บรรจุภัณฑ์และเครื่องบรรจุภัณฑ์แบบ Form-Fill-Seal กับการพัฒนาที่ตอบโจทย์ตลาดผู้ผลิตในปัจจุบัน
By: Iddhiputt Thamsuriya
Engineering Director
Thai Sek Son Co., Ltd
ปัจจุบันการตลาดมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ ได้มีผลผลักดันให้ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคหันมาใช้เครื่องบรรจุแบบ Form-Fill-Seal (FFS) กันมากขึ้น เนื่องจากระบบมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบกระบวนการผลิตได้สะดวก รวดเร็ว และมีราคาไม่สูง รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ออกมามีราคาถูกกว่าและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่น โดยบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วยังสามารถที่จะนำกลับมารีไซเคิลได้ง่ายหรือสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ
ความยืดหยุ่น อเนกประสงค์ และการเชื่อมต่ออย่างชาญฉลาดเพื่อตอบโจทย์ 4.0
เทคโนโลยีใหม่ๆ หรือกลไกของเครื่อง FFS เฉพาะตัวเครื่องจักรเองเริ่มมีความอิ่มตัว เราอาจจะไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่มากนักเมื่อเทียบกับเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ทว่า การออกแบบในยุคต่อไปจะมุ่งเน้นไปที่ความยืดหยุ่นและอเนกประสงค์มากขึ้น และสามารถเชื่อมต่อแบบบูรณาการอย่างชาญฉลาดกับเครื่องจักรอื่นๆ ได้อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น โดยหลักการออกแบบในยุคต่อไปจะต้องใช้ความรู้เข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้นเรื่องขนาดบรรจุภัณฑ์ ลักษณะบรรจุภัณฑ์ วัสดุที่นำมาใช้ การถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ง่ายและไม่ต้องใช้เครื่องมือ การเพิ่มความเร็วทางกลศาสตร์ ขนาดเครื่องจักรที่เล็กลง การใช้ระบบเซอร์โวที่ซับซ้อนมากขึ้น ระบบการตัดสินใจอัตโนมัติต่างๆ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นส่วนประกอบเล็กๆ แต่สำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถสร้างความต่างที่ยิ่งใหญ่ได้ ทั้งนี้ เรื่องการบริการและการสนับสนุนเชิงเทคนิคก็เป็นอีกส่วนที่ต้องมีการพัฒนาควบคู่ไปกับการผลักดันตามนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเครื่องจักรระดับนี้มีผู้สร้างขึ้นมาแล้วในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียตะวันออก แต่ยังมีราคาที่สูงมากจึงยากที่จะเข้าถึง ทว่าเป็นโอกาสอันดีของผู้ผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะเข้าสู่ขุมทองเหล่านี้ แต่ต้องเน้นย้ำที่นวัตกรรม คุณภาพ และเทคโนโลยีที่สูงขึ้นด้วย
คาดการณ์เทคโนโลยีใหม่ที่น่าจะเปิดตัวปี 2561
ผู้ผลิตเครื่องจักร Form-Fill-Seal สัญชาติไทยชั้นนำ1 ต่างมีการตื่นตัวและมีการเตรียมตัวมานานแล้วสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 โดยเทคโนโลยีที่คาดว่าจะพบในการเปิดตัวในปี 2561 นั้นน่าจะเป็นการดึงเอาเรื่องของการรวมระหว่างเครื่องจักรและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่าย Internet of Things (IoT) ระบบการทำงานและฐานข้อมูลบนคลาวด์ การตัดสินใจแบบกระจายศูนย์และการรวมองค์ความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ และระบบการบริการผ่านอินเทอร์เน็ตเข้ามาไว้ด้วยกัน โดยเครื่องจักรรูปแบบต่างจะสามารถทำงานและสื่อสารกันได้บนภาษาที่แตกต่างกัน สามารถปรับตัวเองด้วยการตัดสินใจของตัวเองเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และสามารถแก้จุดบกพร่องหรือข้อผิดพลาดได้ด้วยตัวเครื่องจักรเอง แต่อย่างไรก็ตามเทรนด์ในภาพรวมกว้างๆ ก็ยังต้องคำนึงถึงการนำเทคโนโลยีเช่น “บล็อกเชน” มาใช้ในการตรวจติดตามคุณภาพและการสอบย้อนเพื่อเพิ่มคุณค่าทางห่วงโซ่การผลิตให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย









