Antioxidants from Green Tea Extract with Meat Product Applications

สารต้านออกซิเดชันจากสารสกัดชาเขียว การประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์

 

ฝ่ายบริการเทคนิคและประกันคุณภาพ

บริษัท ไอ พี เอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

Technical Service and Quality Assurance Department

IPS International Co., Ltd.

ips.tsqa@gmail.com

Full article TH-EN 

 

ชาเขียว (Camellia sinensis) คือ ชาที่ไม่ผ่านการหมัก เตรียมได้โดยการนำใบชาสดมาผ่านความร้อนเพื่อทำให้แห้งอย่างรวดเร็ว สารสำคัญที่พบได้ในชาเขียว ได้แก่ กรดอะมิโน วิตามินบี ซี และอี สารในกลุ่มแซนทีนอัลคาลอยด์ (Xanthine alkaloids) คือ กาเฟอีน (Caffeine) และธีโอฟีลลีน (Theophylline) ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ที่เรียกว่าคาเทชิน (Catechins) โดยคาเทชินที่พบมากที่สุดในชาเขียว คือ สารอิพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (Epigallocatechin gallate; EGCG) ซึ่งมีความสำคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ

 

เมื่อเติมสารสกัดจากชาเขียวที่ระดับ 50-100 ppm ในเนื้อเบอร์เกอร์ไก่ย่าง และศึกษาการเปลี่ยนแปลงของการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันโดยวิเคราะห์ค่า TBARS พบว่าตัวอย่างที่มีการเติมสารสกัดจากชาเขียวมีค่า TBARS ต่ำกว่าตัวอย่างควบคุมที่ไม่มีการเติมสารต้านออกซิเดชัน นอกจากนี้ การใช้สารสกัดชาเขียวที่ 150 ppm ในเนื้อเบอร์เกอร์วัวสามารถยับยั้งการเกิด Hexanal (เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว เมื่อเกิดการหืน) ภายในระยะเวลา 13 วัน ของการเก็บรักษา

 

การใช้ผงสกัดจากชาเขียวที่ทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งทั้งแบบผ่านและไม่ผ่านรังสีที่ปริมาณความเข้มข้นร้อยละ 0.1 ในผลิตภัณฑ์เนื้อเบอร์เกอร์หมูทั้งแบบสุกและสด พบว่าสารสกัดจากชาเขียวทั้งสองชนิดสามารถป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสีแดง (Hunter a*) ในผลิตภัณฑ์ รวมถึงยับยั้งการเกิดออกซิเดชันของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

 

 

Green tea (Camellia sinensis) is non-fermented tea which prepared by quickly dry the tea leaves through the heat. The heat will inhibit the decomposition enzymatic activity. The tea leaves are dry, but still fresh and has a rather green color, so called green tea. Substances that are found in green tea are amino acids, vitamins B, C, E. Xanthine alkaloids are caffeine and tinfoil. Theophylline, which stimulates the action of the central nervous system, affect the body to rejuvenate. And the substances in flavonoids called catechins. The most common found in green tea is Epigallocatechin gallate (EGCG), which is important in antioxidant activity.

 

Senanayake (2013) studied the effect of using Green tea extract at 50-100 ppm in roasted turkey burger. The changes of oxidation by analyzing the Thiobarbituric Acid Reactive Substances (TBARS) showed that green tea extract had lower TBARS than control samples without antioxidant. It was also found that the use of green tea extract at 150 ppm in roasted beef burger. Hexanal (a secondary product of lipid oxidation) can be inhibited during 13 days of storage.

 

Jo et al. (2003) found that the use of irradiation and non-irradiation freeze-dried green tea powder 0.1% in raw and cooked pork patties. The result was shown that both green tea extracts can prevent the change of red color intensity (Hunter a*) as well as inhibit the oxidation of the products. At the 95% confidence level compared to control samples without green tea extract added. In addition to the use of green tea extract in meat products to slow changes during storage, green tea extract can also be applied to a variety of products.

ร่วมแสดงความคิดเห็น U Share V Care เดือนพฤษภาคม 2561

ร่วมแสดงความคิดเห็น U Share V Care ลุ้นรับของกำนัล  Gift Voucher MK Restaurants 500 บาท  จำนวน 2 รางวัล

 

ลุ้นรางวัลกับเราได้ตามลิงก์ด้านล่างเลย อย่าลืมกรอกให้ครบ..นะคะ

https://goo.gl/forms/R6cE8aPNlDfamCo73

Ready Meals Dominate Frozen Foods Industry

อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน…ครองตลาดในอุตสาหกรรมอาหารแช่เยือกแข็ง

 

กองบรรณาธิการ

Editorial Team

Food Focus Thailand Magazine

editor@foodfocusthailand.com

Full article TH-EN 

 

