Category: What’s In

การตรวจจับสิ่งปลอมปนที่มีขนาดเล็กด้วยระบบเอ็กซเรย์ที่จัดการงานที่ท้าทายได้ทุกรูปแบบ

By: Mettler-Toledo (Thailand) Limited

MT-TH.CustomerSupport@mt.com

Full article TH-EN

ความท้าทายในการตรวจสอบของเหลวข้น ของเหลวเหนียวข้นและของเหลวในท่อลำเลียงนั้นเป็นความท้าทายที่คุ้นเคยกันดีในอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ เทคโนโลยีเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนขั้นสูงรุ่นใหม่สามารถให้ความไวในการตรวจจับสิ่งปลอมปนที่สูงขึ้นและมีส่วนในการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการได้

มาตรฐานด้านความปลอดภัยของอาหารต่างๆ ได้เน้นหนักในเรื่องของความรับผิดชอบของผู้ผลิตในการทำให้มั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีคุณภาพเพียงพอและเหมาะสมต่อการบริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ ความเสี่ยงต่อการปลอมปนนั้นเป็นความเสี่ยงที่เป็นปกติวิสัยของกระบวนการผลิตต่างๆ ซึ่งก็หมายความว่าผู้แปรรูปเนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์ปีกต้องทำหน้าที่ในการดูแลระมัดระวังและพิสูจน์ว่าตนได้ทำการตรวจสอบตามสมควรในขั้นตอนการผลิตต่างๆ ของตนแล้ว

การจัดการและตรวจสอบผลิตภัณฑ์บางชนิด เช่น เนื้อบด เนื้อบดผสมไขมัน (ปาเต) หรือไก่ดิบหั่นชิ้นถือเป็นความท้าทายของผู้ผลิตตลอดมาเนื่องจากส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์และแนวโน้มที่จะไหลคล้ายของเหลวหนืด แต่ความสามารถในการสูบผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผ่านท่อลำเลียงในกระบวนการทำให้การตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีเอ็กซเรย์เป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้และสามารถใช้งานได้จริง

 

The challenges of inspecting slurries, pastes and liquids in pipelines will be familiar for processed meat and seafood processors. New, advanced x-ray technology can provide increased contaminant detection sensitivity and contribute to improved process efficiency.

Increasingly, food safety standards are placing more emphasis on the responsibility of manufacturers to ensure products are of sufficient quality and fit for human or animal consumption. Contamination risks inherent in manufacturing processes mean that meat and poultry processors must satisfy their duty of care and prove they have exercised due diligence in their production procedures.

Handling and inspecting some product types such as ground meats, pates or raw chicken cuts have always posed a challenge for manufacturers due to their composition and tendency to flow like a viscose liquid. The ability to pump these products through process pipelines makes inspection using x-ray technology a viable and realistic possibility.

เทรนด์ด้านสุขภาพและความอยู่ดีมีสุขในปี 2561

 Compiled By:   Editorial Team

Food Focus Thailand Magazine

editor@foodfocusthailand.com

Full article TH–EN

สุขภาพและความอยู่ดีมีสุขนั้นครอบคลุมตั้งแต่การออกกำลังกายและการกินที่ดี ไปจนถึงสุขภาพจิต ความเครียด และความวิตกกังวล ปัจจุบันแนวทางใหม่ๆ ในการจัดการกับความท้าทายดังกล่าวได้เกิดขึ้นอย่างมาก ทาง businessadvice.co.uk ได้สรุปเทรนด์ล่าสุดของสุขภาพและความอยู่ดีมีสุขในปี 2561

 นอกจากนี้ ทาง mindbodygreen.com ได้สรุปเทรนด์ของการมีสุขภาพที่ดีในปี 2561 ซึ่งมีทั้งหมด 11 เทรนด์ โดยมีบางเทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหาร ได้แก่

• สุขภาพลำไส้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแบคทีเรียที่ดีเพียงเท่านั้น

ในปีนี้เราจะได้เห็นนวัตกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพของสุขภาพลำไส้ เห็นโปรโตคอลในการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อเชื้อจุลินทรีย์ และจะเริ่มเห็นประโยชน์ของเชื้อราเหมือนที่เราเคยเรียนรู้ประโยชน์ของแบคทีเรียมาก่อน

