Safe Seeds for Healthy Sprouts

Vegetable sprouts are extremely healthy and contain lots of power, because they are full of concentrated vitamins and minerals.

Yet sprouts can also be dangerous to the consumer if the seeds are contaminated. That is why the brand SunGarden® Seed has developed what it calls the world’s safest seed output.

With its specially developed and validated process, SunGarden® Seed can deliver a bacterial reduction factor of Log6, while current industry standards can only achieve a reduction of Log3.

This innovation thus not only drastically eliminates pathogens, but also uses an organic and non-thermal process that does not impair germination and the seeds’ nutritional values.

——————————————————————————————————————–

Source: https://www.fruitlogistica.de/en/TradeVisitors/Spotlight/

ขึ้นทะเบียนสินค้า GI อีก 2 รายการ “มะพร้าวทับสะแก” และ “ข้าวไร่ดอกข่าพังงา”

กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) อีก 2 รายการ คือ “มะพร้าวทับสะแก” และ “ข้าวไร่ดอกข่าพังงา”

โดยมะพร้าวทับสะแกถือเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และข้าวไร่ดอกข่าพังงา ของจังหวัดพังงา ทำให้ปัจจุบันประเทศไทยมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI แล้ว 118 รายการ จาก 75 จังหวัด และขณะนี้ยังมีสินค้าอีก 3 รายการที่อยู่ระหว่างพิจารณาคำขอ ได้แก่ ข้าวหอมปทุมธานี กล้วยหอมทองปทุม จังหวัดปทุมธานี และกลองเอกราช จังหวัดอ่างทอง

เมื่อพิจารณาถึงลักษณะความเป็นเอกลักษณ์สำหรับสินค้า GI 2 รายการล่าสุดที่ได้รับการขึ้นทะเบียน พบว่ามะพร้าวทับสะแกมีลักษณะเอกลักษณ์คือมีผลขนาดใหญ่ เปลือกหนา เนื้อมะพร้าวสีขาวหนา 2 ชั้น ให้เปอร์เซ็นน้ำมันสูง รสชาติ (กะทิ) หอมและมัน ส่วนข้าวไร่ดอกข่าพังงาเป็นข้าวไร่พันธุ์พื้นเมืองที่มีสีน้ำตาลแดงอมม่วง สีแดง หรือสีแดงแกมขาว เมล็ดเรียวยาว เมื่อหุงสุกจะมีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย หุงขึ้นหม้อ ไม่แข็ง รสชาติอร่อย

ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ดำเนินการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้า GI ทั้ง 2 รายการเพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายภายในประเทศ และเพื่อสร้างโอกาสจำหน่ายให้กับสินค้า ตลอดจนเพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสบริโภคสินค้าท้องถิ่นซึ่งมีคุณภาพ เป็นของดี ของแท้ ของหายาก และเพิ่มโอกาสจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการเพิ่มการจดทะเบียนคุ้มครอง GI โดยมีตลาดเป้าหมายอย่างจีน สหภาพยุโรป (อียู) และอินเดีย

Food Allergen Workshop by the Romer Labs APAC Solutions Centre

A Workshop by the Romer Labs APAC Solutions Centre, the exclusive event for customers was held in Bangkok with the topic “Allergen free? The role of testing in your food allergen management program”.

At this workshop, customers could learn about allergen risk assessment in the production workflow and some practical ways to carry out analysis in their food allergen management plan. The workshop also provides a unique knowledge-sharing platform for food manufacturers to exchange knowledge and experience in food allergen management with professional speakers from Romer Labs.

The seminar session featured on global regulations providing insightful food allergen situation in global, covering a prevalence, regulation issues, trends of food allergen, labeling as well as introducing a special promotion on allergen analytical service from Romer Labs APAC Solutions Centre to food manufactures in Thailand. Moreover, allergen management, allergen analysis and risk review scenario as well as product recall case study were also discussed with highly interested from more than 40 attendees together with speakers coming from abroad.