Transparency Market Research เมืองออลบานี รัฐนิวยอร์ก ได้จัดทำรายงานในหัวข้อ “ตลาดอาหารแช่เยือกแข็ง” โดยศึกษาวิเคราะห์อุตสาหกรรมทั่วโลกในด้านขนาดตลาด ส่วนแบ่งตลาด การเติบโต แนวโน้ม และการคาดการณ์ในช่วงปี 2556-2562 ของกลุ่มผักและผลไม้แช่เยือกแข็ง ปลาและอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง มันฝรั่งแช่เยือกแข็ง เนื้อสัตว์แช่เยือกแข็ง อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานแช่เยือกแข็ง และซุปแช่เยือกแข็ง พบว่ามูลค่าตลาดอาหารแช่เยือกแข็งในปี 2555 อยู่ที่ 224.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมร้อยละ 3.9 ต่อปีในช่วงปี 2556-2562 และคาดว่าจะแตะยอด 293.75 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2562

 

ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานแช่เยือกแข็งดูทีท่าว่าจะครองตลาดอาหารแช่เยือกแข็ง เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น พิซซ่าแช่เยือกแข็ง ขนมขบเคี้ยวแช่เยือกแข็ง ขนมหวานแช่เยือกแข็ง อาหารจานหลักแช่เยือกแข็ง เป็นต้น โดยเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ และผู้บริโภคสามารถพกพาไปได้อย่างสะดวก ยกตัวอย่างเช่น

 

  • Better-for-you pizza alternatives

Champion Foods ในเมืองนิวบอสตัน รัฐมิชิแกน ได้ร่วมงานกับนักเขียนชื่อดัง Lisa Lillien แห่งนิวยอร์กไทมส์ ซึ่งหนังสือของเธอสร้างยอดขายสูงสุด นำเสนอพิซซ่าแช่เยือกแข็งในแบรนด์สาวน้อยผู้หิวโหย (Hungry Girl) พิซซ่าแต่ละชิ้นได้รับการแพ็คอย่างดี มีปริมาณที่พอเหมาะกับการบริโภคแต่ละครั้ง ประกอบด้วยโปรตีน ไฟเบอร์สูง แป้งพิซซ่ามีส่วนผสมของธัญพืชงอกที่มีความกรอบ ผสมผสานกับชีสจากอิตาลี มาในรสชีสและเปปเปอร์โรนี (ไส้กรอกชนิดแห้ง)

  • Authentic flavors

Suji’s Korean Cuisine ในเมืองโอมาฮา รัฐเนบราสกา วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเชื้อชาติที่พร้อมอุ่นให้ความร้อน มีทั้งรูปแบบแช่เย็นและแช่เยือกแข็ง เน้นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ปราศจากกลูเตน มีหลากหลายเมนูให้เลือกสรร เช่น บุลโกกิเนื้อวัว บุลโกกิเนื้อหมู ข้าวยำเนื้อเกาหลีหรือบิบิมบับเนื้อวัว เสริ์ฟพร้อมกิมจิ และข้าวยำหมูเกาหลีหรือบิบิมบับเนื้อหมู เกี๊ยวหมู และเกี๊ยวเนื้อ

  • Mexican foods go gluten free

อาหารเม็กซิกันก็จับกระแสปราศจากกลูเตนเช่นเดียวกัน โดยทาง StarLite Cuisine ได้ขยายไลน์สินค้าวีแกน ได้แก่ เอนชิลาดา (Enchiladas) ตากีโตส (Taquitos) และทาโก้ (Tacos) แช่เยือกแข็ง ปราศจาก GMO ปราศจากนม ปราศจากไขมันทรานส์ และปราศจากคอเลสเทอรอล

  • Handhelds

ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานที่สะดวกพกพาและพร้อมอิ่มภายในไม่กี่นาทีจาก Gardein ประเทศแคนาดา อาทิ ไก่กรอบ (Crispy Chick’n) ไส้กรอกปราศจากเนื้อสัตว์สไตล์อิตาเลียน (Italian Meat-Free Sausage) และ BBQ Pulled Porkless Shreds

  • Table for one

Beaver Street Fisheries, Inc. เมืองแจ็คสันวิลล์ รัฐฟลอริดา ได้ขยายไลน์สินค้าแบรนด์ Sea Best อาทิ Signature Singles ซึ่งเป็นอาหารจานหลักมาในเมนูอาหารทะเลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเชฟ

  • Layering concept

Sandridge Food Corp. เมืองเมดินา รัฐโอไฮโอ นำเสนอไลน์ใหม่ของอาหารจานหลักกับแนวคิด Layering Concept ผลิตแบบแบทช์เล็กๆ โดยใช้เทคนิค Layering ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการช่วยรักษาคุณค่าและความสมบูรณ์ของส่วนผสมต่างๆ จนกว่าผู้บริโภคจะรับประทาน ไลน์สินค้าประกอบด้วย พาสต้าไก่ย่าง สลัดถั่วลันเตาสไตล์ตอนใต้ มักกะโรนีและชีส สปาเก็ตตี้และลูกชิ้น พาสต้าสลัดสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน และสลัดถั่วตาดำ