• ด้วยการยอมรับจากผู้บริโภคและองค์กร ความงามตามธรรมชาติจะกลายเป็นอาหารออร์แกนิคเจนใหม่

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ความงามตามธรรมชาติมีความหลากหลายและดูเหมือนจะเป็นสินค้าตลาดบนที่ไม่ใช่ทุกคนจะซื้อหาได้ แต่สถานการณ์นี้เริ่มเปลี่ยนไปในปี 2560 ยกตัวอย่างเช่น ยูนิลีเวอร์ มีคำมั่นสัญญาเรื่องความโปร่งใสของส่วนผสมที่ใช้ โดยเฉพาะการเปิดเผยส่วนผสมในกลุ่มน้ำหอม

• คอลลาเจนกลายเป็นสุดยอดของซูเปอร์ฟู้ดเพื่อเยียวยาสุขภาพลำไส้

คอลลาเจนมีคุณสมบัติช่วยเยียวยาลำไส้และถูกนำมาใช้รักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ตั้งแต่ความวิตกกังวลไปจนถึงเรื่องของสิว ในปีที่ผ่านมา ผู้เล่นรายใหญ่ในวงการคอลลาเจน Vital Proteins เติบโตถึงร้อยละ 250 และหลังจากที่ทุ่มงบลงทุนไปถึง 19 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าอัตราการเติบโตในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

• การอดอาหารเป็นช่วงเวลา…เป็นมากกว่าการลดน้ำหนัก

มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการจัดเวลาการกินอาหาร หรือการอดอาหารเป็นช่วงตั้งแต่ 12 ชั่วโมงขึ้นไป (Intermittent Fasting; IF) เป็นหนึ่งในวิธีที่ดี โดยงานวิจัยพบว่า IF มีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ในอนาคต ผลิตภัณฑ์ที่มีแนวคิดในเรื่องความยั่งยืนจะเป็นกระแสหลักของตลาด พลังในโลกธุรกิจจะเปิดประตูแห่งความเป็นไปได้ให้กับทุกๆ คนในประเทศและโลกของเราในที่สุด

 

Refer to businessadvice.co.uk, health and wellbeing encompasses an awful lot – from exercise and healthy eating, to mental health, stress and anxiety. New ways of tackling these ever-present challenges are constantly arising – so this source decided to look at the latest health and well-being trends.

According to 11 Wellness Trends to Watch in 2018 by mindbodygreen.com, there are some wellness trends that related to food business as follows;

• Our gut health depends on more than just good bacteria.

In 2018, we’ll be optimizing our gut health in innovative new ways. We’ll start to see protocols arise for how to create a supportive environment for our microbes, and just like we learned with bacteria, we’ll start to see the bright side of fungi.

• With buy-in from consumers and corporations, natural beauty becomes the next “organic food.”

Until the last few years, natural beauty was a mixed bag. Select products were efficacious while others couldn’t hold a candle to their conventional counterparts. More recently, the best ones were high-end and not accessible to everyone. Now, in 2017, all of that has changed. For example, Unilever has emerged as one of the most progressive players in the natural beauty space. Earlier this year, the company promised improved transparency in its ingredient lists, specifically lifting the veil from fragrance.

• Collagen becomes the ultimate gut-healing superfood.

Collagen has gut-healing properties and is increasingly being used to treat many modern ailments from anxiety to acne. Vital Proteins, the category leader in the collagen space, has seen 250 percent growth over the past year, and, after the influx of USD 19 million of capital, that number should only continue to rise in 2018.

• Intermittent fasting for way more than just weight loss.

Last year’s ketogenic trend is still going strong, but a growing body of research is showing that intermittent fasting (IF) is one of the best, proven ways to improve health in the short- and long-term.

Looking forward, we’ll hopefully see more sustainable, nourishing products become mainstream, as the power of the corporate world opens up doors of possibility to every person living in this country and, ultimately, the world.