เครือเบทาโกรเดินหน้าเติมเต็มอุตสาหกรรมอาหาร เปิดโรงงานแปรรูปไก่มหาสารคาม มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพความปลอดภัย

เบทาโกรขยายตลาดสู่ภูมิภาคสำคัญในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  เปิดโรงงานแปรรูปไก่แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในจังหวัดมหาสารคาม  เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร

เครือเบทาโกร จัดพิธีเปิดโรงงานแปรรูปไก่มหาสารคาม บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด  อย่างเป็นทางการ ณ ตำบลนาโพธิ์  อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม โดยมี นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเครือเบทาโกร นำโดย นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  และแขกผู้มีเกียรติ   ตลอดจนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นในจังหวัดมหาสารคาม เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง

นายสมศักดิ์ บุญลาภ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร สายงานปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจอาหาร เครือเบทาโกร เปิดเผยว่า เบทาโกรมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ประชาชนและชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยอาหารที่มีคุณภาพมากขึ้น  ปลอดภัยมากขึ้น ในราคาที่เป็นธรรม จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานแปรรูปไก่แห่งใหม่ที่จังหวัดมหาสารคาม  ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีที่ตั้งเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถเชื่อมโยงด้านการคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม และการศึกษา จึงเหมาะสมในการเป็นจุดยุทธศาสตร์ เพื่อขยายตลาดไปสู่ผู้บริโภคในภูมิภาคที่ต้องการอาหารคุณภาพ และมีทางเลือกมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์จากโรงงานแปรรูปไก่แห่งใหม่นี้ จัดจำหน่ายในชื่อแบรนด์เบทาโกร ส่งจำหน่ายในจังหวัดมหาสารคามและพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก ทั้งผ่านช่องทางในร้านเบทาโกร ช็อป และตลาดสด  รวมทั้งส่งให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร  ภัตตาคาร โรงแรม โรงพยาบาล และสถานศึกษาในพื้นที่

สำหรับโรงงานแปรรูปไก่มหาสารคาม นับเป็นโรงงานแปรรูปไก่แห่งที่ 5 ของเครือเบทาโกร เริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนมกราคม พ.ศ 2562  แล้วเสร็จสมบูรณ์และดำเนินการผลิตได้เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2562 โดยมีมูลค่าการลงทุน 180 ล้านบาท มีกำลังการผลิตจำนวน 40,000 ตัวต่อวัน  หรือประมาณ 1,000,000 ตัวต่อเดือน ปัจจุบันถือเป็นโรงงานแปรรูปไก่แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในจังหวัดมหาสารคาม

โรงงานแปรรูปไก่แห่งนี้เป็นไปตามมาตรฐานกรมปศุสัตว์  ขับเคลื่อนโดยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจปศุสัตว์และการแปรรูปเนื้อสัตว์ ใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีระบบการผลิตและการจัดการด้วยมาตรฐานและคุณภาพ ภายใต้นโยบายอาหารคุณภาพและปลอดภัยของเครือเบทาโกร   จึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่และชิ้นส่วนไก่ที่ผลิตจากโรงงานแปรรูปไก่มหาสารคาม สด สะอาด มีคุณภาพสูงและปลอดภัยต่อผู้บริโภค

“ นอกจากนี้ ผมหวังว่าการดำเนินงานของโรงงานแปรรูปไก่มหาสารคาม จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน  ทั้งยังเป็นการสร้างงาน ส่งเสริมด้านอาชีพให้แก่คนท้องถิ่นให้เกิดการเพิ่มผลผลิตและมูลค่าเพิ่ม การกระจายรายได้  ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม  ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน  และดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนรอบโรงงาน  ซึ่งถือเป็นแนวทางในการขยายธุรกิจของเครือเบทาโกรตลอดเวลาที่ผ่านมา” นายสมศักดิ์กล่าวในตอนท้าย

ความท้าทายที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเตรียมรับมือปี 2020