  • Chef-crafted

Three Bridges เมืองเบนิเซีย รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ปฏิวัติอาหารพร้อมรับประทาน โดยนำเสนอไลน์อาหารแช่เย็นซึ่งสามารถเตรียมก่อนรับประทานโดยใช้เวลาเพียง 5 นาที มาในหลากหลายเมนู อาทิ ข้าวหมกไก่ มักกะโรนีฟักทองน้ำเต้าและชีส ข้าวอบไก่เสิร์ฟพร้อมไส้กรอกโชริโซและพริกแดงคั่ว เอนชิลาดาไก่ มักกะโรนีพริกจาลาปีโนและชีส เสริ์ฟพร้อมไส้กรอก และลาซานญาโหระพา พร้อมไส้กรอก ซุกินี และมอสซาเรลลาชีส

 

The global frozen food market is expected to be worth USD 293.75 billion by 2019, according to a study conducted and produced by Transparency Market Research, Albany, N.Y. The report, titled “Frozen Food Market (Vegetables & Fruits, Potatoes, Ready-to-eat Meals, Meat, Fish/Seafood and Soups) – Global Industry Analysis, Size, Share, Growth, Trends and Forecast, 2013-2019,” states that the frozen food market was valued at USD 224.74 billion in 2012, and will register a CAGR of 3.9% between 2013 and 2019. The report analyzes the frozen food market by product—frozen fruit and vegetables, frozen fish and seafood, frozen potatoes, frozen meat, frozen ready meals and frozen soup.

 

Within this segmentation, the frozen ready meals market is seen as the dominant one, mainly because it comprises an extensive range of frozen products such as pizza, snacks, desserts, entrées and more. Here’s a breakdown of new meals and entrées created with health-conscious, on-the-go consumers in mind.

 

  • Better-for-you pizza alternatives

Champion Foods, New Boston, Mich., partnered with New York Times best-selling author Lisa Lillien to launch the Hungry Girl brand of individual better-for-you frozen pizzas. Each pizza is individually packaged for portion control, packed with protein, enriched with fiber and features a crispy sprouted-grain crust and an Italian five-cheese blend. It comes in Cheese and Pepperoni.

 

  • Authentic flavors

Suji’s Korean Cuisine, Omaha, Neb., launched new ready-to-heat ethnic dishes, available in refrigerated and frozen formats. These all-natural, gluten-free meals come in Savory Beef Bulgogi, Pork Bulgogi, Beef Bibimbap Rice Bowl and Kimchi & Pork Bulgogi Rice Bowl and Pork Dumplings and Beef Dumplings.

 

  • Mexican foods go gluten free

StarLite Cuisine expanded its line of vegan, non-GMO, non-dairy, trans-fat-free and cholesterol-free frozen enchiladas, taquitos and tacos.

 

  • Handhelds

Canada-based Gardein introduced new pocket meals, ready in minutes and available in Crispy Chick’n, Italian Meat-Free Sausage and BBQ Pulled Porkless Shreds.

 

  • Table for one

Beaver Street Fisheries Inc., Jacksonville, Fla., expanded its Sea Best brand to include Signature Singles, a line of sophisticated, chef-inspired, single-serve seafood entrées.

 

  • Layering concept

Sandridge Food Corp., Medina, Ohio, launched a new line of freshly prepared entrées that feature a “new-to-market” layering concept. The Layered Selections line is produced in small batches using a strategic and proprietary layering technique that preserves the integrity of the individual ingredients until the consumer is ready to use. The line includes Grilled White Chicken Pasta Alfredo, Southern Style Three Bean Salad, Cheesy Mac & Cheese, Spaghetti & Meatballs, Mediterranean Style Pasta Salad and Black Eyed Pea Salad.

 

  • Chef-crafted

Three Bridges, Benicia, Calif., modernized mealtime with its new refrigerated line of chef-crafted pastas, sauces and meals, which can be prepared in just five minutes. Offerings include Chicken with Yellow Rice, Butternut Squash Mac & Cheese, Chicken Paella with Chorizo & Roasted Red Peppers, Chicken Enchilada Casserole, Sausage and Jalapeño Mac & Cheese and Sausage & Basil Lasagna with Zucchini & Mozzarella Cheese.

Revision of Regulation on Labeling of Prepackaged Foods: Notification of the Ministry of Public Health (No.383) B.E.2560 (2017) Re: Labeling of Prepackaged Foods (No.2)

การปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับการแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ: ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 383) พ.ศ.2560 เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ (ฉบับที่ 2)

  

สำนักอาหาร 

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

Bureau of Food

Food and Drug Administration, Ministry of Public Health

food@fda.moph.go.th

 Full article TH-EN  

 

กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ปรับปรุงข้อกำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่อง ฉลาก โดยออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 383) พ.ศ.2560 เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ (ฉบับที่ 2) เพื่อให้แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการแสดงฉลากของอาหารมีรายละเอียดที่เหมาะสมในการคุ้มครองประโยชน์ผู้บริโภคและการให้ข้อมูลกับผู้บริโภค โดยใช้หลักการตามมาตรฐานของโคเด็กซ์ เรื่อง มาตรฐานทั่วไปสำหรับการแสดงฉลากอาหารในภาชนะบรรจุ (General standard for the labeling of prepackaged foods-CODEX STAN 1-1985 (Rev.1-1991)) ซึ่งในนิตยสารฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์ ฉบับเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2558 ได้สรุปสาระสำคัญของประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 367) พ.ศ.2558 เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ ไว้แล้ว ดังนั้น ในบทความฉบับนี้จะกล่าวถึงเฉพาะรายละเอียดของข้อกำหนดที่มีการปรับแก้ไขเพิ่มเติมไปจากประกาศฉบับเดิม ดังนี้

 

  1. การแสดงข้อมูลสารก่อภูมิแพ้ (ข้อ 4(6)) สามารถแสดงข้อมูลผู้แพ้อาหาร ได้เป็น 2 กรณี

 

  1. การแสดงข้อมูลวัตถุเจือปนอาหาร (ข้อ 4(7)) สามารถแสดงข้อมูลวัตถุเจือปนอาหาร ได้เป็น 2 กรณี

 

  1. การแสดง วัน เดือน และปี (ข้อ 4(9))

 

  1. การแสดงส่วนประกอบของอาหารที่จำหน่ายให้กับผู้ผลิตอาหาร เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหาร

 

  1. ข้อ 11 การแสดงข้อความกล่าวอ้างบนฉลากเกี่ยวกับสารหรือส่วนประกอบอื่นใดในอาหาร ต้องไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในผลิตภัณฑ์

 

  1. ข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดตัวอักษร (ข้อ 14)

 

  1. กำหนดเพิ่มเติมข้อ 4/1 ให้ผู้ผลิต ผู้นําเข้า หรือผู้จําหน่าย ต้องไม่จําหน่ายอาหารที่พ้นกําหนดวันหมดอายุ หรือควรบริโภคก่อนตามที่แสดงไว้ในฉลาก

 

  1. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 383) พ.ศ.2560 เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ (ฉบับที่ 2) มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2560 ยกเว้นข้อ 14 (4) มีผลใช้บังคับวันที่ 5 เมษายน 2562

 

  1. อาหารในภาชนะบรรจุที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้องตามประกาศฉบับนี้ ถือว่าเป็นการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ฝ่าฝืนประกาศซึ่งออกตามมาตรา 6(10) ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท

 

 

The Food and Drug Administration (Thai FDA) has issued a revision of the regulation on labeling in the Notification of the Ministry of Public Health (No.383) B.E.2560 (2017) Re: Labeling of Prepackaged Foods (No.2) in order to ensure adequate guidelines on food labeling conducive to consumer protection and information provision under the general standard for the labeling of prepackaged foods-CODEX STAN 1-1985 (Rev.1-1991). Since the summary of the Notification of the Ministry of Public Health (No.367) B.E.2558 (2015) Re: Labeling of Prepackaged Foods was already published in the May 2015 by Food Focus Thailand magazine, this article will therefore focus on the details of the regulations that have been revised from the previous notification as follows:

 

  1. Allergens information texts (Clause 4(6)) can be presented in two different ways

 

  1. Food additives declaration texts (Clause 4(7)) can be presented in two different ways

 

  1. Declaration of date, month and year (Clause 4(9))

 

  1. Declaration of ingredients of foods that are sold to manufacturer and used as raw materials is exempted from showing percentage of ingredients on label, but other information as required by the Notifications of the Ministry of Public Health shall be fully declared in instruction manuals or documents for manufacturer accordingly.

 

  1. Clause 11: Declaration of claims of any substances or other food compositions on label shall not provide misleading information of product, not be applied to prohibited foods listed in the Notifications of the Ministry of Public Health, or the nature of such foods do not contain a particular claimed substances or foods whose manufacturing process does not generate claimed substances to prohibited substances listed in the Notifications of the Ministry of Public Health.

 

  1. Regulations on letter size (Clause 14)

 

  1. Additional regulation in Clause 4/1 stipulates that manufacturer, importer or distributor shall not sell food that exceeds expiration date or consume before date shown on label.

 

  1. Notification of the Ministry of Public Health (No.383) B.E.2560 (2017) Re: Labeling of Prepackaged Foods (No.2) shall come into force from 5th April B.E.2560 (2017) in exception with Clause 14(4) which shall come into force on 5th April B.E.2562 (2019).

 

  1. Prepackaged food not labeled in accordance with the stipulated regulations in this notification shall be deemed non compliance with the notification issued under Clause 6(10). Violator is subject to fine of not more than THB 30,000.

