทอดนั้นมีการแข่งขันกันมากขึ้นในรูปแบบเพื่อสุขภาพ เช่น บลอกโคลีอบกรอบ และชิปส์บีทรูท ส่วนทางด้านถั่วเหลืองและผักทางเลือกอื่นๆ ก็ได้มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายเช่นกันในกลุ่มผลิตภัณฑ์เนื้อเทียมมังสวิรัติซึ่งจะทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่ดีขึ้นเหมือนกับเนื้อสัตว์จริง

จะเห็นได้ว่าอาหารจากพืชธรรมชาตินั้นสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม โดยผู้บริโภคกลุ่มที่เพิ่งเริ่มต้นรับประทานอาหารและเครื่องดื่มจากพืชธรรมชาติจะยอมรับได้มากขึ้นในผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้สารปรุงแต่งกลิ่นรสคลาสสิกที่ไม่มากเกินไปเพื่อกลบกลิ่นรสบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น นมถั่วเหลืองกลิ่นรสวนิลาหรือช็อกโกแลตซึ่งมีการใช้สารปรุงแต่งกลิ่นรสเพื่อกลบกลิ่นเหม็นเขียวของถั่ว ในขณะที่ผู้บริโภคที่ยอมรับอาหารจากพืชธรรมชาติอยู่แล้วก็จะยอมรับได้ในกลิ่นรสของถั่ว กลิ่นคล้ายกลิ่นดิน และกลิ่นผัก ซึ่งทำให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มประสบความสำเร็จอย่างมากในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต่างๆ โดยแทนที่จะปกปิดกลิ่นรสจากพืชเหล่านี้ก็เป็นนำกลิ่นรสเหล่านี้มาเน้นและสร้างให้เป็นจุดขายของผลิตภัณฑ์นั้นแทน

สำหรับกลุ่มพืชหัว เช่น มันม่วง และมันเทศ หรือพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วแดง ถั่วเขียว มีโพรไฟล์ของกลิ่นรสที่น่าสนใจไม่แพ้กัน และยังให้สีสันที่สวยงามซึ่งผู้ผลิตอาหารสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยส่วนผสมอาหารเหล่านี้นำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับสารให้กลิ่นรสจากพืชธรรมชาติสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารได้อย่างลงตัว เช่น เค้ก ไอศกรีม นมปรุงแต่งกลิ่นรส รวมถึงเครื่องดื่มประเภทพร้อมดื่ม และเครื่องดื่มผงสำเร็จรูป

While plant-based ingredients such as vegetables and soy have always been around, innovations of their new applications into contemporary foods have gained pace in recent years. Notable examples are chips and mock meats. Fried potato chips are now seeing rising competition from healthier versions such as baked broccoli and beetroot chips. While soy and alternative vegetables are now highly used in vegetarian mock meats with enhanced texture that mimicks real meat.

This opens up new opportunities for food and beverage manufacturers. Consumers who are new to plant-based foods and beverages will be more receptive towards products using classic flavours for masking notes that they might not be used too. An example would be a vanilla or chocolate flavoured soy milk, which masks off the beany note. Consumers who embrace plant-based foods will be more receptive to flavours with nutty, earthy and vegetal notes, which allows food and beverage manufacturers to come up with more innovative products. Instead of masking off these plant-type flavours, they are instead highlighted and made the unique selling point of these products.

Tubers such as purple yam and orange sweet potato, or legumes such as red and green bean, have appealing flavour profiles, together with their vibrant colours which food manufacturers can leverage on to. These ingredients coupled with the use of plant-type flavours are successful in applications such as cakes, ice-cream, flavoured milk, and beverages such as ready-to-drink and instant beverages.

New Technology offers Faster and Cheaper Food Testing

อีกระดับของเทคโนโลยีเพื่อการทดสอบความปลอดภัยอาหารที่น่าจับตามอง

By: Anne Trafton
MIT News Office

Translated and Compiled by:
กองบรรณาธิการ
นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยลนด์
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine
editor@foodfocusthailand.com

Full article TH-EN

สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ได้เปิดเผยถึงวิธีการทดสอบแบบใหม่เมื่อกลางปีที่ผ่านมา อาศัยหลักการตรวจหาเชื้อจุลินทรีย์เป้าหมายจากหยดของเหลวชนิดพิเศษที่พัฒนาเพื่อให้สามารถยึดจับกับโปรตีนของเซลล์แบคทีเรียได้ โดยการยึดจับกันนี้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหรือผ่านทางสมาร์ทโฟน ซึ่งจะเป็นวิธีการทดสอบความปลอดภัยอาหารทางเลือกหนึ่งที่รวดเร็วและถูกลงกว่าเดิม

การตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย
เมื่อสองปีที่ผ่านมา ห้องปฏิบัติการกลุ่มงานวิจัยโดย Swager ได้คิดค้นวิธีการสร้างหยดของเหลวที่มีลักษณะพิเศษทางอิมัลชัน หรือที่เรียกว่า Janus emulsions โดยหยดของเหลวดังกล่าวประกอบขึ้นด้วยสองส่วนคือฟลูออโรคาร์บอนและไฮโดรคาร์บอนอย่างละเท่าๆ กัน ฟลูออโรคาร์บอนมีความหนาแน่นมากกว่าไฮโดรคาร์บอน ดังนั้น เมื่อหยดของเหลววางบนพื้นผิวจะเห็นครึ่งหนึ่งที่เป็นด้านฟลูออโรคาร์บอนอยู่ด้านล่าง

เมื่อใช้หยดของเหลวมาเป็นเซ็นเซอร์ นักวิจัยได้ออกแบบโครงสร้างสารลดแรงตึงผิวซึ่งมีน้ำตาลแมนโนสเป็นส่วนประกอบทำให้เกิดการจัดเรียงโมเลกุลขึ้นเองที่พื้นผิวหรือระหว่างพื้นผิวของน้ำกับไฮโดรคาร์บอน โดยการจัดเรียงตัวขึ้นเองนี้จะเกิดขึ้นที่ด้านครึ่งบนของหยดของเหลว โครงสร้างของโมเลกุลที่เกิดขึ้นนี้สามารถไปจับเลคตินโปรตีนซึ่งพบบริเวณผิวชั้นนอกของเชื้อจุลินทรีย์ E. coli บางสายพันธุ์ ในการทดสอบเมื่อมีเชื้อ E. coli ปรากฏขึ้น หยดของเหลวเหล่านี้จะเข้าไปจับกับเลคตินโปรตีนและเกิดการเกาะกลุ่มกันทำให้เห็นโครงสร้างของโมเลกุลเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เมื่อแสงส่องผ่านมาที่หยดของเหลวจึงเกิดการกระเจิงแสงในทุกทิศทุกทาง และเมื่อมองจากด้านบนจะเห็นหยดของเหลวมีลักษณะทึบแสงเกิดขึ้น

เพื่อแสดงให้เห็นว่าหยดของเหลวดังกล่าวสามารถใช้เป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับได้อย่างไร นักวิจัยจึงได้นำหยดของเหลวใส่ลงในจานเลี้ยงเชื้อแล้วสร้าง QR code ทับด้านบนเพื่อใช้สแกนตรวจสอบผลผ่านทางสมาร์ทโฟน เมื่อพบว่ามีเชื้อ E. coli หยดของเหลวก็จะเคลื่อนเข้ามากระจุกอยู่ด้วยกันและทำให้ไม่สามารถอ่าน QR code ได้

MIT News Office explains that the new test is based on new type of liquid droplet that can bind to bacterial proteins. The interaction can be detected by the naked eye or a smartphone; offering a much faster and cheaper alternative to existing food safety tests.

Detecting bacteria
Two years ago, Swager’s lab developed a way to easily make complex droplets including droplets called Janus emulsions. These Janus droplets consist of two equally sized hemispheres, one made of a fluorocarbon and one made of a hydrocarbon. Fluorocarbon is denser than hydrocarbon, so when the droplets sit on a surface, the fluorocarbon half is always at the bottom.

To turn the droplets into sensors, the researchers designed a surfactant molecule containing mannose sugar to self-assemble at the hydrocarbon–water interface, which makes up the top half of the droplet surface. These molecules can bind to a protein called lectin, which is found on the surface of some strains of E. coli. When E. coli is present, the droplets attach to the proteins and become clumped together. This knocks the particles off balance, so that light hitting them scatters in many directions, and the droplets become opaque when viewed from above.

To demonstrate how these droplets could be used for sensing, the researchers placed them into a Petri dish atop a QR code that can be scanned with a smartphone. When E. coli are present, the droplets clump together and the QR code can’t be read.

Trans Fat…time to be Transformed

ไขมันทรานส์…ถึงเวลาต้องทรานสฟอร์ม?

