Consumer Trends Driving Huge Demand for Protein in Thailand

เทรนด์โปรตีนในไทยมาแรง หนุนตลาดผลิตภัณฑ์โปรตีนจากนมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคึกคัก

Hamish Gowans
General Manager, South-East Asia
Fonterra (SEA) Pte. Ltd.
hamish.gowans@fonterra.com

Full article TH-EN

ตลาดผลิตภัณฑ์โปรตีนจากนมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถือว่าค่อนข้างใหม่เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาและยุโรป แต่ก็พบว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและมีความน่าสนใจสำหรับผู้ผลิตส่วนผสมอาหารประเภทโปรตีนสูงอยู่ไม่น้อย โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 11.5 ต่อปี ในขณะที่ตลาดทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการเติบโตร้อยละ 6.9 ซึ่งจะเห็นได้ว่าเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นมูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์โปรตีนจากนมมีอัตราการเติบโตมากทีเดียว ทั้งนี้พบว่าประเทศไทยเป็นตลาดหลักของผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าว รองมาคือ อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ตามลำดับ เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีประชากรที่ให้ความสนใจในเรื่องของสุขภาพและการมีสุขภาวะที่ดี สภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น รวมถึงรัฐบาลของประเทศเหล่านี้ยังให้ความสนใจกับกลุ่มประชากรสูงอายุและส่งเสริมให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีจากการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการตามวัย

ผลิตภัณฑ์โปรตีนสูงในไทยกำลังได้รับความนิยม
เนื่องจากตลาดส่วนผสมอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังเป็นที่จับตามองของผู้ผลิตส่วนผสมอาหารจากทั่วโลก ซึ่งต่างให้ความเห็นว่าตลาดในภูมิภาคนี้กำลังเติบโตและผู้บริโภคมีความหลากหลาย โดยเฉพาะผู้บริโภคชาวไทยที่ให้การยอมรับและแสวงหาผลิตภัณฑ์โปรตีนสูงมีมากขึ้นอันเนื่องจากความสนใจในการมีสุขภาพดี หรือการสร้างรูปร่างให้ฟิตและเฟิร์มได้สัดส่วน นอกจากนี้พวกเขายังให้ความสนใจเรื่องส่วนผสมอาหารประเภทโปรตีนที่มาจากธรรมชาติ (Clean label) มากขึ้นด้วย

Dairy protein market in Asia Pacific is relatively new, compared to the U.S. and Europe. However, positive growth rate is perceived, and the trend proves attractive to high protein food manufacturers. In Asia Pacific, market for dairy products with high proteins grows 11.5% year on year, while the global market worth USD20 million and expands at the speed of 6.9%. Noticeably, the market value for dairy proteins in Asia Pacific is considerably seeing prominent growth. It is also found that Thailand is the main market for the products, followed by Indonesia and Singapore, as the population of the named countries are concerned with health and well-being. With the improving economic climate and increasing income, their quality of life is improving. Not only that, the government of these countries also keep elderly population in mind, and encourage them to consume beneficial and nutritious food for good health.

High Protein Products Gaining Reputation in Thailand
As Asia Pacific’s food ingredient market is being watched by food manufacturers from around the globe, many agree that this market is continually growing with diversity of consumers. Thai consumers, particularly, are seeking more of high protein products due to health conscious and fit-and-firm body image trends. Moreover, they also keen to check on protein ingredients from clean label products.

Application for Maximizing Process Efficiency

การประยุกต์ใช้แอพพลิเคชัน เพื่อประสิทธิภาพการผผลิตสูงสุด
Thammanoon Tripetchr
Managing Director
Harn Engineering Solutions Pcl.

Full article TH-EN

ดิจิทัลเทคโนโลยี และ Industry 4.0 กำลังปฏิรูปในหลายแง่มุมของโลกที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของ Industry 4.0 คือการผสานรวมกันของระบบอุปกรณ์และกระบวนการผลิตของโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ที่ก่อให้เกิดสินค้าหลากหลาย และมีเทคโนโลยีต่างๆ ให้เลือกใช้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อเป็นการตัดสินใจลงทุนคุ้มค่าในระยะยาว (Life-time value) และสิ่งสำคัญคือ จะต้องก่อให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพต่อคนและเวลา
ในหลายๆ กระบวนการผลิตอัตโนมัติมักจะเป็นกระบวนการที่เป็นอิสระต่อกัน แต่เทคโนโลยี loT หรือ ดิจิทัลเทคโนโลยีทำให้ระบบเหล่านี้เชื่อมต่อกันและสื่อสารถึงกัน และเมื่อนำมาเชื่อมต่อกับระบบควบคุมรวมของโรงงานที่จะเชื่อมต่อทุกๆ ส่วนของโรงงาน หรือจากหลายโรงงานเข้าด้วยกัน ผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตก็จะเป็นกระบวนการทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น ดิจิทัลเทคโนโลยีจึงมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ที่เครื่องและอุปกรณ์ต้องรองรับการสื่อสารกับ ERP หรือระบบและอุปกรณ์ต่างๆ ภายนอกได้

ปัจจุบัน มีแอพพลิเคชันที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมา1 ที่สามารถสื่อสารจากศูนย์บริการของบริษัทกับเครื่องผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต ส่วนผู้ใช้จะมีแอพพลิเคชันที่แสดงสถานะบนอุปกรณ์ต่างๆ ได้เช่น มือถือ แท็บเล็ต โน๊ตบุ๊ค แสดงสถานะเครื่องที่ติดตั้งใช้งานอยู่ภายในโรงงานมีประสิทธิภาพเป็นอย่างไร มีข้อความแจ้งเตือนอะไรบ้างหรือไม่ วัสดุสิ้นเปลืองต้องเปลี่ยนในอีกกี่ชั่วโมงข้างหน้าและในส่วนของทีมบริการก็จะเห็นข้อมูลจากแพลตฟอร์มเดียวกัน ดังนั้น ผู้ใช้ บริษัท และวิศวกรภาคสนามจะได้รับข้อมูลพร้อมกันและเหมือนๆ กัน อันก่อให้เกิดความรวดเร็วและความชัดเจนของข้อมูล

Digital technology – Industry 4.0 is revolutionizing many aspects of the world we live in today. One of the key elements of Industry 4.0 is the integration of factory equipment, systems and processes to increase production efficiency and widen the range of products and technologies to choose from. Owners have to decide for suitable technologies. More importantly, efficient labor and time costs must be presented. It is a comprehensive analysis aiming at customer’s benefits.

Multiple automated manufacturing processes often evolve in silos, but the Internet of Things (IoT) demands that these systems communicate together and with plant-wide control systems and connect all parts of the factory together and collectively by internet to operate efficient business in the future, the priority is digital technology; devices and equipment distributed by the company must be ready to connect with company ERP or external system and equipment.

Today, there is an application which is newly developed1 to communicate from the company’s HQ to machines in the field as well as users and service team. Users will have an application that shows the status on devices such as mobile phone, tablet, and notebook, allowing them to check the equipment efficiency, warning messages, and hours left for next consumable change. The field engineer, on the other hand, will see the information from the same platform. Users, company, and field engineer will receive the same information, thus resulting in speed and transparency of the data.

Food&HotelAsia 2018 Returns even Bigger and Better in its 40th Year

Food&HotelAsia 2018
กลับมาอีกครั้ง ยิ่งใหญ่กว่า และก้าวไกลกว่าในปีที่ 40

Translated By:
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine

Full article TH-EN

ฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งความเป็นเลิศทางธุรกิจของ Food & HotelAsia (FHA) งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติที่ตอบโจทย์นักอุตสาหกรรมในกลุ่มธุรกิจสินค้าอาหารและบริการ ตลอดจนเครื่องมือ อุปกรณ์ และโซลูชันที่เกี่ยวข้อง โดยในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 24-27 เมษายน 2561 ณ Singapore Expo และ Suntec Singapore

งาน FHA ในครั้งนี้จัดเต็มพื้นที่กว่า 119,500 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากเดิม 97,000 ตารางเมตร โดยจะเป็นจุดนัดพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกว่าทุกครั้งของเหล่าผู้ร่วมแสดงสินค้าระดับนานาชาติกว่า 4,000 ราย จากกว่า 70 ประเทศและภูมิภาค ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับงานในครั้งที่ผ่านมา ขณะนี้ผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศถึง 68 กลุ่ม ได้ยืนยันเข้าร่วมจัดแสดงสินค้า ครอบคลุมสถานที่จัดงานทั้ง 2 แห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับ 2 ประเทศน้องใหม่ คือ อาร์เมเนีย และกาตาร์ ด้านผู้เข้าเยี่ยมชมงานคาดว่าจะแตะยอด 78,000 ราย จากกว่า 100 ประเทศและในภูมิภาค

นอกเหนือจากการเป็นจุดนัดพบเพื่อสรรหาสินค้าและบริการที่น่าสนใจแล้ว FHA ยังมีเครือข่ายต่างๆ มากมาย โดยเป็นโอกาสแห่งการเรียนรู้ทั้งส่วนจัดแสดงสินค้าโซนใหม่ และโซนพิเศษที่ปรับปรุงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันระดับอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน อาทิ FHA Culinary Challenge (FCC) 2018 และ Asian Pastry Cup 2018 ผู้เข้าร่วมแข่งขันนำโดย Thailand Culinary Academy ซึ่งเข้าร่วมแข่งขันในประเภท Gourmet Team และ National Team Challenges ในรายการ FHA Culinary Challenge อีกด้วย

การประชุมนานาชาติ FHA2018 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 24-26 เมษายน 2561 ในสถานที่จัดงานทั้ง 2 แห่ง โดยมีผู้เชี่ยวชาญในวงการและผู้นำด้านความคิดทางธุรกิจมาแลกเปลี่ยนมุมมอง ประสบการณ์ และข้อแนะนำต่างๆ อีกด้วย

Celebrating 40 years of business excellence, Food&HotelAsia (FHA) is the preferred choice for industry professionals to access an international showcase of food and hospitality products, equipment and solutions. The 21st edition of the mega food and hospitality showcase returns from 24 to 27 April 2018 to two venues – Singapore Expo and Suntec Singapore.

It will house its biggest-ever industry congregation with 4,000 international exhibitors from more than 70 countries and regions, an increase of 25% compared to its last edition. The event’s total floor area spans 119,500 sqm, 23% increase from 97,000 sqm. 68 international groups are confirmed and spread across the two venues, with Armenia and Qatar being the newest countries to participate. 78,000 trade attendees from over 100 countries and regions are expected at the 2018 edition.

Beyond the traditional sourcing ground, FHA also offers many experiential networking and learning opportunities through new and improved speciality zones and industry-renowned competitions such as the FHA Culinary Challenge (FCC) 2018 and Asian Pastry Cup 2018. Competitors led by Thailand Culinary Academy will be participating in the Gourmet Team and National Team Challenges in the FCC.

The three-day FHA2018 International Conference, also held in two venues from 24 to 26 April, will feature industry experts and business thought-leaders, sharing perspectives, as well as tips and strategies.

Dietary Supplement in Thailand and the AEC

สถานการณ์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเสริมสุขภาพในประเทศไทยและตลาด AEC

Compiled By:
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine

Full article TH-EN

สถานการณ์ธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของไทย
สถานการณ์ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของไทยในปัจจุบันยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจากผู้บริโภคต่างหันมารักษาสุขภาพกันมากขึ้น

แนวโน้มและการเติบโตของธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของไทย
แนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในอนาคต คาดว่าไม่แตกต่างไปจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วมากนัก ประเภทของสารสกัดและตัวผลิตภัณฑ์ยังคงไม่มีอะไรใหม่ แต่การเปลี่ยนแปลงอาจเป็นไปในทิศทางที่พัฒนาสารให้มีความบริสุทธิ์มากขึ้น โดยในอนาคตการขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะเป็นรูปแบบที่ผู้บริโภคสามารถเข้ามามีส่วนร่วม (Create) ด้วยการนำผลิตภัณฑ์มาปรุงรสชาติได้เอง แทนที่จะใช้สูตรสำเร็จรูปจากการพัฒนาของโรงงานผู้ผลิต

เทรนด์ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในอนาคตอาจจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบที่ผู้บริโภคสามารถซื้อวิตามินบริสุทธิ์ มาผสมเป็นเครื่องดื่มทานเองได้ โดยใช้แอพพลิเคชันเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์และแสดงผลว่าร่างกายเราขาดวิตามินชนิดไหน ต้องการเพิ่มปริมาณมากน้อยเท่าไร ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่วางจำหน่ายในท้องตลาดจะอยู่ในรูปของสารสกัดผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น คอลลาเจนบำรุงผิวพรรณ แคลเซียมบำรุงกระดูก และวิตามินบำรุงสมอง
มุมมองต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของไทยในตลาดอาเซียน
สำหรับในช่วงเวลาที่ผ่านมา ภาครัฐได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและศักยภาพของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางการบริการสุขภาพของโลก ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดทำแผนโครงการนำร่องเพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการมีความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งหนึ่งในโครงการนำร่องที่ได้มีการจัดทำ คือ โครงการพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไทย ส่งเสริมการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ และสร้างมาตรฐานให้แก่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อเพิ่มการส่งออกไปยังต่างประเทศ

Dietary Supplement in Thailand
Dietary supplement in Thailand is still growing competently as consumers are shifting towards healthy trend.

Trends and Business Expansion for Thai Dietary Supplement Market
Future food supplement market will not be much different from the past 10 years in terms of varieties of extract substances and products, but the change could take place in the purity of the substances which is continually improving. Also, consumers will have more chance to participate in creating the products that fit their demands instead of relying only on the instant formula from manufacturers.

Dietary supplement trend in the future may allow consumers to purchase purified vitamin to mix in beverages via an application that can analyze the consumer’s vitamin and mineral need, and to what extent they need it. Nonetheless, most products sold in the market will be extracts with specific qualities such as skin care collagen, bone nourishment calcium, and brain booster vitamins.

Prospects of the Development of the Thai Food Supplement in ASEAN Market
So far, the Thai government has highlighted the significance and potential of Thailand’s dietary supplement industry in pushing Thailand towards becoming the “Medical Hub” of the world. The Ministry of Industry (MOI) has conducted a flagship project to prepare enterprises for the AEC. Among many projects, the ministry offered supports for enterprises to develop its dietary supplement products to lift the country’s products standard, promote the use of domestic raw materials, and create new standards to boost exports to foreign market.

Dietary supplement industry also benefits from the Thai government’s aim to become a Medical Hub that provides excellent health services and produces universally accepted health products. According to the 10-year National Strategic Plan to Develop Thailand into a Medical Hub (2016- 2025), dietary supplement is among many products which will be promoted to push Thailand into the hub for medical and wellness products and services. Therefore, enterprises in the industry must get themselves ready in order to be able to respond to the demand for supplements from within and outside Thailand.

 

Factory and Warehouse Management in 4.0 Era

การบริหารจัดการพื้นที่โรงงาน และคลังสินค้า ยุค 4.0

Material World Co., Ltd.

Full article TH-EN

ปัจจุบัน เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยขณะนี้โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) หรือ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตมาใช้ในกระบวนการผลิตสินค้า และมีจุดเด่นคือสามารถเชื่อมความต้องการของผู้บริโภครายบุคคลเข้ากับกระบวนการผลิตสินค้าได้โดยตรง ผ่านการใช้กระบวนการผลิตที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลครบวงจรแบบ “Smart Factory”
สำหรับประเทศไทย การเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 จำเป็นต้องขับเคลื่อนการพัฒนาในทุกๆด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับความเป็นดิจิทัล โดยเน้นการบูรณาการเชื่อมต่อเครือข่าย (Internet of Things : IoT) เพื่อรองรับเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่เข้ามา เพิ่มประสิทธิภาพเริ่มแต่ขั้นตอนการผลิตจนถึงการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นการวางฐานสำคัญให้ประเทศไทยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันกับประเทศต่างๆได้
สำหรับการบริหารจัดการพื้นที่และคลังสินค้าในยุค 4.0 นั้น เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีที่มีอยู่นำมาประยุกต์ใช้ตั้งแต่กระบวนการผลิต จัดเก็บสินค้า ไปจนถึงขนส่งสินค้า ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเทคโนโลยี และอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงาน และคลังสินค้า ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ทั้งนี้สามารถแยกพื้นที่ภายในคลังสินค้า ออกเป็น 2พื้นที่หลัก ได้แก่พื้นที่รับสินค้าเข้าคลัง (Loading) และ พื้นที่การจัดการภายในอาคาร
1. พื้นที่รับสินค้าเข้าคลัง (Loading Area)
การขนส่งสินค้าจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค รวมถึงการกระจายสินค้า เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง การมีอุปกรณ์ที่สามารถช่วยให้การขนถ่ายสินค้าอย่างถูกต้องจะเป็นการช่วยการถนอมสินค้า และประหยัดค่าใช้จ่าย ตัวอย่างอุปกรณ์ เช่น สะพานปรับระดับแบบฝังพื้น (Dock leveler) และ อุโมงค์ป้องกันฝุ่นและแมลง (Dock shelter) ใช้ในการโหลดสินค้า เข้า-ออก จากรถขนส่งสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการโหลด โดยเชื่อมต่อระหว่างรถที่ใช้กับแพลตฟอร์มหรือท่าโหลด ประตูคลังสินค้า (Sectional door) เหมาะสำหรับโรงงานที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ ป้องกันฝุ่นและแมลงเช่นโรงงานอาหาร นอกจากนี้ในกรณีที่คลังสินค้าที่ไม่มีท่าโหลด และมีพื้นที่มาก สะพานโหลดสินค้าแบบเคลื่อนที่ได้ (Mobile ramp) สามารถโหลดขึ้นตู้คอนเทนเนอร์ ช่วยในการขนย้ายสินค้าได้ง่ายด้วยรถฟอล์คลิฟท์
Nowadays, technology plays greater role in many industries. And as the world is approaching Industry 4.0 era, digital technology and internet are being applied to goods manufacturing. The key ability to connect the demand of individual consumers directly to the production chain can be utilised through economical and efficient production process of the complete digital technology, “Smart Factory”.
For Thailand, approaching Industry 4.0 requires development in every aspect, especially digitisation and Internet of Things (IoT), to support technology and machineries to optimise the supply chain in response to the variety demands of customers. These things will lay a crucial groundwork to enhance Thailand’s competitiveness with other countries.
Factory and warehouse management in 4.0 era is to apply existing technology into production process to storage and shipping to be more effective. Technology and tools used in factory and inventory in Industry 4.0 era can be divided into 2 scopes; loading area and indoor management.
1. Loading Area
Transporting goods from manufacturers to consumers, including distribution, is a very crucial step. Having the appropriate tools for this process will help preserve the goods and even save cost. Some equipments such as dock leveller and dock shelter, which are used in products loading from and to vehicles, can increase loading efficiency by connecting the vehicle to a platform or a dock. Sectional door is also suitable for a factory that needs to control temperature and detect dust and insects like food factory. Moreover, in a case where the inventory does not have a dock but wide area, mobile ramp that can load goods into container can also help making things easier with forklift.

 

Which trends offer opportunities on the European market for natural ingredients for health products?

เจาะตลาดยุโรป: ส่องเทรนด์ที่เปิดโอกาสให้กับสารผสมอาหารจากธรรมชาติสำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

By: CBI*
Centre for the Promotion of Imports from Developing Countries

Translated By:
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine

Full article TH-EN

การรับรู้และความเข้าใจในเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และภัยคุกคามของการดื้อยาต้านจุลชีพ ล้วนผลักดันให้เกิดความต้องการสารผสมอาหารจากธรรมชาติสำหรับการผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพขึ้นในตลาดในยุโรป

1. มุมมองเรื่องสุขภาพที่เปลี่ยนไป
ทางยูโรมอนิเตอร์ได้คาดการณ์ว่าในปี 2556-2561 ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในยุโรปจะเติบโตถึงร้อยละ 28 โดยเฉพาะในยุโรปตะวันตก ทั้งนี้ คาดว่ามูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในยุโรปจะแตะยอด 3.2 พันล้านยูโรในปี 2561 โดยรัสเซียประเทศเดียวก็มีสัดส่วนเกือบร้อยละ 67

2. ตลาดกีฬาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ในช่วงปี 2557-2563 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วโลกที่เจาะกลุ่มกีฬาจะเติบโตถึงร้อยละ 9.1 ต่อปี ตัวเลขนี้เป็นผลมาจากมุมมองเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยผู้บริโภคต่างมีความตระหนักในเรื่องสุขภาพทางกายและการออกกำลังกาย ซึ่งนำไปสู่การมีสุขภาพดี

3. ออร์แกนิคก็มาแรง
ผู้ซื้อสารผสมอาหารในยุโรปเริ่มคาดหวังกับสารผสมอาหารที่ได้มาตรฐานออร์แกนิค เช่น ปราศจากสารกำจัดศัตรูพืชตกค้าง ตัวอย่างเช่น ฝรั่งเศสได้พัฒนาแผน Ecophyto Plan ขึ้นในปี 2561 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืชลงร้อยละ 50 จากปี 2551-2561