ธนาคาร TD แคนาดาได้ทำการสำรวจข้อมูลความท้าทายที่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มควรรับมือซึ่งการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางการค้าและบริการในปี 2020 ภายในงานสัมมนา 2019 Groceryshop เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา พบว่าการค้าขายรูปแบบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) ภายใต้ช่องทางใหม่ๆ เป็นสิ่งที่น่าจับตามองที่สุดตามด้วยการใช้เทคโนโลยีในธุรกิจค้าปลีกและศึกษาการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อหาช่องทางขยายตลาดสินค้าตนเองให้มากที่สุด โดยเทรนด์รูปแบบทางการค้าและบริการในปี 2020 ที่น่าจับตามอง มีดังนี้

เทรนด์ 1 แบรนด์ธุรกิจจะเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนได้จากข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ในยุคนี้ โดยสอดคล้องกับกลยุทธ์ห้าง Loblaw ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของแคนาดาที่มองว่า เทคโนโลยีปัจจุบันนี้เปิดโอกาสให้เกิดการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกกันมากขึ้น ผู้บริโภคเองสามารถเปรียบเทียบการให้บริการขายสินค้าออนไลน์จากทุกเซกเมนต์ได้ (ไม่ใช่เฉพาะผู้จำหน่ายค้าปลีกเท่านั้น) โดยผู้บริหาร Loblaw มีการวางแผนที่จะให้แบรนด์ธุรกิจของตนเองกว่าร้อยละ 70 อยู่บนแพลตฟอร์มมือถือ ซึ่งก็เพื่อความสะดวกของผู้บริโภคในการจับจ่ายสินค้ามากขึ้น และปีที่ผ่านมาได้มีการจัดหาบุคลากรอีก 1,000 ตำแหน่งสำหรับการเก็บข้อมูลลูกค้าต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมค้าปลีกในวันข้างหน้านี้

เทรนด์ 2 กลยุทธ์ด้านเวลาเป็นสิ่งจำเป็น จากพฤติกรรมความเร่งรีบในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทำให้หลายคนรู้สึกว่าการเดินซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตกลายเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนใจอีกต่อไป โดย Ms. Kathrine Black หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ร้านค้าปลีกและผู้บริโภคบริษัท KPMG ได้กล่าวถึงข้อมูลการจับจ่ายของผู้บริโภคในงาน 2019 Groceryshop ว่าปัจจัยด้านเวลาและราคาสินค้าเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการค้าปลีกควรคำนึงให้มากต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องเดินทางไปซื้อสินค้าที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะผลการสำรวจทัศนคติผู้บริโภคยุคปัจจุบันต่อการไปเลือกซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต พบว่าสิ่งที่สร้างความไม่พอใจ ได้แก่

– ผู้บริโภคร้อยละ 29 พบว่าการค้นหาสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นค่อนข้างยาก

– ผู้บริโภคร้อยละ 29 รู้สึกว่าการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก เพราะสินค้าที่วางจำหน่ายมีความหลากหลายเกินไป

– ผู้บริโภคร้อยละ 60 พบว่ามีการขาดสต๊อกสินค้าที่ต้องการบนชั้นวาง ทำให้ต้องกลับไปอีกครั้ง

– ผู้บริโภคร้อยละ 59 พบว่า ต้องมีการรอชำระเงินนานเกินไป ซึ่งค่อนข้างเสียเวลาตนเอง

ดังนั้นแล้วหากผู้ประกอบการคำนึงถึงปัจจัยด้านเวลาที่ผู้บริโภคเผชิญดังกล่าวข้างต้น ก็อาจจำเป็นสร้างกลยุทธ์การขายต่างๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ต้องการประหยัดเวลาในการเดินทางมาซูเปอร์มาร์เก็ตให้ได้