Compiled By: Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine
editor@foodfocusthailand.com

Full article TH-EN

ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ของวงการอุตสาหกรรมอาหารในชั่วโมงนี้ ต้องผายมือให้กับประเด็นร้อน “กรดไขมันทรานส์” ที่สร้างกระแสตื่นตัวให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งวงการ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ สู่ปลายน้ำ การนำเสนอข้อมูลของไขมันทรานส์ในรูปแบบต่างๆ ผ่านช่องทางโซเชียลยังรวดเร็วติดสปีด…หากแต่ข้อมูลที่เราได้รับรู้นั้นจะจริงหรือไม่…จริงหรือเปล่า?…#ต้องถามผู้เชี่ยวชาญ

“ข้อมูลที่มีการรายงานหรือกล่าวถึงไขมันทรานส์ มีทั้งใช่ และไม่ใช่” ศาสตราจารย์ ดร.วิสิฐ จะวะสิต อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะหัวหน้าวิจัยโครงการ “ประเทศไทยปลอดไขมันทรานส์” กล่าวเริ่มต้นกับ ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์

“ความคลาดเคลื่อนเกิดได้จาก 2 สาเหตุ คือ หนึ่ง…ความไม่เข้าใจสถานการณ์เฉพาะของประเทศไทยที่แตกต่างจากซีกโลกตะวันตก รวมถึงบางประเทศในเอเชียที่พึ่งพิงแหล่งไขมันที่มีความไม่อิ่มตัวสูงเป็นหลัก และ สอง…การใช้วิธีวิเคราะห์หาไขมันทรานส์ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ได้ผลการวิเคราะห์สูงกว่าความเป็นจริงมาก ซึ่งสร้างความตระหนกให้กับทั้งผู้วิเคราะห์และผู้ที่ได้เห็นข้อมูล”

“ปัญหากรดไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ของตลาดบ้านเรามีผลกระทบน้อยมาก เพราะ (1) เบเกอรี่ไฮโซไม่กระจายไปในวงกว้าง (2) บ้านเรามีไขมันอิ่มตัวธรรมชาติ เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว จึงไม่ต้องผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน และ (3) เบเกอรี่ไม่ใช่อาหารหลักในชีวิตประจำวันของคนไทย”

“คนไทยไม่มีปัญหาเรื่องกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs จากกรดไขมันทรานส์ แต่ปัญหา NCDs ของเรามาจากไขมันอิ่มตัวมากกว่า” ศาสตราจารย์ ดร.วิสิฐ กล่าว

ในขณะที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก กำลังตระหนักถึงอันตรายของไขมันทรานส์ และพยายามจำกัดไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์อาหาร ประเทศไทยกลับเป็นประเทศที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะมีความพร้อมทั้งวัตถุดิบ และความพร้อมของภาคเอกชน ซึ่งได้พยายามวิจัยและพัฒนาสูตรเพื่อยกเลิกการใช้น้ำมันและไขมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนที่เป็นแหล่งสำคัญของไขมันทรานส์มา 5-6 ปีแล้ว

For food industry, no issue is stronger, at this moment, than Trans Fatty Acids or TFA. Becoming the hottest Talk of The Town, trans fat has shaken the whole food value chain —from upstream to midstream and downstream. Any information about trans fat can unbelievably swarm every channel of social media and news, but all those facts, are they real? Are they accurate? Are they believable? Let’s ask the expert.

“Not all the overwhelming information about trans fat is all true,” Prof. Dr.Visith Chavasit, Lecturer at the Institute of Nutrition, Mahidol University and head of “Thailand: Trans Fat Free Country” research project, began for Food Focus Thailand.

“There were 2 main reasons that had caused the confused information, which were:

1. A failure to differentiate the unique consumption pattern in Thailand from that in other western countries, as well as some countries in Asia, which still rely very much on polyunsaturated fat.

2. Use of wrong analytical method for a trans fat that consequently resulted in false-positive data that alarmed both the analyzers and the data users.”

“The problem on trans fatty acid in bakery products has very small impact in Thailand due to 3 main factors:
(1) Classy bakeries are favored in only small circles,
(2) Alternative natural saturated vegetable oils for PHOs are available such as palm oil and coconut oil,
(3) Bakery products are not the main diet in the Thai’s daily lives.

“In Thailand, Non-communicable Diseases or NCDs problems are not caused by trans fatty acids but from saturated fatty acids or SFA,” said Prof. Dr.Visith.

While danger of trans fat is such a big and alarming issue around the world, and most countries are trying to bring down trans fat content in food products, Thailand, as it turned out, is the country that can solve this problem most effectively. This is because we have alternative raw material readily available, and the readiness of private sectors who for the pass 5-6 years have been researching and developing formulas away from the use of PHOs which is the main source of trans fat.

ร่วมแสดงความคิดเห็น U Share V Care เดือน กันยายน 2561

ร่วมแสดงความคิดเห็น U Share V Care เดือน กันยายน 2561 ลุ้นรับGift Voucher Central worth THB500
(Only 2 Lucky Winners)

ลุ้นรางวัลกับเราได้ตามลิงก์ด้านล่างเลย อย่าลืมกรอกให้ครบ..นะคะ

https://goo.gl/forms/R6cE8aPNlDfamCo73