4. ละเอียดอ่อนกับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
สินค้าที่ทำการค้าอย่างเป็นธรรม หรือ Fair Trade ได้รับความสนใจมากขึ้น รวมทั้งสินค้าในกลุ่มสารผสมอาหารด้วย กระแสนี้เป็นที่โด่งดังในสหราชอาณาจักร ซึ่งผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พวกเขาอยากรู้ลึกไปถึงว่าคนที่เก็บเกี่ยววัตถุดิบคือใคร นี่เป็นโอกาสที่ดีที่ผู้ผลิตจะเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์โดยเลือกใช้สารผสมอาหารที่ผ่านการรับรอง

5. ต้อนรับเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย
ภายในปี 2593 ประชากรชาวยุโรปประมาณร้อยละ 30 จะเป็นกลุ่มผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป นับว่าก้าวกระโดดจากปี 2556 ซึ่งมีอยู่เพียงร้อยละ 17 กลุ่มผู้สูงอายุจึงเป็นเป้าหมายที่น่าจับตามองของผู้ผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพจากธรรมชาติ

นอกจากนี้ยังมีเทรนด์ของความเครียดที่มีมากขึ้น ความชื่นชอบชาเพื่อสุขภาพ ความกังวลกับการดื้อยาต้านจุลชีพ การบำบัดด้วยกลิ่นหอม ความสนใจต่อยาสัตว์จากสมุนไพร ความต้องการผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยาสมุนไพรที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น

A changing perception of health, the ageing population and the threat of antimicrobial resistance drive European demand for natural ingredients for health products.

1. Changing Perception of Health
Euromonitor expects the European food supplements market to grow by 28% from 2013 to 2018. Demand for food supplements is strongest in Western Europe. In 2018, the region is expected to reach a market size of €3.2 billion. Russia makes up around two thirds of that.

2. Growing Demand for Sports Supplements
Globally, the market for sports supplements is expected to grow by 9.1% annually from 2014 to 2020. This growing demand is another result of the changing perception of health. Consumers are increasingly aware that physical health and fitness help to be healthy.

3. Growing Demand for Organic Ingredients
More and more European buyers of conventional ingredient are starting to expect ingredients that meet standards for organic. For example, France has developed the Ecophyto plan 2018 to reduce pesticides by 50% from 2008 to 2018.

4. Consumer Interest in People-Helping-People
Demand for fair trade ingredients in food supplements is growing. This trend is especially strong in the UK. Consumers are interested in ‘people helping people’. They want to hear stories about the people who harvest and produce the ingredients used in their health products. This offers opportunities for you to add value by marketing certified ingredients.

5. Marketing Products to an Ageing Population
By 2050, around 30% of the European population is estimated to be 65 and older. This is opposed to 17% in 2013. The elderly are an important market for natural healthcare manufacturers.

Moreover, there are rising stress levels, growing popularity of herbal teas for health, concern over antimicrobial resistance, growing popularity of aromatherapy, the interest in herbal veterinary medicine, the increased world demand for European herbal medicinal products, etc.

Your Gut Health in 2018

การดูแลสุขภาพทางเดินอาหารรับปี 2018

 

By: Yella HewingsMartin Ph.D.

www.medicalnewstoday.com

 

Translated by: กองบรรณาธิการ

Editorial Team

Food Focus Thailand Magazine

editor@foodfocusthailand.com

Full article TH-EN

จุลินทรีย์ในลำไส้มีการเปลี่ยนแปลงโดยธรรมชาติตลอดช่วงชีวิตของมนุษย์ ได้รับอิทธิพลมาจากปัจจัยทางด้านการรับประทานอาหาร การใช้ชีวิต ฮอร์โมน และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดังนั้น หากเกิดความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ก็จะนำไปสู่การเกิดสภาวะเรื้อรังต่างๆ ตามมา เช่น การแพ้อาหาร ผิวหนังอักเสบ โรคหืดหอบ กลุ่มโรคออทิสติก โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง (โรค CFS) ภาวะลำไส้แปรปรวน และมะเร็ง ดังนั้น มาดูวิธีที่จะดูและรักษาจุลินทรีย์ในลำไส้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เราจะมีแคลอรีเกินๆ อย่างในช่วงวันหยุด ดังนี้

 

  1. อย่าลืมไฟเบอร์

ในขณะที่ไฟเบอร์นั้นไม่อาจถูกย่อยในระบบทางเดินอาหารของร่างกายได้ แต่กลับเป็นที่ชื่นชอบของจุลินทรีย์ในลำไส้ที่จะนำมาใช้เป็นแหล่งอาหาร ถ้าเราไม่ได้รับไฟเบอร์จากการรับประทานอาหารอย่างเพียงพอ จุลินทรีย์เหล่านั้นก็จะไปดึงเมือกที่เซลล์เยื่อบุผิวลำไส้มาเป็นแหล่งอาหารแทน ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดภาวะลำไส้ดูดซึมผิดปกติ อันเป็นสาเหตุให้ผนังลำไส้รั่วซึมอย่างรุนแรงนั่นเอง และยังเสี่ยงที่จะเกิดภาวะลำไส้ใหญ่อักเสบ หรือเกิดการอักเสบของร่างกายและนำไปสู่ความผิดปกติของไขมันในเลือด ตลอดจนความดัน และระดับน้ำตาล ซึ่งล้วนเป็นสภาวะความเสี่ยงของโรคทางเมทาบอลิกที่พบร่วมกัน

 

  1. รักษาลำไส้ด้วยช็อกโกแลต

โกโก้มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์สูงมากและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ทั้งลดปริมาณคอเลสเทอรอลไปจนถึงการเสริมสร้างทารกในครรภ์ การรับประทานโกโก้นั้นช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการของโรคลำไส้อักเสบ (IBD) ทั้งชนิดที่เกิดเฉพาะบริเวณลำไส้ใหญ่เท่านั้น (Ulcerative colitis) และชนิดที่พบได้ในทุกส่วนของระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเริ่มจากช่องปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ และทวาร (Crohn’s disease)

 

  1. หมั่นออกกำลังกายกันหน่อย

มีการรายงานจาก Medical News Today เกี่ยวกับการศึกษาผลของการออกกำลังกายซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณจุลินทรีย์ในลำไส้หลากหลายสายพันธุ์ โดยหนึ่งในการศึกษาเน้นไปที่ผลที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายของหนูไมค์ โดยกลุ่มหนึ่งมีการเคลื่อนไหว อีกกลุ่มหนึ่งให้อยู่กับที่ นักวิจัยได้ทำการปลูกถ่ายเชื้อจุลินทรีย์ในอุจจาระจากทั้งสองกลุ่มทดลองไปยังลำไส้หนูไมค์ที่เลี้ยงภายใต้สภาวะปลอดเชื้อ พบว่าหนูไมค์ที่ได้รับการปลูกถ่ายเชื้อจุลินทรีย์ในอุจจาระจากกลุ่มทดลองที่ให้ออกกำลังกายมีปริมาณแบคทีเรียในลำไส้มากขึ้น ซึ่งสามารถเผาผลาญเส้นใยและได้กรดไขมันสายสั้น เป็นกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังพบระดับการอักเสบลดลง

 

  1. อย่าปล่อยให้เครียด

ในวารสาร Scientific Reports ได้ค้นพบว่าเมื่อหนูไมค์เพศเมียเกิดความเครียดที่ไม่ทราบสาเหตุ ส่งผลให้จุลินทรีย์ในลำไส้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเจน เมื่อความหลากหลายของแบคทีเรียในกลุ่ม Lachnospiraceae, Ruminococcaceae และ Peptococcaceae ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการมีสุขภาพแข็งแรงของร่างกายนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะการได้รับอาหาร ซึ่งเหมือนกับการทดลองของหนูไมค์ที่ให้กินอาหารที่มีไขมันสูงมากๆ ดังนั้น แม้จะมีอาหารที่ดีที่สุดในโลกแล้ว แต่หากมีความเครียดนั่นอาจส่งผลไปยังจุลินทรีย์ในลำไส้ของร่างกายได้

 

Know Your Food Industry Mechanical Conveyors

กลไกการลำเลียงในอุตสาหกรรมอาหาร

แปลและเรียบเรียบโดย: กองบรรณาธิการ

Editorial Team

Food Focus Thailand Magazine

Full article TH-EN

โรงงานผลิตอาหารทุกแห่งย่อมต้องมีระบบลำเลียงเพื่อใช้เคลื่อนย้ายวัตถุดิบจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งอย่างมีประสิทธิภาพ คนส่วนใหญ่มักคุ้นเคยกับการตั้งระบบสายพานแบบดั้งเดิมที่เคลื่อนย้ายสินค้าอย่างมีแบบแผนไปทั่วโรงงาน อย่างไรก็ตาม ระบบลำเลียงในปัจจุบันได้ถูกนำไปควบรวมกับเทคโนโลยีอื่นๆ มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโรงงานแปรรูปอาหาร และตอบโจทย์กับอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากที่เครื่องมือทุกอย่างถูกออกแบบมาสำหรับการใช้อย่างมีสุขอนามัย และยังได้รับการรับรองโดยมาตรฐาน USDA หรือ FDA

 

กลไกระบบลำเลียงและเครื่องกลที่นิยมใช้ในโรงงานผลิตอาหาร

สายพาน – สายพานน่าจะเป็นระบบเคลื่อนย้ายสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยใช้กันในกระบวนการแปรรูปและบรรจุอาหาร เนื่องมาจากผิวหน้าของสายพานที่ราบเรียบและต่อเนื่อง สายพานสำหรับอุตสาหกรรมอาหารต้องมีความแข็งแรง คงทน และผลิตจากวัตถุดิบที่ได้รับการยอมรับให้ใช้กับสินค้าอาหารและสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ เช่น ไนลอน ยาง โพลิเอสเตอร์และอื่นๆ ระบบสายพานประกอบไปด้วยรอกอย่างน้อย 2 ตัว ที่ทำให้เกิดลูปต่อเนื่องในการเคลื่อนย้ายวัตถุดิบ สายพานสามารถปรับให้เอนขึ้น ลาดลง หรือปรับเป็นแนวราบเพื่อรองรับกระบวนการตรวจสอบ แช่เย็น และเคลื่อนย้ายสินค้า

 

ระบบลำเลียงแบบสั่น ระบบสกรูลำเลียง ระบบสกรูลำเลียงแบบยืดหยุ่น ระบบลำเลียงแบบแอโรเมคานิค (Aero-Mechanical Conveyors; AMC) – หรือในบางครั้งเรียกกันว่าระบบการลำเลียงแบบ  “เชือกและถาด”  เป็นต้น