เทรนด์ 3 ประสบการณ์ช้อปปิ้งใหม่ๆ ในยุดดิจิทัล ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้บริโภคทุกวันนี้มีความคาดหวังถึงประสบการณ์ซื้อสินค้าที่ดีสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยช่องทางจำหน่ายทางออนไลน์ มือถือหรือแม้แต่การขายหน้าร้าน (Off-line) ดังเช่นบริษัท Coca-Cola ผู้ผลิตเครื่องดื่มขนาดใหญ่ของโลกพยายามที่จะหากลยุทธ์เชื่อมต่อกับลูกค้าให้มากที่สุด โดยล่าสุดได้มีการออกแอพพลิเคชัน Sip N Scan เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคให้รับข่าวสาร รางวัล กิจกรรรมโปรโมชั่นสินค้าและอื่นๆ อีกมากมาย โดยเชื่อว่าการใช้เทคโนโลยีดิจิตัลจะสามารถเข้าถึง Mindset ของผู้บริโภคยุคนี้ได้ดีที่สุด ในการนี้ Coca-Cola ภูมิภาคอเมริกาเหนือยังออกแบบระบบดิจิตัลที่เชื่อมโยงกับร้านค้าปลีกที่จำหน่ายและพาร์ทเนอร์ที่ให้บริการอาหารและสินค้าของบริษัท เพื่อเก็บข้อมูลและศึกษาการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค อันนำมาซึ่งโอกาสการขยายตัวสินค้าของบริษัทต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในปี 2020 นี้เชื่อว่าการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกค้าปลีกจะมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและจะเกิดการแข่งขันข้ามเซกเมนต์มากขึ้น รวมถึงการแข่งขันด้านราคา การเพิ่มความหลากหลาย และสร้างความแตกต่างในสินค้า โดยเฉพาะการที่ห้างค้าปลีกรายใหญ่จะเข้ามาออกจำหน่ายสินค้าแบรนด์ตัวเอง (Private Brand) กันมากขึ้นเพราะสามารถสร้างกำไรและทำโฆษณาการตลาดได้ง่ายกว่าแบรนด์ทั่วไป ทั้งนี้จุดแข็งของซูเปอร์แห่งอนาคตนี้จะอยู่ที่การใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มทางมือถือที่กลมกลืนไปกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ดังนั้นแล้วในส่วนของผู้ประกอบการไทยในฐานะเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าอาหารที่ต้องปรับตัวรับมือคือการพัฒนาช่องทางสินค้าออนไลน์และข้อมูลสินค้าบนบรรจุภัณฑ์ที่ผู้บริโภคสามารถสแกนบาร์โค้ดหรือ QR โค้ด เพื่อรับข้อมูลที่มาสินค้าได้อย่างรวดเร็ว อันจะทำไปสู่ความสามารถการแข่งขันได้ทันท่วงทีต่อไป

 ——————————————————————————————————————–

ที่มา: สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ขนทัพอาหารทะเลสดใหม่ ร่วมงาน “Seafood under the Stars” ประจำปี 2563

หอการค้าไทย-นอร์เวย์ ร่วมกับสถานทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทยจัดงานรับประทานอาหารค่ำ “Seafood under the Stars” ประจำปี 2563 ณ บ้านพักเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 13 ด้วยจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวนอร์เวย์และผลักดันให้นอร์เวย์เป็นที่รู้จักในฐานะประเทศแห่งอาหารทะเล

ในงานนี้ สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ตัวแทนอุตสาหกรรมอาหารทะเลของประเทศนอร์เวย์ เป็นผู้สนับสนุนอาหารทะเลสดใหม่คุณภาพเยี่ยมส่งตรงจากนอร์เวย์ โดยมีอาหารทะเลที่เป็นตัวหลักในงานคือสัตว์น้ำทะเลที่มีเปลือกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปูจักรพรรดิ (King Crabs) ที่เลื่องชื่อในรสชาติหวานอร่อยและก้ามเนื้อนุ่มฉ่ำ กุ้งลังกู้สตีน (Langoustines หรือ Norwegian Lobsters) กุ้งเปลือกสีชมพูอ่อนจากทะเลน้ำลึกอย่าง กุ้งกรีนแลนด์ (Cold Water Prawns) ที่มีรสชาติออกหวานและเค็ม หอยรสหวานเนื้อนุ่ม อาทิ หอยเชลล์ (Scallops) หอยมะฮอกกานี (Mahogany Clams) และ หอยแมลงภู่สีน้ำเงิน (Blue Mussels) รวมไปถึงเหล่าปลายอดนิยมอย่าง แซลมอน ฟยอร์ดเทราต์ และคอด (Atlantic Cod) ปลารสอร่อยที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์นอร์เวย์ และฮาลิบัต (Halibut) ปลาเนื้อขาวเนื้อแน่นและนุ่มฉ่ำ