 

พาณิชย์เดินหน้าขับเคลื่อน Creative Economy เผยเตรียมเยือนสหราชอาณาจักร แสวงหาความร่วมมือ เชื่อมโยงโอกาสธุรกิจ

สหราชอาณาจักร, 10 – 15 เมษายน 2561

 

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรในระหว่างวันที่ 10 – 15 เมษายน 2561 ที่ผ่านมานี้ว่า การเดินทางดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแสวงหาความร่วมมือด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์หรือ Creative Economy โดยจะพบหารือกับหน่วยงานของ สหราชอาณาจักรที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการด้านองค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม ตลอดจนการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

“ภาคธุรกิจสร้างสรรค์ของสหราชอาณาจักรถือได้ว่าประสบความสำเร็จ ก่อให้เกิดการจ้างงาน การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ รวมถึงการพัฒนาด้านนวัตกรรม การเยือนสหราชอาณาจักรในครั้งนี้ จะเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการขับเคลื่อน Creative Economy ของทั้งสองประเทศ โดยมุ่งหวังให้เกิดความร่วมมือและเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการของไทย ตลอดจนเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในชุมชนฐานราก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

 

นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้รับผิดชอบการดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์หรือ Creative Economy ของกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หน่วยงานสำคัญที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มีกำหนดเข้าพบและหารือ ประกอบด้วย ผู้จัดงาน London Craft Week ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร จัดงานแสดงผลงานด้านหัตถรรมที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์จากสหราชอาณาจักรและประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมกว่า 200 ราย โดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในปีนี้เป็นครั้งที่ 4 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม 2561 ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศอยู่ระหว่างหารือกับผู้จัดงาน London Craft Week ถึงความร่วมมือในการจัดงานลักษณะเดียวกันในประเทศไทย

 

หน่วยงานที่สองได้แก่ Creative England  เป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ โดยร่วมกับพันธมิตรและนักลงทุนจากบริษัทเอกชนต่างๆ ให้บริการและสนับสนุนด้านเทคนิค สร้างเครือข่าย เชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่นในระดับประเทศและนานาชาติ หน่วยงานที่สามได้แก่  Cockpit Arts เป็นศูนย์บ่มเพาะทางธุรกิจสำหรับนักสร้างสรรค์งานหัตถศิลป์แห่งเดียวในสหราชอาณาจักร ทำหน้าที่สนับสนุนผู้ที่เริ่มต้นอาชีพและผู้ที่ได้จัดตั้งธุรกิจแล้วให้ประกอบธุรกิจได้ทั้งในและต่างประเทศ และหน่วยงานที่สี่ ได้แก่ Nesta เป็นองค์กรการกุศลด้านนวัตกรรม ทำหน้าที่แสวงหาแนวทางและแก้ไขปัญหาความท้าทายในปัจจุบัน เช่น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การบริการสาธารณะ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกำหนดเยือนเมืองคาร์ดีฟซึ่งเป็นเมือง Creative City ที่สำคัญของสหราชอาณาจักร เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาพื้นที่ในภูมิภาคของไทยสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ต่อไป

 

สำหรับการค้าระหว่างประเทศของไทยกับสหราชอาณาจักรในปี 2560 มีมูลค่ารวม 7,019.90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 4,079.21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการนำเข้ามูลค่า 2,940.69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ช่วง 2 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม – กุมภาพันธ์) ไทยส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรมูลค่า 676.13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ และแผงวงจรไฟฟ้า ด้านการนำเข้ามีมูลค่า 469.63 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าสำคัญได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่ น้ำอัดลมและสุรา เครื่องจักรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม

 

 

 

Standards Bolstering Thailand to Become Global Prominent “Food” Exporter

มาตรฐานที่สนับสนุนให้ไทยเป็นประเทศส่งออก “อาหาร” ที่สำคัญของโลก

 

บริษัท แมททีเรียล เวิร์ล จำกัด

Material World Co., Ltd.

sales@materialworld.co.th

Full article TH-EN 

 

“ครัวโลก” คือ คำกล่าวที่สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่สามารถผลิตอาหารเพื่อตอบสนองความต้องการให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ ด้วยความได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์ที่ตั้งของประเทศไทย ประกอบกับศักยภาพในการพัฒนาด้านธุรกิจอาหาร ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่ปัจจุบันมีความก้าวหน้า มีความหลากหลาย มีประสิทธิภาพ มีสมรรถภาพสูงเข้ามาช่วยเสริมทั้งในเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคงทางด้านอาหาร ทำให้วันนี้ประเทศไทยมีความโดดเด่น ไม่เพียงเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน แต่รวมถึงในตลาดโลก นอกจากนี้ยังเป็นที่ต้องการของประเทศกำลังพัฒนาในการให้ไทยเข้าไปลงทุนอีกด้วย

 

เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารมีความปลอดภัยและได้มาตรฐานตลอดทุกขั้นตอน มาตรฐานการรับรองจากสถาบันต่างๆ  อันได้แก่ มาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ ISO 9001:2008 มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14000 มาตรฐาน HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point หรือระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดควบคุมที่สำคัญในการผลิตอาหาร มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice หรือ หลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิต) มาตรฐาน BRC (British Retail Consortium หรือสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร รวมถึงมาตรฐานอาหารฮาลาล จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการคำนึงถึงเป็นหลัก เพื่อให้ขั้นตอนการผลิตอาหารถูกต้อง ปลอดภัย และสะท้อนถึงความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม

นอกเหนือจากความใส่ใจในกระบวนการผลิตแล้ว ขั้นตอนการขนส่งและเคลื่อนย้ายสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องยังเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึง ทั้งนี้ เพื่อต้นทุนในการบริหารจัดการที่คุ้มค่าสูงสุด และถึงมือผู้บริโภคได้อย่างปลอดภัย ทำให้สินค้าและอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์เหล่านี้เป็นที่ต้องการมากขึ้น อาทิ ถุงลมป้องกันการโค่นล้มระหว่างการขนส่ง1 (Cargo air bag) ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องการการโค่นล้มของสินค้าระหว่างการขนส่งสินค้าจากผู้ผลิตไปยังประเทศปลายทาง เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบรรจุตู้สินค้า ทดแทนการตีไม้ หรือการรัดเชือกปิดท้ายตู้ อันเป็นการเติมเต็มช่องว่างแบบที่นิยมทั่วไป

 

 

“Kitchen of the World” is a word that reflects how Thailand is a major food producer that answers to the global demands. With its geographical advantage, Thailand also has the potential to develop food industry using advance, diverse, effective, high performance technology to ensure food safety and food security. This has made Thailand outstanding, not only in ASEAN, but in the global market. Not only that, developing countries are also hoping to attract investment from Thailand.

 

To ensure the food related products are safe and standardised, certifications from various institutions such as ISO 9001:2008, ISO 14000, Hazard Analysis and Critical Control Point (HACCP), Good Manufacturing Practice (GMP), British Retail Consortium (BRC), and Halal, are something enterprises prioritise to make sure that food production process is correct, safe, and reflects environmental concern.

 

In addition to the attentiveness in the production process, transportation, logistics, and packaging must also be considered by enterprises in order to maximise cost efficiency and ensure that the products arrived to the customers safely. Hence, products and tools that fulfil these quests are in demands. Cargo airbag1, for example, which prevents the tumble of goods during transportation, enhances container capacity and replaces old fashioned wooden trunk and straps.

สสว.จับมือสถาบันอาหาร หนุนเครือข่าย SME กลุ่มมะพร้าวและกล้วย คาดสร้างมูลค่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจกว่า 50 ล้านบาท

กรุงเทพฯ, 23 เมษายน 2561

 

สสว. ผนึกสถาบันอาหาร ขับเคลื่อนโครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ปี 2561 หนุนรวมกลุ่มธุรกิจเกษตรมะพร้าวต่อเนื่องจากปี 2560 หลังสร้างยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท เพิ่มเครือข่ายใหม่กลุ่มธุรกิจเกษตรกล้วย ตั้งเป้ารวม 17 เครือข่าย มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรม ช่วยพัฒนาคุณภาพการผลิต การแปรรูป การเก็บรักษา สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ มั่นใจ SME ได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 2,300 ราย  คาดเกิดการลงทุน และการจ้างงานเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 10 เชื่อช่วยลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจได้ถึง 70 ล้านบาท และเกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท

 

สำหรับกลุ่มเครือข่ายมะพร้าว เป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากปี 2560 ซึ่งมีเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการเข้าร่วมเป็นสมาชิกแล้ว 3,300 ราย สร้างการรวมกลุ่มได้ 26 เครือข่าย พัฒนาผู้ประสานงานเครือข่าย 80 ราย เพิ่มพื้นที่ปลูกใหม่ได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ ส่งเสริมการทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างยอดขายเบื้องต้นได้ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์มะพร้าวแปรรูป ซึ่งในปี 2561 นี้จะเป็นการต่อยอดขยายผล โดยการคัดเลือกเครือข่ายกลุ่มมะพร้าวเดิมบางส่วนมาเข้าร่วมกิจกรรมกับเครือข่ายรายใหม่ เพื่อเพิ่มพื้นที่ปลูกใหม่ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามแผนต่อไป

 

ส่วนกลุ่มเครือข่ายกล้วย เป็นการดำเนินการปีแรก  โดยกล้วยที่เกษตรกรนิยมปลูก ได้แก่ กล้วยหอม กล้วยไข่ และกล้วยน้ำว้า มีผลผลิตรวมกันมากกว่า 1.5 ล้านตันต่อปี เพื่อรองรับความต้องการบริโภคกล้วยสดของตลาดต่างประเทศ โดยพบว่าในปี 2560 ที่ผ่านมา ไทยมีมูลค่าส่งออกกล้วยสดราว  467 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 41 เป็นการส่งออกไปจีนสูงสุดที่มูลค่า 340 ล้านบาท รองลงมาคือ ญี่ปุ่น 65 ล้านบาท และฮ่องกง 44 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังมีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากกล้วยในลักษณะของสินค้าโอทอปประจำท้องถิ่นนั้นๆ เพื่อการบริโภคในประเทศเป็นหลัก