Thailand Lab International 2018

ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการค้าเครื่องมือห้องปฏิบัติการระดับภูมิภาค

12-14 September 2018 @ BITEC Hall EH102-103

 

Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine

 Full article TH–EN 

 

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เปิดเผยถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของประเทศไทยว่า อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพและการแพทย์มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากตลาดเครื่องมือแพทย์จากทั่วโลกที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าร้อยละ 6.4 ต่อปี จึงทำให้อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือแพทย์เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพต่อเศรษฐกิจ ไทยจึงได้กำหนดเรื่องการแพทย์และสาธารณสุขไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยให้เป็นหนึ่งในเป้าหมายอนาคตของไทย ในปี 2579 เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือที่รู้จักกันในนาม Medical Hub โดยส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ นอกจากนี้ยังได้จัดทำ Roadmap ในการขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Health, Wellness and Bio-Med) ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์เพื่อผลักดันให้ไทยเป็น Medical Hub ของอาเซียนภายในปี 2568

 

The National Science and Technology Development Agency (NSTDA) revealed about the trend of medical equipment in Thailand that health-related industry and medical industry has grown continuously every year as seen from the medical equipment trading market in global, which grows by an average of 6.4 percent each year. Consequence, the medical equipment industry is a potential industry, which could benefit the economy. Thailand, thus, has drawn on the medical and public health plan in the 20 years national strategy, which set the industry as one of the targeted industries in the future. In 2036, it is targeted to promote Thai people to be healthy, and make Thailand as the center of international healthcare service or known as “Medical Hub”. Moreover, the country has drawn a roadmap to drive Thailand 4.0 in Health, Wellness, and Bio-med, while also develop infrastructure on medical to push Thailand forward to become the Medical hub of ASEAN within the year 2025.

The nationwide one of the most influential catering and hospitality trade exhibitions…

Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine

 Full article TH–EN 

 

Finefood Shanghai 2018 จัดขึ้นพร้อมกับงานแสดงสินค้า HOTELEX Shanghai 2018 นำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มทุกรูปแบบทั้งจากท้องถิ่นและนานาชาติ อาทิ วัตถุดิบอาหาร ผักและผลไม้ อาหารทะเลสดแช่เย็นแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง ซอสและเครื่องปรุงรส เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ ตลอดจนโซลูชันด้านการบรรจุ และเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารต่างๆ นับเป็นเวทีทางธุรกิจที่สำคัญสำหรับผู้ส่งออกจากทั่วทุกมุมโลกในการเข้าถึงตลาดจีนที่มีศักยภาพและกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

“บีแอลไอ (ไทยแลนด์)” ผู้นำด้านการจัดแสดงสินค้าระดับนานาชาติ นำโดย คุณกนกวรรณ สุขชัยศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีแอลไอ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้พาผู้ประกอบการไทยรวม 18 บริษัท เข้าร่วมงาน Finefood Shanghai 2018 เป็นครั้งที่ 3 ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Product of Thailand” ที่ได้รับการตอบรับดีมากจากผู้บริโภคชาวจีน ทั้งความเชื่อมั่นในรสชาติ และมาตรฐานการผลิต โดยสินค้าไทยที่นำมาร่วมจัดแสดงในงานครั้งนี้ ได้แก่ ผักและผลไม้แปรรูป เครื่องดื่ม ซอสปรุงรส และชุดอาหารพร้อมปรุงหลากหลายชนิดในรูปแบบบรรจุภัฑณ์หลากสไตล์มากขึ้นเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์การบริโภคของคนจีนในปัจจุบัน

 

Finefood Shanghai 2018, the Food & Beverage segment at HOTELEX Shanghai is characterized by domestic and international suppliers of raw food, fresh produce, fresh & semi-preserved seafood, semi-finished food products, canned food, condiments & sauces, non-alcoholic beverages, packaging solutions, food processing technologies, and much more.

 

“BLi (Thailand)”, one of the country’s leading international trade exhibitors, led by Kanokwan Sukchaisri, Managing Director of BLi (Thailand) Co., Ltd, escorted 18 Thai entrepreneurs to participate Finefood Shanghai 2018 for the third time under the concept “Product of Thailand”, which received a good response and confidence from Chinese consumers in term of taste and production standard. Thai products that had been exhibited at this event were included processed vegetables and fruits, beverages, seasoning, various ready-to-eat meals with diverse packaging that can respond to various lifestyles of Chinese consumers in current.