 


10 ข้อต้องพิจารณาที่เมื่อเลือกระบบลำเลียงสินค้า

เพื่อให้การพูดคุยกับซัพพลายเออร์และเลือกระบบลำเลียงสินค้าที่ถูกต้องกับการใช้งาน ผู้ซื้อควรพิจารณาประเด็นเหล่านี้ก่อนการตัดสินใจ เช่น ระบบลำเลียงจะใช้กับสินค้าอะไร? สิ่งที่ต้องพิจารณา: ความหนาแน่นและขนาดของผลิตภัณฑ์ คุณสมบัติต่างๆ เช่น การกัดกร่อน ปริมาณความชื้น ความคล่องตัวในการเคลื่อนที่หรือไหลของสินค้า ความละเอียด (ฝุ่น) ติดไฟ หรือระเบิดได้หรือไม่ สินค้าจะเคลื่อนที่มาจากไหน? (เช่น ไซโล กระสอบ ฯลฯ) สินค้าจะเคลื่อนที่ไปไหน? (เช่น เครื่องผสม ตัวป้อน เครื่องบด ฯลฯ) เป็นต้น

 

ด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ระบบลำเลียงในปัจจุบันจึงมีการติดตั้งเครื่องมือการทำงานต่างๆ ให้ดีขึ้น กระบวนการควบคุมคุณภาพที่จากเดิมเคยเป็นคอขวดที่ชะลอกระบวนการผลิต กลับได้รับการพัฒนา หลังมีการติดตั้งเครื่องมือต่างๆ เช่น เครื่องตรวจจับโลหะ และเครื่องชั่งน้ำหนัก เข้ากับระบบการเคลื่อนย้ายสินค้า เครื่องมือเหล่านี้ทำให้การจัดการสินค้าในปริมาณมากเป็นเรื่องง่าย และยังทำให้ระบบดังกล่าวถือเป็นระบบควบคุมคุณภาพที่มีศักยภาพมากที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้

 

 

Put Ourselves in our Customers’ Shoes

ขอให้คำนึงถึงผู้บริโภคเทียบเท่าตัวเรา

 

โดย:
สหัส รัตนะโสภณชัย
Sahas Ratanasoponchai
Assistant Vice President: Hygiene Business
Betagro Group

Full article TH-EN

หากมีกรณีการจับกุมผู้ผลิตเนื้อสัตว์ที่ปลอมแปลงเอกสาร และนำเนื้อสัตว์ด้อยคุณภาพที่มีประเด็นทั้งทางด้านปนเปื้อนเชื้อ ปลอมปนเนื้อ และตกสเป็ค (Specification) ซึ่งมีผลต่อผู้บริโภคโดยตรงเกิดขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อผู้ผลิต รวมทั้งต่อประเทศผู้ผลิต โดยมีการสั่งห้ามเนื้อสัตว์จากผู้ผลิตรายดังกล่าวเข้าประเทศผู้นำเข้า ในกรณีเช่นนี้ควรทำอย่างไรและรับผิดชอบเพียงใด

 

แม้จะมีบทลงโทษในกรณีดังกล่าวก็ตามในทางกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติ จริยธรรม ใครในหน่วยงานของบริษัทต้องรับผิดชอบ และใส่ใจเพียงใดที่จะไม่ทำอะไรที่ผิดจรรยาบรรณและจริยธรรม หากเรามองปัญหานั้นว่าสุดท้ายเราเองที่เป็นผู้บริโภค…“ขอให้คำนึงถึงผู้บริโภคเทียบเท่าตัวเรา”…เราเองจะซื้อสินค้าด้อยคุณภาพนั้นหรือ คำตอบคือไม่ซื้อแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้การสร้างคุณค่าของสินค้าคงไม่ใช่การผลิตอย่างเดียวแล้วตรงตามสเป็ค แต่รวมถึงการสร้างจิตสำนึกให้พนักงานทุกคนที่ต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้า หากบริโภคสินค้านั้นแล้วมีอันตรายต่อผู้บริโภค

 

เราควรจะเริ่มกันอย่างไร?

  1. 1.ปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด หากพบประเด็นที่ดูแล้วมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพ ต้องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที และกักสินค้า (Quarantine) ช่วงดังกล่าวไว้ก่อน

 

  1. 2.สร้างจิตสำนึกร่วมทั้งองค์กรโดยปฏิบัติให้เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บังคับบัญชาหรือตัวบริษัทเอง การสร้าง “Quality Mind” ให้เกิดขึ้นทั่วองค์กรจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะตอกย้ำว่าเราใส่ใจจริง ไม่ใช่เพียงคำโฆษณาเท่านั้น การอบรมเป็นหนึ่งในมาตรการในการสร้าง แต่การสร้างให้เป็นวัฒนธรรมขององค์กรต้องใส่ความตั้งใจจริงลงไปให้เห็น ซึ่งผู้ที่จะรับรู้ได้คือตัวพนักงานและผู้บริโภค ซึ่งนั่นก็คือตัวเราเอง

 

  1. 3.สร้าง KPI (Key Performance Index) ร่วมกันในเรื่องดังกล่าว โดยที่ไม่นำประเด็น KPI ของแต่ละคนมาทำให้ภาพรวมเสียไป ซึ่งมักพบเห็นในองค์กรไทยที่ต่างคนต่างสนใจในตัวเอง ขอให้ตัวเองได้ KPI แต่ภาพรวมเป็นเช่นไรไม่ใส่ใจ