ทั้งนี้โครงการฯ จะเข้าไปส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการเพาะปลูกกล้วย เพื่อรักษาคุณภาพผลผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด ตามมาตรฐานการส่งออก การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการเก็บรักษา การยืดอายุ การดูแลบรรจุภัณฑ์ โดยส่งเสริมให้เกษตรกรมีการปลูกกล้วยโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม(GAP) มีการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์กล้วยให้ได้คุณภาพมากขึ้น ตลอดจนการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งในมิติของขนมขบเคี้ยว อาหารหวาน เป็นต้น

 

สถาบันอาหารได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานดำเนินการโครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ในกลุ่มอุตสาหกรรมมะพร้าวและกล้วย ปี 2561 ขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดรับสมัครและคัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการจำนวน 2,300 ราย เพื่อให้เกิดการรวมกลุ่ม  17 เครือข่ายตามเป้าหมาย แบ่งเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมะพร้าว 1,350 ราย และอุตสาหกรรมกล้วย 950 ราย  โดยสถาบันอาหารจะนำผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการที่เกี่ยวข้องไปจัดอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพการดำเนินการธุรกิจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ อาทิ จัดอบรมหลักสูตรมาตรฐานการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาคลัสเตอร์ การตลาดและการสร้างแบรนด์เชิงสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังให้การส่งเสริมขยายช่องทางการตลาดทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ได้แก่ การนำสินค้าไปจำหน่ายในงานแสดงสินค้าต่างประเทศ หรือจัดให้มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ เป็นต้น

 

ผู้ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ทาง www.nfi.or.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณโกสีย์ และคุณภาสกร โทรศัพท์  02 422 8688 ต่อ 9206-7  E-mail : khosee@nfi.or.th , patsakorn.ball@gmail.com

                                                                                   

Semi-Automatic Weigh-Wrap-Labeler Technology

เทคโนโลยีเครื่องห่อฟิล์ม-ชั่งน้ำหนัก-ติดฉลากสินค้าแบบกึ่งอัตโนมัติ

  

ธิดาพร ทองเรือง

Tidabhorn Tongruang

Head of Sales Engineer

Thai Scale Co., Ltd.

mec.tsc@gmail.com

 Full article TH-EN 

 

ปัจจุบันเทคโนโลยีเครื่องห่อฟิล์ม-ชั่งน้ำหนัก-ติดฉลากสินค้าแบบกึ่งอัตโนมัติ1 นั้นได้รับการพัฒนาให้มีความยืดหยุ่นสูง มีแผงซีลความร้อนและระบบลมภายในเครื่อง จึงไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ต่อพ่วงใดๆ อีกโดยเครื่องห่อฟิล์ม-ชั่งน้ำหนัก-ติดฉลากสินค้าแบบกึ่งอัตโนมัติ1 ออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้ห่อฟิล์มกับสินค้าที่บรรจุลงถาดหรือสินค้าที่ไม่ได้บรรจุลงถาด อาทิ ผักผลไม้ประเภทต่างๆ ซึ่งผลที่ได้คือ บรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและเป็นที่น่าสนใจ

 

สามารถห่อฟิล์มสินค้าได้หลากหลายประเภท

เนื่องจากปัจจุบันสินค้าอาหารมีความหลากหลาย เครื่องห่อฟิล์ม1 จึงออกแบบมาเพื่อให้สามารถห่อได้ทั้งสินค้าที่มีถาดและไม่มีถาดรองรับ รวมถึงสินค้าที่มีรูปทรงไม่สม่ำเสมอ เช่น ผลไม้ ชีส โดยสินค้าทั้งหมดนี้จะถูกห่อและติดฉลากไว้อย่างสวยงามและรวดเร็ว

 

ใช้งานง่าย

นอกจากนี้ เทคโนโลยีของเครื่องยังมีจอแสดงผลที่ใช้งานง่าย สามารถสร้างและพิมพ์ฉลากได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว ผู้ใช้งานสามารถดูตัวอย่างฉลากได้จากหน้าจอขนาด 12.1 นิ้ว

 

ทำความสะอาดง่าย

เป็นที่ทราบว่าเรื่องความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ค้าปลีกอาหาร และนั่นก็เป็นเหตุผลสำคัญที่เครื่องห่อฟิล์ม1 ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่าย ชิ้นส่วนที่สัมผัสกับอาหารโดยตรงสามารถถอดออกเพื่อล้างทำความสะอาดได้ภายในไม่กี่วินาที

 

ฉลากที่ดึงดูดสายตาลูกค้า

ทางด้านเทคโนโลยีงานพิมพ์ เครื่องดังกล่าวมีความละเอียดของการพิมพ์ 300 dpi ทำให้ตัวอักษรและภาพบนฉลากคมชัดและอ่านง่าย นอกจากนี้ เทคโนโลยีฉลากชนิด Linerless ยังทำให้สามารถปรับขนาดของฉลากให้พอดีกับข้อความและรูปภาพที่กำหนดไว้ได้ และสามารถปรับเปลี่ยนความยาวของฉลากได้ตามขนาดที่ต้องการด้วย

 

Flexibility is supreme in the latest generation of semi-automatic weigh-wrap-labelers1. Able to work with fragile trays, irregular shapes, and even items without trays, the machine1 packs even more efficiency and usability into its small footprint. The automatic popular pick-pack system is complemented by new hardware enhancements such as a larger impulse heat sealer and double the air supply. The result is a durable, attractive package.