พลังของพืช…. ในเทคโนโลยีการเคลือบเพื่อลดไขมัน

Jillean Pangan
Sales Manager Asia Pacific
Emsland-Starke Asia Pacific Pte. Ltd

Translated by: Khwanchanok Puengwooth
Technical Customer Service Specialist
Emsland Asia Food Application Co., Ltd.

 

Full article TH-EN

ในบางครั้ง อาหารที่ผ่านการแปรรูปนั้นอาจมีความต้องการการป้องกันการสูญเสียความชื้น เนื้อสัมผัส และ ลักษณะปรากฏ ซึ่งกระบวนการเคลือบในอุตสาหกรรมอาหารที่นิยมใช้สตาร์ชเป็นส่วนผสมหลักนั้นสามารถช่วยคงรูปร่างให้กับผลิตภัณฑ์ได้ อีกทั้งยังให้ลักษณะฟิล์มเคลือบที่ใส จึงไม่มีผลต่อผลิตภัณฑ์  ซึ่งอุตสาหกรรมที่นิยมใช้กระบวนการเคลือบร่วมในการแปรรูปนั้นมีมากมาย อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว เบเกอรี ลูกกวาด ผัก เนื้อ และปลา

 

ทั้งนี้ สตาร์ชถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มแบตเตอร์และการเคลือบ เนื่องจากสามารถช่วยในด้านการยึดเกาะที่ดี ช่วยในการเกิดฟิล์มเคลือบ ช่วยในการเพิ่มน้ำหนัก และช่วยในการควบคุมด้านเนื้อสัมผัส นอกจากนี้การใช้แป้งที่ถูกผสมเสร็จมาแล้วในอัตราส่วนและส่วนผสมที่เหมาะสมยังสามารถใช้ในการเคลือบผลิตภัณฑ์เฟรนช์ฟรายด์เพื่อช่วยในการเพิ่มความกรอบ ช่วยคงความร้อนหลังทอดไว้ได้นานขึ้น ช่วยในการคงรูปร่าง และช่วยลดการดูดซับน้ำมันหลังจากการทอดได้ด้วย

 

จากกระแสที่ตลาดปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายและคาดหวังความเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากนั้น ทำให้ตลาดของการพัฒนาผลิตภัณฑ์มีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการเคลือบที่หลากหลายมากขึ้น จึงทำให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์เคลือบที่มีการผสมเครื่องเทศและกลิ่นรสต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการใช้งานใที่มีความต้องการความแตกต่างอย่างต่อเนื่อง

 

Processed foods sometimes need help to protect moisture, texture and appearance. Coatings enable food manufacturers to present their products in the intended form. They contain starches to help form flexible and clear protective layers for snacks, bakery, confectionery, vegetables, meat and fish applications.

 

Starches are used in a variety of batters and coatings. They help with adhesion, film forming, regulate pickup and manipulate texture. Nowaday a wide range of special starch blends for use in clear coatings of French fries and other products to enhance crispness, heat holding stability, form stability and reduce fat absorption are made available.

 

Following the trend of consumers expecting multiple choice options we have developed several seasoning coatings. This batter range contains spices and flavours resulting in more visible coating layers. Depending on regional preferences we are able to offer customer specific blends.

Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine

 Full article TH–EN 

 

ประสบความสำเร็จกับพิกัดที่สอง ณ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างพื้นฐานองค์ความรู้เรื่อง “อาหารปลอดภัย” และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยให้พร้อมก้าวสู่ตลาดในระดับสากลอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

 

งาน Food Focus Thailand Roadshow # 2 ต้อนรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในภาคใต้ ซึ่งได้รับฟังการบรรยายเรื่อง “เทรนด์ล่ามาแรงของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม: มุมมองจากทั่วโลก อาเซียน และไทย” โดยได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สันทัด วิเชียรโชติ ผู้อำนวยการบัณฑิตวิทยาลัยสหวิทยาการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอาหารสุขภาพ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ และหัวข้อ “อัพเดทมาตรฐานที่จำเป็นล่าสุดในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม” โดยคุณศรีประไพ ปาจรียานนท์ จาก British Standards Institution นอกจากนี้ยังได้พบกับความหลากหลายของสินค้าที่นำมาจัดแสดงและร่วมสนุกกับกิจกรรมและของรางวัลต่างๆ ภายในงาน