 

สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ได้เผยถึงมูลค่าการส่งออกอาหารทะเลนอร์เวย์สู่ไทยในปี 2563 ที่ผ่านมานั้น มีมูลค่าสูงถึง 5.2 พันล้านบาท สัดส่วนของแซลมอนและฟยอร์ดเทราต์นับเป็น 87% ของมูลค่าการส่งออกนี้ ในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมาแซลมอนสดมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 25% และแตะ 32% เป็นครั้งแรกในปีที่แล้ว ปัจจัยหลักมาจากความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นของร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ในไทยที่ใช้แซลมอนสดจากนอร์เวย์เป็นวัตถุดิบหลัก

ดร.อัสบีเยิร์น วาร์วิค เรอร์ทเว็ท ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) เผยว่า “ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่มีการเติบโตของการส่งออกอาหารทะเลสูงมาก โดยเฉพาะตลาดไทย นอกเหนือจากแซลมอนแล้ว ฟยอร์ดเทราต์มีการเติบโตที่สูงและเป็นที่น่าจับตามองที่สุดในหมู่อาหารทะเลนอร์เวย์ อยู่ที่ 68% โดยรวมแล้วตลาดไทยมีโอกาสขยายการส่งออกที่สูงมาก ครั้งนี้เราจึงนำเสนออาหารทะเลจากนอร์เวย์ชนิดอื่นๆ อย่างสัตว์น้ำทะเลที่มีเปลือกต่างๆ ภายในงาน ‘Seafood under the Stars’ ปี 2563 จะเป็นปีที่น่าติดตามของอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์อย่างแน่นอน”

งาน “Seafood under the Stars” ปี 2563 มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมกว่า 320 ราย ซึ่งล้วนเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของประเทศนอร์เวย์ เจ้าของร้านอาหารชั้นนำ เชฟชื่อดัง และผู้ประกอบการค้าปลีกในประเทศไทย ถือเป็นงานสานสัมพันธ์เชิงธุรกิจที่สำคัญสำหรับบริษัทในไทยและนอร์เวย์ และเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่างยาวนานของทั้งสองประเทศ เชฟอาหารนอร์ดิกชื่อดัง เชฟเฟ-รุ่งทิวา ชุ่มมงคล หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม ณ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย ได้ให้เกียรติมารังสรรค์เมนูอาหารมื้อค่ำสุดพิเศษที่ผสมผสานอาหารสไตล์นอร์ดิกกับรสชาติความเป็นไทยได้อย่างลงตัว โดยใช้อาหารทะเลสดใหม่คุณภาพสูงส่งตรงจากนอร์เวย์

ความโดดเด่นของอาหารทะเลนอร์เวย์ เกิดจากการเติบโตในน้ำเย็นเฉียบ ใส สะอาดของนอร์เวย์และได้รับการเพาะเลี้ยงด้วยความเชี่ยวชาญในด้านการประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ส่งผลให้อุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์เป็นที่เลื่องชื่อในด้านการใช้อาหารสัตว์น้ำจากวัตถุดิบธรรมชาติตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปทีปราศจากพยาธิ และมีการพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคทำให้แทบจะปราศจากการใช้ยาปฏิชีวนะในปลา กระบวนการผลิตอาหารทะลที่มีมาตรฐานสากลเป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพที่สดใหม่และปลอดภัยของอาหารทะเลจากนอร์เวย์ ประเทศนอร์เวย์ยังเป็นที่รู้จักในด้านการผลิตอาหารโดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ มีการทำฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาตามแนวทางปฏิบัติที่ยอดเยี่ยม โดยคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์น้ำและใส่ใจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การผลิตอาหารทะเลที่ยั่งยืนของนอร์เวยจึงสามารถช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกของโลกได้อีกด้วย