 

Handles a Wide Range of Wrapping Needs

The machine1 is superb at wrapping a challenging array of products. Fragile trays, irregularly-shaped trays, and even items without trays like whole fruits and cheeses are quickly and beautifully wrapped and labeled. The result is savings in film, power, and labor.

 

Ease of Use for Operators

The user interface of machine supports users as they respond quickly to store needs. With fewer screens to tap through, labels are quick and simple to create and print, even for first-time users of weigh-wrap-labelers. Operators can preview the label right on the 12.1” full-color display and print only what is needed.

 

Easy Clean-Up, Every Time

For food retailers, cleanliness is crucial. That’s why the machine1 is designed to be incredibly easy to clean. The parts that come into direct contact with food can be removed in seconds and washed in water. Also, the entire unit sits well clear of the floor to accommodate mopping and sweeping.

 

Catch the Shopper’s Eye While Saving on Labels

The machine1automatically adjusts the label size to fit various amounts of text and graphics. Custom labels are printed on a continuous roll of linerless labels and cut according to the size needed. The new, higher resolution of 300 dpi makes the fine print for nutrition and allergen information crisp and easy to read. There’s even a twin-labeler option for POP labelling.

Antioxidant from Grape Seed

สารสกัดจากเมล็ดองุ่นขาว…สุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระ

 

นริสรา เทวกุล ณ อยุธยา

Narissara Devakul Na Ayudhya

Technical Manager, Food & Beverage

Brenntag Ingredients (Thailand) Public Company Limited

narissara.devakulnaayudhya@brenntag-asia.com

Full article TH-EN 

 

Grape Seed Extracta คือ สารสกัดจากเมล็ดองุ่นขาวที่เก็บเกี่ยวได้จากเมืองแชมเปญประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีปริมาณโปรไซยานิดิน (Procyanidin) สูง ประกอบไปด้วยอนุพันธ์เดี่ยวของคาเทชิน (Catechin) อิพิคาเทชิน (Epicatechin) อนุพันธ์คู่ของโปรไซยานิดินและอนุพันธ์เชิงซ้อนที่สามารถระบุชนิดและควบคุมได้โดยการวิเคราะห์ด้วย HPLC

 

โปรไซยานิดินมีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง สามารถจับกับอนุมูลอิสระได้ดี อนุมูลอิสระนั้นถูกผลิตขึ้นตลอดเวลาจากการทำงานของเซลล์ภายในร่างกาย แต่หากถูกผลิตออกมาในจำนวนที่มากจนเกินไปก็จะส่งผลให้เกิดโรคได้ [1]

 

OPC จากเมล็ดองุ่นมีความสามารถในการจับกับอนุมูลอิสระได้สูง ยับยั้งการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อ และการเสื่อมสภาพของ DNA ได้ดีกว่าเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และวิตามินอี [2] โดยคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของ Grape Seed Extracta ได้รับการทดสอบทั้งในห้องทดลองและในสัตว์ทดลองของมหาวิทยาลัย Montpellier ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งพบว่า Grape Seed Extracta มีค่าความสามารถในการจับอนุมูลอิสระ (Oxygen Radical Absorbance Capacity; ORAC) สูง และยังสามารถยับยั้งการเกิดซูเปอร์ออกไซด์แอนไอออน (Superoxide anion) ภายในเซลล์ในหลอดทดลองได้อีกด้วย [3]

 

Grape Seed Extracta is a highly standardized procyanidin extract, obtained from white grape seeds harvested exclusively in France, in Champagne area. It contains monomers of catechin and epicatechin, procyanidin dimers, trimers and polymers identified and controlled by HPLC test method.

 

Procyanidins have been reported to exhibit strong antioxidative and free radical scavenging activities. Free radical production occurs continuously in all cells as part of normal cellular function, but in excess free radical production might play a role in many diseases[1].

 

Oligomeric procyanidins (OPC) from grape seeds have been shown to be a stronger free radical scavenger, inhibitor of tissue oxidation and DNA damage than ß-carotene, vitamin C and vitamin E [2]. Specific antioxidant properties of Grape Seed Extracta have been tested in vitro and in animal studies in collaboration with the Medical School and the Nutrition Department of the University of Montpellier, in France. Grape Seed Extracta has a high ORAC value TE per g and can inhibit the production of superoxide anions in vitro on cells [3].