สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง ได้ดำเนินโครงการจัดทำภาพอนาคตสินค้าอาหารจากพืช (Plant-based Food) เพื่อศึกษา วิเคราะห์ศักยภาพ โอกาส แนวโน้มทิศทาง รวมถึงการจัดทำภาพอนาคต (Foresight) ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย สำหรับการพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งทางการค้าของผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน เปิดประตูสู่โอกาสทางธุรกิจ พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
คุณพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลการจัดทำภาพอนาคตว่า ได้ภาพอนาคตสินค้าอาหารจากพืชของไทย 4 ฉากทัศน์ โดยฉากทัศน์ของอนาคตที่เป็นไปได้ (Probable Future) คือ ประเทศไทยเป็นแหล่งวัตถุดิบอาหารเพื่อสุขภาพของโลก ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบเพื่อผลิตและส่งออกอาหารสุขภาพ รวมถึงตอบโจทย์ความมั่นคงทางอาหาร
นอกจากนี้ ยังมีอนาคตทางเลือก (Alternative Future) อีก 3 ฉากทัศน์ ได้แก่ 1) ฉากทัศน์ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงเทศกาล วัฒนธรรม และเกษตรยั่งยืน คือ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเทศกาลวัฒนธรรมและเกษตรยั่งยืนของคนไทยและชาวต่างชาติ 2) ฉากทัศน์ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ประเทศไทยเป็นแหล่งของธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ อีกทั้งยังมีการประยุกต์วัฒนธรรมอาหารและวัตถุดิบท้องถิ่นร่วมกับธุรกิจอาหารในทุกมุมของประเทศ และ 3) ฉากทัศน์ของสินค้าอาหารแปรรูป Plant-based Food ซึ่งเป็นภาพอนาคตที่เกษตรกรไทยพัฒนาศักยภาพเพื่อเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกสินค้าอาหารจากพืชที่มีคุณภาพและมูลค่าสูง เพื่อตอบรับความต้องการของตลาดโลก
จากผลการศึกษามีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 6 ด้าน เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาสินค้าอาหารจากพืชของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และมีความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก ดังนี้
1) ด้านการผลิตและแปรรูป ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม Plant-based Food ที่สำคัญของโลก ผ่านการส่งเสริมคุณภาพการผลิต พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเกษตร สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความพร้อมทางด้านทักษะต่างๆ
2) ด้านการตลาด ส่งเสริมการตลาดและการท่องเที่ยว เพื่อขยายโอกาสทางการค้า การส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่าสูง เพิ่มการเข้าถึงของลูกค้า และขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยวมูลค่าสูง อาทิ เชิงเทศกาลวัฒนธรรม เชิงเกษตรยั่งยืน และเชิงสุขภาพ รวมทั้งสร้างแบรนด์ โดยสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ให้โดดเด่นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน
3) ด้านวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพิ่มมูลค่าและยกระดับคุณภาพให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศด้าน Plant-based Food ระดับโลก ผ่านการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี และเผยแพร่องค์ความรู้ รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการวิจัยพัฒนา
4) ด้านฐานข้อมูล ควรมีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าเกษตรและ Plant-based Food เพื่อใช้วางแผนการพัฒนานโยบายที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการจัดทำฐานข้อมูลพืชที่มีศักยภาพในแต่ละท้องถิ่น รวมทั้งฐานข้อมูลทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรม Plant-based Food ตลอดห่วงโซ่อุปทาน
5) ด้านการลงทุน ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในประเทศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ยกระดับคุณภาพสินค้า และสร้างความยั่งยืนในกระบวนการผลิตและการใช้ทรัพยากร อาทิ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรและอีคอมเมิร์ซ ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม Plant-based Food สร้างสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ เพื่อดึงดูดการลงทุนที่มีศักยภาพ และการสนับสนุนด้านเงินทุนและการวิจัยพัฒนาให้กับ SMEs ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี
6) ด้านกฎหมาย ส่งเสริมให้มีการปรับปรุงพัฒนากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตร และ Plant-based Food เพื่อสร้างกรอบที่ชัดเจน ทันสมัย สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และตอบสนองความต้องการของตลาด อาทิ การจัดทำข้อกำหนดฉลากอาหารจากพืชของไทยเพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้บริโภค และพิจารณาทบทวนการปรับลดหรือยกเว้นภาษีนำเข้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งพิจารณาทบทวนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยี GMO
นอกจากนี้ คุณพูนพงษ์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า สนค. ได้จัดทำแผนที่นำทางหรือโรดแมป (Road Map) สำหรับการพัฒนาสินค้าอาหารจากพืชของไทย พ.ศ. 2567 – 2576 ที่สอดคล้องกับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่กล่าวมาข้างต้น โดยแบ่งเป็นระยะเริ่มต้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อส่งมอบให้หน่วยงานภาครัฐและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต หอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย รวมถึงหน่วยทุนและหน่วยสนับสนุนทางการค้า สตาร์ทอัป และ SMEs ใช้เป็นข้อมูลและแนวทางการดำเนินงาน เพื่อร่วมกันพัฒนาสานต่อการสร้างภาพอนาคตสินค้าอาหารจากพืช (Plant-based Food) และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางอาหารแห่งอนาคตระดับโลก ด้วยศักยภาพของประเทศไทย ซึ่งมีความพร้อม และความตั้งใจที่จะสร้างคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนแก่คนไทยและพลเมืองโลก
อ่านข้อมูลฉบับเต็มได้ที่: https://tpso.go.th/news/2409-0000000001