“ชาวนอร์เวย์ขึ้นชื่อในเรื่องของความใส่ใจและเข้าใจในธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ส่งผลให้นอร์เวย์เป็นประเทศผู้ผลิตอาหารทะเลที่ยั่งยืนที่สุดเจ้าหนึ่งและยังเป็นผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่อันดับสองของโลก นอร์เวย์มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมอาหารทะเลและสร้างมาตรฐานที่ดีให้แก่ผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ขึ้นผ่านอุตสาหกรรมอาหารทะเลที่ยั่งยืน” ดร. อัสบีเยิร์น กล่าวทิ้งท้าย

Advanced Packaging Cuts Fresh Green Bean Waste

StePac automated bulk packaging solutions cut food loss in the foodservice sector

Tefen, Israel – The US foodservice industry is discovering the benefits of receiving fresh green bean supplies in lean, modified atmosphere bulk packaging (MAP) newly developed by sustainable packaging experts StePac, Ltd. The company’s advanced solution under the brand name Xtend® targets food waste in the foodservice supply chain and delivers added benefits of preserving the quality, crispiness, and glossy green color of fresh green beans while maintaining full fresh flavor. Stepac will showcase this innovative solution at the upcoming Fruit Logistica in Berlin, February 5-7, hall 26, booth #D10.


Green beans are grown extensively in South Florida and Tennessee, with peak season from November to May. A large percentage of the green beans are packed and shipped to the foodservice industry. But fresh green beans have a short shelf life of around 8 to 12 days. Dehydration, a common post-harvest problem, causes the pods to shrivel and become limp from progressive weight loss and plastic packaging is often used to reduce this waste.

However, excess moisture generated in standard packaging aggravates decay and russeting — reddish-brown spots that result from chilling injury when beans are stored at 5-7.5°C (41-45°F).  Foodservice outlets must discard food supplies that do not meet specifications for appearance and quality and are rendered unfit for consumption.

StePac developed modified atmosphere packaging films inbuilt with ideal water vapor transmission rates (WVTR) that eliminate the excess moisture from fresh green bean packaging, mitigating risk of decay and reducing sensitivity to russeting. The company’s proprietary solution also preserves the crispiness and glossy green color of fresh green beans and prevents excessive weight loss caused by dehydration.

Food waste is an estimated $100bn problem within the hospitality sector alone, reports Winnow, producers of a device that monitors food waste in commercial kitchens. “Food waste in the foodservice sector is a major challenge, affecting the entire global food value chain,” notes Gary Ward, Ph.D., Business Development Manager for StePac. “Our technology offers a solution for helping curb that waste and enhancing the quality of the produce reaching the kitchens. It also isn’t limited to green beans but extends to a range of other vegetables, such as peas, carrots, broccoli, brussels sprouts, and others that are freshly bulk packed exclusively for the foodservice sector.

StePac’s packaging solutions can help increase the shelf life of green beans and other vegetables, often by as much as 50-100%, and allows foodservice providers to serve vegetables cooked from higher quality fresh produce, more sustainably and with reduced waste.

StePac offers a range of films that cater to nearly every requirement. In addition to Xtend carton liners, its groundbreaking Xflow™ films, with their patented sealing layer, have facilitated applicability for automated packaging, such as vertical form-fill and seal (VFFS) packing. This lets the packaging of green beans and other vegetables meet the demands of high turnover facilities and is already gaining momentum within facilities in regions of the US, especially Florida.

“The new Xflow packaging supports high-speed, high-throughput automated packaging lines for fresh vegetables; supports distributors and growers; and better meets the needs of hotels, restaurants, hospitals, and other institutions across the US,” adds Ward. “Foodservice sites can receive enhanced quality produce while enjoying the benefits of reduced labor costs.”

This solution for automated packing of fresh green beans for foodservice applications adds to the comprehensive portfolio of packaging solutions StePac offers for fresh vegetables. The portfolio includes bulk carton liners, preformed bags (including standing pouches for retail applications) as well as films for VFFS, flowpack and topseal for retail packaging formats.

See What’s New in the Star Items February 2020

พบกับผลิตภัณฑ์ดาวเด่น เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ส่วนผสมอาหาร และอื่นๆ ที่น่าสนใจ…ได้ที่นี่