 

โอกาสในการเรียนรู้และสร้างเครือข่าย

งานเดียวที่จะทำให้เข้าใจเรื่อง “อาหารปลอดภัย” แบบเน้นๆ และค้นหาโซลูชันใหม่ๆ เพื่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยพิกัดต่อไปเราจะเดินทางไปที่ “พระนครศรีอยุธยา”… ชาวอโยธยาและจังหวัดใกล้เคียงเตรียมพบกันได้ภายในงานสัมมนา Food Focus Thailand Roadshow # 3 ณ โรงแรมคลาสสิค คามิโอ ในวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2561

 

 

Successfully ended at our second stop – Hat Yai, Songkhla, Food Focus Thailand Magazine aims to co-create the fundamental knowledge about “food safety” and increase the competitiveness of Thai food and beverage industry, allowing them to contest in the global level strongly and sustainably.

 

In our Food Focus Thailand Roadshow # 2, food and beverage entrepreneurs of Southern Thailand were welcomed to attend the seminars “Catch Up the Latest Trend in Food & Beverage Industry: Global, ASEAN and Thailand Overview” hosted by Assistant Professor Dr.Santad Wichienchot, Director of Interdisciplinary Graduate School of Nutraceutical and Functional Food (IGS-NFF), Prince of Songkla University, Hat Yai Campus, and “New Update: Food Standard for Food & Beverage Industry” by Ms.Sriprapai Pajareeyanont, British Standards Institution, in addition to having an opportunity to check out a variety of showcased products and participate in activities with free giveaways.

 

Connect the Great Opportunity by Showing Up!

This one and only event gives you all the comprehensible knowledge about “food safety” and new solutions for food and beverage industry. Our next destination is “Ayutthaya” at Classic Kameo Hotel. Shall we meet in 3^rd Food Focus Thailand Roadshow on Friday, June 29^th, 2018?

Food&HotelAsia 2018

A resounding 40 years of excellence in enabling business transformation

 Full article TH-EN

 

งาน FHA2018 ในโอกาสครบรอบปีที่ 40 ประสบความสำเร็จกับผู้เข้าชมงานถึง 81,896 ราย จากกว่า 105 ประเทศและภูมิภาค ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่างานในครั้งก่อนถึงร้อยละ 14 ในปีนี้มีผู้แสดงสินค้าถึง 3,500 ราย จาก 76 ประเทศและภูมิภาค ทั้งยังต้อนรับ 71 พาวิเลียนจากต่างประเทศ โดยมีประเทศน้องใหม่ คือ ลัตเวีย ตูนิเซีย และกาตาร์

 

ศูนย์รวมแห่งนวัตกรรม

โซนแสดงนวัตกรรม RESTAURANT 3.0 จำลองการทำงานของธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารสมัยใหม่ ด้วยหุ่นยนต์แขนกล ตลอดจนโซลูชันเครื่องพิมพ์อาหารแบบ 3 มิติ ที่จะช่วยปรับปรุงซัพพลายเชนของธุรกิจ ผู้ประกอบการจึงได้เห็นภาพของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เพื่อปฏิวัติและนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับกลุ่มลูกค้าในอนาคต

 

พร้อมกับงานในปี 2563

จากความสำเร็จของ FHA2018 ได้เน้นย้ำถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญในการนำเสนอเทรนด์ใหม่ๆ และสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจนั้นพร้อมจะเติบโตในอุตสาหกรรมต่อไปในอนาคต

 

งาน FHA จะกลับมาอีกครั้งกับ 2 งานแสดงสินค้า คือ “FHA-HoReCa” ในวันที่ 3-6 มีนาคม 2563 และ “FHA-Food & Beverage” ในวันที่ 31 มีนาคม-3 เมษายน 2563 ซึ่งจะจัดควบคู่กับงาน ProWine Asia (Singapore) 2020

 

FHA2018 drew 81,896 attendees from more than 105 countries/regions, an increase of 14% from 2016. From first time exhibitors to decades-long partnerships, FHA played host to 3,500 exhibitors from 76 countries/regions and 71 international group pavilions, including new entrants Latvia, Tunisia and Qatar.