 

  1. 4.ให้คำนึงถึง “Quality” ก่อนทำ “Productivity” หลายครั้งที่เราพบเห็นว่าการสร้าง “Productivity” ทำให้องค์กรมีกำไรทันที แต่หลายครั้งเช่นกันที่ถูกมองข้ามเรื่อง “Quality” ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจยังมองไม่เห็นในวันนี้ ดังนั้น “Quality Mind” จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้ลดปัญหาในการผลิตได้

 

เราคงไม่อยากได้ยินข่าวสินค้าของเราที่ด้อยคุณภาพออกไปสู่ท้องตลาด ไม่อยากได้ยินว่าสินค้าของเราไม่ใส่ใจผู้บริโภค และยิ่งในปัจจุบันโซเชียลมีเดียมาเร็วและแรงมากกว่าที่คิด เพียงครู่เดียวข่าวคราวในด้านลบมักไปเร็วและกระทบอย่างรุนแรงเสมอ หากในวงการทั้งผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่รัฐ  ผู้ประกอบวิชาชีพ ได้ตระหนักถึงผู้บริโภคก่อนมากกว่าผลประกอบการจะเป็นการสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริง

 

เรามาเปลี่ยนแปลงแนวคิดกันใหม่ให้สมกับที่เราจะเป็นครัวของโลกที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง และจะเป็นการตอกย้ำว่าเราจะนึกถึงประโยคนี้ตลอดไป… “ขอให้คำนึงถึงผู้บริโภคเทียบเท่าตัวเรา”…

The Technology of Thermal Processed, Shelf Stable Foods

กระบวนการแปรรูปทางความร้อนเพื่อเก็บรักษาอาหารไว้ได้นาน

โดย: Ellab A/S

แปลโดย: บริษัท พามาลิน มาร์เก็ตติ้ง จำกัด

Pamalyne Marketing Co., Ltd.

Full article TH-EN

อาหารถือเป็นหัวข้อหลักในบทสนทนาของคนไทย ซึ่งถือว่าประเทศไทยในขณะนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารแปรรูปมากมาย เนื่องด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางด้านเกษตรกรรมและทรัพยากร ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ในเอเชียและติดหนึ่งในกลุ่มผู้ส่งออกระดับโลก

 

การคิดค้นและพัฒนากระบวนการแปรรูปทางความร้อนเพื่อเก็บรักษาอาหารไว้ได้นานสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้การฆ่าเชื้อทางความร้อนจึงเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับในวงการวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลกมาอย่างยาวนานกว่า 300 ปี อาหารที่ใช้การแปรรูปด้วยความร้อนจะเป็นกลุ่ม ผัก เนื้อ หรือ ปลา โดยอาศัยเทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์แบบไม่ให้อากาศเข้า และใช้กรรมวิธีทางความร้อนเพื่อทำลายและยับยั้งเอนไซม์ เชื้อจุลินทรีย์ สารพิษต่างๆ เพื่อคงคุณค่าทางโภชนาการและลักษณะด้านประสาทสัมผัสเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

 

การควบคุมกระบวนการผลิตทั้ง Process Control Procedure (PCP) และ Process Control Equipment (PCE) ถือเป็นข้อกำหนดที่สำคัญสำหรับโรงงานแปรรูปทางความร้อนที่ได้มาตรฐาน ดังนั้นผู้ผลิตจึงต้องศึกษาการแทรกผ่านความร้อน (Heat Penetration) เพื่อให้ได้รูปแบบที่ถูกต้อง รวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ และกระบวนการที่ส่งผลกระทบต่ออัตราความร้อน ก่อนการศึกษาและทดสอบการแทรกผ่านความร้อนนั้น ผู้ผลิตจำเป็นต้องวัดอุณหภูมิของหม้อนึ่งฆ่าเชื้อ (Retort) และทราบรูปแบบการถ่ายเทความร้อน (Heat Transfer Uniformity) ของอาหาร เพื่อระบุถึงจุดตำแหน่งอุณหภูมิที่ร้อนช้าที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเชิงอุตสาหกรรม

 

การวัดค่าอุณหภูมิ การเก็บรวบรวมข้อมูล และการคำนวณค่า F0

ความแม่นยำและความถูกต้องของระบบการรวบรวมข้อมูลในการศึกษาการแทรกผ่านความร้อนเกี่ยวข้องกับการอ่านค่าของอุณหภูมิ สิ่งสำคัญที่ควรจะตระหนักไว้ก็คือ ค่าความคลาดเคลื่อนทั้งระบบ (Systematic Error) ของอุณหภูมิการวัดเพียง 1 องศาเซลเซียส จะมีผลทำให้ความแม่นยำของค่าการคำนวณ F0 ที่ 120 องศาเซลเซียส ผิดเพี้ยนไป (Inaccuracy) ถึงร้อยละ 26 โดยวิธีการวัดค่าอุณหภูมินั้นควรทำในหลายบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างกัน และสามารถคำนวณค่า F0 ในบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการได้อย่างอัตโนมัติ สามารถให้เอกสารประกอบที่เหมาะสม (ผ่านเครื่องพิมพ์หรือคอมพิวเตอร์) และระบบสามารถยอมรับค่า F0 ที่กำหนดไว้โดยจะมีการส่งสัญญาณจากระบบเพื่อสามารถทำงานไปได้อย่างสอดคล้องกัน