 

Platform for New Innovations

RESTAURANT 3.0 at Suntec was a major highlight at FHA2018, where new concepts for enhancing consumers’ dining experiences and improving back-of-house processes through technology were showcased. The exhibit included digital, robotics and technology-enabled modular systems that can improve the overall supply chain – from farm to processing and production, to service at the table. It showcased technological innovations as companies look into digital initiatives to transform consumers’ dining experiences and revolutionise businesses.

 

Looking Ahead 2020

The success of FHA2018 underscores the event’s ability to understand and discover trends, evolving to meet industry shifts and ensure that businesses are well-positioned for growth in the industry.

 

The next edition of FHA will return in 2020 as two dedicated shows – FHA-HoReCa from 3 to 6 March 2020 and FHA-Food & Beverage from 31 March to 3 April 2020. ProWine Asia (Singapore) 2020 will also be co-located with FHA-Food & Beverage.

 

ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานและผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานแช่เยือกแข็ง: คาดการณ์ถึงปี 2569

Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine

Full article TH–EN 

 

ตลาดผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานและผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานแช่เยือกแข็งจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมอยู่ที่ร้อยละ 7.2 ต่อปี และร้อยละ 4.3 ต่อปี จนถึงปี 2569 ตามลำดับ โดยผลิตภัณฑ์เนื้อไก่จะเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานแช่เยือกแข็งทั้งหมด

 

ข้อมูลการศึกษาจาก Future Market Insights ณ เมือง Valley Cottage รัฐนิวยอร์ก ระบุว่าตลาดของผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานทั่วโลกจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมอยู่ที่ร้อยละ 7.2 ต่อปีตลอดช่วงระยะเวลาในการศึกษา (ปี 2559-2569)

 

การค้นพบที่สำคัญจากรายงานดังกล่าว คือ ตลาดอาหารพร้อมรับประทานแช่เยือกแข็งทั่วโลกจะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมที่ประมาณร้อยละ 4.3 ต่อปี และนำมาซึ่งรายได้กว่า 47,000 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว โดยในรายงานได้วิเคราะห์ปัจจัยหลายประการที่มีผลต่อการเติบโตของตลาดอาหารพร้อมรับประทานแช่เยือกแข็งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงคุณภาพและความปลอดภัย

 

ตลาดอาหารพร้อมรับประทานแช่เยือกแข็งทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจบริการอาหาร (Food chain service) ตามมาด้วยโมเดิร์นเทรด ทั้งนี้ ภายในปี 2569 ธุรกิจบริการอาหารทั่วโลกจะมีความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานแช่เยือกแข็งด้วยมูลค่าถึง 16,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ เมนูที่ปรุงจากเนื้อไก่จะได้รับความนิยมสูงที่สุด โดยตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป เมนูอาหารพร้อมรับประทานแช่เยือกแข็งที่ผลิตจากเนื้อไก่จะสร้างรายได้มากกว่า 1 ใน 3 ของยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานแช่เยือกแข็งทั่วโลกทั้งหมด

 

 

Ready-to-eat foods market is projected to grow 7.2% CAGR through 2026. For frozen ready meals market to register CAGR of 4.3% through 2026. The report also reveals that chicken meals will be a top-selling product in the overall frozen ready meals landscape.

 

The global ready-to-eat foods market is projected to register a healthy CAGR of 7.2% during the forecast period (2016-2026), according to a report produced by Future Market Insights, Valley Cottage, N.Y.

 

Key findings from the report reveal that the global frozen ready meals market will expand at a moderate CAGR of 4.3% and bring in an estimated revenues worth over USD 47 billion. The report analyzed several factors influencing the growth dynamics of the global frozen ready meals market, including quality and safety.

 

The global frozen ready meals market will witness highest end-use among food chain services, followed by modern trade outlets. By the end of 2026, more than USD 16.6 billion worth of frozen ready meals will be used by food chain services across the globe. The report also reveals that chicken meals will be a top-selling product in the overall frozen ready meals landscape. In 2017 and beyond, more than one-third of revenues procured in the global frozen ready meals market will be accounted by the sales of frozen ready chicken meals.

เทคโนโลยีสำหรับบรรจุภัณฑ์เทอร์โมฟอร์ม    

Tul Oralratmanee

Director

Advanced Food Technology Co., Ltd.

 

Full article TH-EN 

 

แม้ว่าบรรจุภัณฑ์จะทำหน้าที่เป็นแค่ส่วนประกอบพื้นฐานของสินค้า แต่สามารถช่วยสร้างความโดดเด่นและเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า นอกจากนั้น บรรจุภัณฑ์ยังสามารถสื่อถึงตำแหน่งทางการตลาด และเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญที่สุดที่ใช้สื่อสารกับผู้ซื้อ ณ จุดขายสินค้าอีกด้วย

 

ในปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์เป็นปัจจัยที่สำคัญของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขายสามารถรักษาคุณภาพของสินค้าไว้ได้และยังมีบทบาทสำคัญในการปกป้องสินค้าจากสภาวะแวดล้อมภายนอก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร ทำให้การจัดส่งสินค้า/การจัดเก็บสินค้าคงคลังง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีสำหรับบรรจุภัณฑ์ไม่ได้ช่วยแค่ยืดอายุสินค้าเท่านั้นแต่ยังสามารถลดปริมาณการใช้วัตถุดิบและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

 

Although packaging serves as only a basic element, may and if possible should improve the product image            and increase selling opportunities. Besides this, it communicates product image positioning and it is an influential communicator at the point of sale.

 

Currently, packaging is an essential element in modern trade in goods, which guarantees preserving the quality of food products. It also plays a key role by protecting packed products against external conditions affecting the quality and health safety of food products, making transportation, storage, and dispensing of products easier. Packaging technology is not only extending product shelf life but also help to reduce material usage and save the environment.

กรณีศึกษาในดูไบในการใช้บล็อกเชนกับความปลอดภัยอาหาร

Editorial Team

Food Focus Thailand

Full article TH-EN

 

ความเจ็บป่วยอันเกิดจากอาหารถือเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่พบบ่อยและสิ้นเปลืองในด้านงบประมาณ องค์การอนามัยโลก (World Health Organisation – WHO) ประเมินว่า ในแต่ละปี มีผู้ป่วยจากโรคอาหารเป็นพิษอย่างน้อย 1 ใน 10 ราย ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด (Centres for Disease Control and Prevention – CDCP) ประเมินว่าในอเมริกา มีผู้ป่วยจากอาหารเป็นพิษอย่างน้อย 48 ล้านคน ในจำนวนนี้ 128,000 คนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และราว 3,000 รายเสียชีวิต

 

ความจริงที่น่าเศร้าเบื้องหลังสถิติเหล่านี้คือโรคระบาดจากอาหารนั้นสามารถป้องกันได้ โดยหากผู้บริโภคแม้เพียง 1 คนที่เจ็บป่วยจากโรคดังกล่าว รายงานเกี่ยวกับการเจ็บป่วย ก็จะมีการเรียกสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพออกจากตลาด ซึ่งถือเป็นกลไกที่ไม่ซับซ้อนนักอย่างน้อยในเชิงทฤษฎี ด้วยระบบการจัดการต่างๆ ที่มีในวันนี้ เราสามารถใช้เวลาในการตรวจสอบและระบุสินค้าที่การปนเปื้อนได้ภายในไม่กี่วัน ก่อนจะนำไปสู่การระบุที่มาและผู้จัดจำหน่าย ในช่วงเวลาเหล่านี้ หากมีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนมากขึ้น ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การขาดแคลนข้อมูลแล้ว แต่เป็นการเข้าไม่ถึงข้อมูลมากกว่า

มองดูไบเป็นตัวอย่าง…

 

Foodborne illness is a common and costly public health problem. The World Health Organization estimates that 1 in 10 people fall ill due to foodborne diseases each year. The Centers for Disease Control and Prevention estimates that roughly 48 million get sick, 128,000 are hospitalized, and 3,000 die of foodborne diseases in America alone.

 

The sad fact underlying these statistics is that most foodborne illnesses are preventable. If a single consumer becomes ill and reports it, the offending product can be recalled – that is how it works, at least in theory. With today’s systems, it can take days to identify a contaminated product, then to identify its origin shipment and finally to identify its source vendor. In that time, many more consumers become sick. It is not the lack of information; it is the lack of access.

 

Studying Dubai as Inspiration…